การให้ความรู้ประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ยังมีคนเลวๆชอบไปบิดเบือน ทำให้เกิดปัญหา

อาการหัวร้อนของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม หลังเฟกนิวส์ไหลบ่าออกมาเป็นขยะโซเชียล สืบเนื่องจากการแก้ไขปัญหาไวรัสโคโรนา และฝุ่น PM2.5

และก็เป็นฝ่ายค้านที่โดนเหวี่ยงไปเต็มๆ

จ้องจะเล่นการเมืองกันอย่างเดียว ประเทศนี้ไม่ใช่ของท่านด้วยหรือ???

เฟกนิวส์มีจริง แต่ที่ไม่เฟกก็มี ปัญหาราคาสินค้าตกต่ำ เศรษฐกิจถดถอย ลามเป็นกระแส #เบื่อลุง

ปัญหาสารพัดถาโถมเข้ามาก็จริง แต่รัฐบาลคงเล่นบทตั้งรับอย่างเดียวไม่ได้ ต้องโชว์ภาพการทำงานเชิงรุกให้ประชาชนมีความหวังด้วย

มาตรการ “ชิมช้อปใช้” ยังต้องเดินหน้าต่อไป ล่าสุด นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เตรียมลุยต่อเฟส 4 รอปล่อยของช่วงสงกรานต์ กระตุ้นการใช้จ่าย การท่องเที่ยวในประเทศ หลังเฟส 1-3 ผ่านไปได้สวย

มาตรการอะไรที่ทำให้เงินถึงมือชาวบ้านระดับล่าง และเกิดการใช้จ่ายเงินหมุนเวียนหลายๆรอบ หลายๆทอด ต้องเข็นออกมาเยอะๆไวๆ ชาวบ้านได้ลืมตาอ้าปาก ภาครัฐก็ได้อานิสงส์จากภาษี

รัฐมนตรีคนไหนทำไม่ได้ ทำไม่เป็น ก็ต้องปรับ ครม.เปลี่ยนตัวออก หมดเวลาเกรงใจกันแล้ว

ชั่วโมงนี้รัฐบาลต้องบริหารบ้านเมือง ไม่ใช่มัวแต่เสียเวลาอยู่กับการบริหารการเมือง

เหลือบไปดูวาระร้อนคิวซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตกลงเบื้องต้นจะเปิดฟลอร์ชำแหละกันวันที่ 24-26 ก.พ. และลงมติ 27 ก.พ. ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ 29 ก.พ.

อะลุ่มอล่วยเผื่อเหลือเผื่อขาดให้ฝ่ายค้านนิดหน่อย

แต่มวยยังไม่ทันขึ้นชกก็ออกอาการแล้ว ฝ่ายรัฐบาลเต้นผางกับญัตติของฝ่ายค้านที่ยื่นเข้ามาแบบแสบสัน โดยเฉพาะข้อกล่าวหา “ลุงตู่” ที่ชักแม่น้ำทั้ง 5 มาสาดเสียเทเสีย

...

“ลุงตู่” หรือคนใกล้ชิดอ่านแล้วหัวร้อนไปถึงหู

แล้วก็เป็นบรรดาลูกหาบบางก๊วนที่ไปยื่นร้องนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ว่ามีบางประเด็นเป็นเท็จ เช่น เรื่องการฉีกรัฐธรรมนูญ พร้อมขู่ฝ่ายค้านเจอประท้วงแหลก อภิปรายไม่ราบรื่นแน่

ส่งสัญญาณเล่นมวยวัด ปั่นป่วนชวนทะเลาะ แค่นึกภาพก็เอือมระอาน่าเบื่อหน่าย

วางแผนตั้งองครักษ์พิทักษ์ “ลุงตู่” กันเอิกเกริก เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไม่พ้นวังวนการเมืองเก่าๆ

แต่ประเด็นที่เถียงกันคอแห้งแน่ คือ ปมอภิปรายย้อนหลังไปถึงยุค คสช.ทำได้หรือไม่

ดูทรงแล้วน่าจะไฟเขียว ตามสัญญาณที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เด็กในคาถานายชวนออกมาแผ้วทางให้ฝ่ายค้านย้อนอดีตกะซวกรัฐบาลตามสะดวก

งานนี้จะบอกว่า “ลุงตู่” ไม่หวั่นไหวก็คงไม่เชื่อ เพราะเป็นเวทีแรกที่จะโดนถล่มเต็มๆ ตามที่ฝ่ายค้านประกาศโฟกัส “ลุงตู่” เป็นเป้าใหญ่ รัฐมนตรีรายอื่นๆแค่น้ำจิ้ม เครื่องเคียง

หลังประชุม ครม.วันก่อน นายกฯถึงกับออกปากขอให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ช่วยประคองเกมซักฟอกในประเด็นเศรษฐกิจด้วย

นั่นจึงเป็นที่มาของการนัดกินข้าวระหว่าง “สมคิด-อุตตม” กับ “กลุ่มสามมิตร” ที่นำโดย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมศักดิ์ เทพสุทิน-อนุชา นาคาศัย” และ ส.ส.อีกร่วม 40 ชีวิต ที่โรงแรมสุโกศล

โชว์ความนิ่ง โชว์ฟอร์มรุ่นใหญ่ให้เด็กมันดู สร้างความอุ่นใจให้กัปตันเรือเหล็กอย่าง “ลุงตู่”

งานนี้ไม่มีรายการทิ้ง “ผู้นำ” ไว้ข้างหลัง

ฉายภาพความเป็นมืออาชีพ แม้ไม่มีใครถูกฝ่ายค้านจับขึ้นเขียง ทั้ง “สมคิด-อุตตม” หรือ “สุริยะ-สมศักดิ์” แต่ก็ไม่อยู่เฉย ให้คนนินทาครหาดูถูก

ออกโรงช่วยเหลือผู้นำรัฐนาวาเต็มที่ เพราะลงเรือลำเดียวกันมาแล้ว

ชัดเจนที่สุดต้องฟังจาก “สมศักดิ์” การอภิปรายนายกฯ ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องทำการบ้านหาข้อมูล ซักซ้อมว่าจะช่วยกันอย่างไร

เพราะหากนายกฯพลาดพลั้งก็จะล้มเหลวไปทั้งหมด

รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่ถูกอภิปรายเลย หากไม่อยากให้ถูกมองในมุมอื่นต้องมาช่วยกัน เพื่อทำให้ผู้นำรัฐบาลต้องอยู่ให้ครบ 4 ปี

สะอึกกันทั้งพรรคร่วม พรรคหลัก โดยเฉพาะพวกที่อยากใหญ่ แต่ใจไม่นิ่ง!!!

ทีมข่าวการเมือง