สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน เปิดฉาก 6 นายกฯ-รมต. สับแหลกรัฐบาล ทุจริต แทรกแซง เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ฉ้อฉล เข้าสู่ตำแหน่งการเมือง บริหารเศรษฐกิจล้มเหลว ยัน ไม่อาจไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อ

วันที่ 24 ก.พ. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย จำนวน 6 คน คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ข้อหา ไม่ยึดมั่นการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ใช้อำนาจที่ได้มาโดยมิชอบ เป็นผู้นำประเทศปิดปากผู้เห็นต่าง ก่นด่า ปล่อยให้มีการทุจริตเต็มบ้านเต็มเมือง ใช้อำนาจหน้าที่อำนวยประโยชน์ให้พวกพ้อง แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีพฤติการณ์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่รักษาการเงินการคลัง ใช้งบประมาณของรัฐสร้างคะแนนเสียงให้ตัวเอง ล้มเหลวไร้ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดสภาพรวยกระจุก จนกระจาย ล้มเหลวแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ หลอกลวงประชาชนไม่ทำตามที่ได้หาเสียงกับประชาชนไว้ 2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 3.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นเรื่องอภินิหาร ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

4.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มีวิธีการทุจริต ฉ้อฉล แสวงหาประโยชน์อันไม่ควรได้เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง จงใจปฏิบัติหน้าที่บทบัญญัติรัฐธรรมนูญตามกฎหมาย ไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ 5.นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ขาดคุณธรรมจริยธรรม แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม จงใจใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทข้ามชาติ และ 6.นายธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด ล้มแหลว ขาดคุณธรรมจริยธรรม ปกป้องพวกพ้อง เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง

...

นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ 24 ก.พ. 2563 ฝ่ายค้านจำเป็นต้องเปิดอภิปราย ตั้งข้อกล่าวหารัฐบาลไม่อาจไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อไป เนื่องด้วยการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง ใช้อำนาจโดยมิชอบ ทำให้ล้มเหลว 5 ประการ

1. ล้มเหล้วสร้างความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย การเมืองของพวกท่านสร้างกลไกต่างที่เป็นขอครหาว่าเอื้อพวกพ้อง เรื่องตั้งแต่ร่าง รธน. ที่พวกท่านพูด ร่าง รธน.เอื้อเพื่อพวกเรา เรื่อง ส.ว. ที่ตัวพวกท่านตั้งขึ้นมา ยันประชาชนเลือกตั้งมา เขาไม่ได้เลือกท่านเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ความจริงคือมันเอื้อเพราะร่าง รธน.ที่พวกท่านสร้างขึ้นมา อย่ามาอ้างว่าร่าง รธน.ผ่านประชามติมา 

2. ทุกวันนี้เกือบทุกประเทศในโลกล้วนไม่เปิดรับประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยจอมปลอม ไม่ว่าการคิดคะแนนส.ส.ที่สับสน ทำให้การเมืองประเทศไม่มั่นคง ทำให้ประเทศเราเดินไปข้างหน้าได้อย่างไร ผมจึงไม่วางใจให้ท่านอยู่ในตำแหน่งบริหารประเทศได้อย่างไร ผมไม่อาจยอมให้พวกท่านส่งต่อประชาธิปไตยให้รุ่นลูกหลานของเราต่อไป ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว

3. ล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีความรู้ช่ำชองด้านการทหาร แต่มาเป็นหัวหน้าเศรษฐกิจ ท่านกำลังทำให้ประเทศไทยจากกำลังรุดหน้า กลายเป็นประเทศล้มลุกคลุกคลาน ล้าหลัง ภายใน 6 ปี ทำให้ประเทศที่พวกเราสร้างกันมาล่มสลายอย่างหมดสิ้น ท่านทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศอัตราเจริญเติบโตต่ำสุดในรอบ 5 ปี ธนาคารกสิกรไทย ชี้โตแค่ 1.8% รายได้เกษตรต่ำสุดในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา หนี้ครัวเรือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งหมดนี้เกิดจากการบริหารงานผิดพลาด 

โครงการเศรษฐกิจต่างๆ ที่ผิดพลาด อย่าง "ชิมชอบใช้" หรือ "บัตรคนจน" ท่านช่วยกลุ่มเจ้าสัวมหาเศรษฐี แต่ประชาชนกลับไม่ช่วย ท่านหนุนเอาสินเชื่อไปให้เขา จะให้มีการซื้อขายสินค้า แต่พี่น้องประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ตอนนี้ท่านได้ทำลายประเทศ ทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ ขณะเลือกคนไร้ความสามารถนำมาบริหาร 

4. การปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันก็ล้มเหลว เพราะท่านเลือกปฏิบัติ ถ้าเป็นพวกท่านก็ไม่มีอะไร แต่กลับมุ่งทำลายฝั่งตรงข้าม ยิ่งกรณีกราดยิงที่โคราช ทำให้ประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ยิ่งเห็นได้ชัด ว่าปล่อยให้เกิดกรณีนี้ขึ้นมาได้ ทั้งที่น่านนายกฯเองก็เคยเป็นอดีตผบ.ทบ.มาก่อน  

และ 5. ล้มเหลวความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ สอบตกการเป็นผู้นำ เพราะต้องการเพียงทุกคนต้องรับคำสั่ง เคยชินใช้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ทำให้เห็นพฤติกรรมนายกฯ ในหลายวาระ โยนของใส่ผู้สื่อข่าว หรือการใช้คำพูดทำให้กระเทือนภาพลักษณ์ของประเทศ เรื่อง 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า การแสดงออกในเหตุการณ์สะเทือนขวัญคนไทย กราดยิงโคราช ทั้งหมดยืนยันว่า ผมไม่อาจไว้วางใจท่านนายกฯ ให้บริหารประเทศต่อไปได้.