ฝ่ายค้าน-ดักคอ หากยังพูดไม่จบ ต้องเปิดวิสามัญ

รัฐบาลเคาะวันซักฟอก 25-27 ลงมติ 28 ก.พ. “บิ๊กตู่” ฮึ่มเสร็จศึกจะพิจารณาคนให้ร้าย “บิ๊กป้อม” ดักคอควรหรือไม่คุ้ยถล่มปมส่วนตัว เมินข่าวถูกเขี่ยพ้น ครม. ยันไม่ทะเลาะกับนายกฯ ถ้าเห็นมีประโยชน์ก็ทำงานต่อ “ธรรมนัส” ไม่กังวลถูกขุดอดีตมาชำแหละ “สนธิรัตน์” มั่นใจพรรคร่วมฯไม่แตกแถว “สมศักดิ์-สุริยะ” โอ่เสียงเกินครึ่งไม่ต้องพึ่งงูเห่า “ชวน” หารือเลขาธิการสภาฯคำร้องญัตติซักฟอกเป็นเท็จหรือไม่ “สมบูรณ์” ชี้บรรจุวาระแล้วแก้ไขไม่ได้ ชี้ปกติใส่เต็มที่ไม่มีอวยกันค่อยไปแจงหักล้างในสภาฯ “สุทิน” ฉะรัฐบาลตุกติกบีบเงื่อนเวลา อภิปรายฯไม่จบประธานสภาฯต้องเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ไม่เช่นนั้นผิดข้อบังคับ-ขัดรัฐธรรมนูญ “อนุดิษฐ์” ขู่เปิดความจริงด้านมืด นับถอยหลังผู้นำพบจุดจบอนาถ “เฉลิม” ซัด “วิษณุ” ปล้นสมบัติชาติ จ่อทำคลิปขย่มภาคต่อ โวรัฐบาลจะทรุดอยู่ไม่ได้

รัฐบาลยืนยันข้อสรุปให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ระหว่างวันที่ 25-27 ก.พ.และโหวตลงมติในวันที่ 28 ก.พ. ขณะที่พรรคฝ่ายค้านระบุถ้าฝ่ายรัฐบาลบีบทางอ้อมเรื่องเวลา ประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องเสนอเปิดการประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ เพื่ออภิปรายให้จบตามที่ข้อบังคับการประชุมสภาฯ และรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้การอภิปรายต้องดำเนินจนจบสิ้น

...

“บิ๊กตู่” ขอช่วยกันทำบ้านเมืองสงบ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการประชุมนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นำคณะผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา 2563 และนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา 2563 นายกฯ กล่าวกับเด็กๆ อย่างอารมณ์ดีว่า ต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย อย่าไปทะเลาะเบาะแว้งกัน เกลียดชังกัน ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น การพูดอะไรไปแล้วเกิดความเสียหายไม่ใช่ข้อเท็จจริง ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ตัวเอง ช่วงท้ายเด็กคนหนึ่งขอหอมแก้มนายกฯ บอกแม่ฝากมาให้จุ๊บแก้ม ทำให้นายกฯยิ้มอุ้มเด็กขึ้นมายื่นแก้มให้หอม บอกว่าเห็นเด็กแบบนี้ทำให้นึกถึงลูกตอนเล็กๆ ขอให้เด็กทุกคนโตขึ้นมาเป็นเด็กที่สดใสน่ารัก อย่าทำตัวเหมือนผู้ใหญ่บางคน ไม่น่ารัก

ทวงจำเสียบ้างสิ่งดีๆเกิดในยุคนี้

ต่อมากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำโดย ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต รอง ผอ.ใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) พร้อมคณะผู้บริหารดิจิทัลสตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ เข้าพบนำเสนอผลงานเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยยกระดับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขไทย เช่น 1.ระบบใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ โดย Arincare เชื่อมโยงโรงพยาบาลและร้านขายยา 2.แอปพลิเคชันเกมผสมผสานการออกกำลังกาย 3.แอปพลิเคชันอูก้า แบบทดสอบความเครียด พูดคุยผ่านระบบวิดีโอคอลกับจิตแพทย์ 4.แอปพลิเคชัน QueQ บริการจองคิวโรงพยาบาล คลินิก และศูนย์บริการทางสาธารณสุข จากนั้น นายกฯกล่าวว่า สิ่งดีๆเกิดขึ้นสมัยนี้ ทุกวันนี้คนมีปัญหาที่จิตใจ เพราะเขาเจอปัญหาแต่แก้ไขได้ เพราะหากจมอยู่กับตัวเองไม่สามารถแก้ปัญหาได้ สิ่งดีๆเกิดขึ้นในยุคนี้ ได้ทำอะไรใหม่ๆ ก็จำเสียบ้างตนทำอะไรไว้บ้าง ไม่ใช่ย้อนกลับไปกลับมาอยู่นั่นแหละ

ครม.ให้ซักฟอก 25-27 ลงมติ 28 ก.พ.

เมื่อเวลา 14.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม.ถึงช่วงเวลาเหมาะสมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ได้หารือในที่ประชุม ครม.ได้ข้อสรุปคือตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. จนถึงเที่ยงคืนวันที่ 27 ก.พ. ลงมติวันที่ 28 ก.พ.และวันที่ 29 ก.พ. ปิดสมัยประชุมสภาฯแค่นั้น เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไรที่ฝ่ายค้านระบุมีการให้ผลประโยชน์ในการอภิปรายเพื่อให้สนับสนุนรัฐบาล นายกฯตอบว่า เป็นแค่คำกล่าวหา ตนไม่ตอบ ไม่มีประโยชน์

หลังอภิปรายพิจารณาคนให้ร้าย

เมื่อถามว่า จำเป็นจะต้องมีตั้งองครักษ์ช่วยชี้แจงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ตนไม่ใช้คำว่าองครักษ์ เพราะพร้อมตอบในหลักการและเหตุผลในทุกประเด็นที่ถูกอภิปราย ส่วนรายละเอียดบางอย่างจะมีการชี้แจงจากหน่วยงานและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถทำได้ ทุกคนพร้อมทำตามระเบียบข้อบังคับของสภาฯอยู่แล้วให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ไม่สร้างวาทกรรมให้ร้าย และหลังอภิปรายแล้วคงจะมีพิจารณาว่ามีให้ร้ายอะไรกันหรือเปล่าในสภาฯ

“บิ๊กป้อม” โต้ไม่รู้ใครแจกกล้วย

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านระบุฝ่ายรัฐบาลเตรียมแจกกล้วยให้ ส.ส. ช่วยโหวตลงมติและคอยประท้วงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ไม่รู้ใครแจกใคร จะไปแจกอะไร ไม่ได้แจกอะไรเลย ยังไม่ได้ทำอะไรเลย จะไปเอากล้วยมาจากไหน เมื่อถามว่าญัตติฝ่ายค้านต้องปรับแก้หรือไม่ เพราะมีถ้อยคำค่อนข้างรุนแรง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องของ ส.ส.และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เมื่อถามอีกว่า ได้ทาบทาม ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่มาร่วมกับรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องไปถาม ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ ยังไม่เคยคุยกัน ไม่เคยเจอกัน ทราบว่าเขามีอยู่ 5 เสียง

เมินถูกเขี่ย “บิ๊กแป๊ะ” นั่ง ส.ว.ต้องพัก 2 ปี

เมื่อถามถึงกระแสข่าวอาจถูกปรับพ้น ครม.ว่าเรื่องนี้ถามกันมาหลายครั้ง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอบไปหมดแล้ว ที่มีกระแสข่าวนี้ออกมาบ่อยครั้ง คงเพราะตกเป็นเป้า เมื่อถามว่า ยังพร้อมทำงานต่อหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า แล้วแต่ ถ้าเห็นว่ายังมีประโยชน์ก็พร้อมทำงานต่อ แต่ถ้าเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ก็พร้อมออก เมื่อถามว่า เป็นการปล่อยข่าวเพื่อต้องการให้ทะเลาะกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่มีทะเลาะกัน เพราะเรารู้กันอยู่ แล้วแต่นายกฯ ถ้านายกฯให้ทำก็ทำ เมื่อถามว่าจะผ่านศึกอภิปรายฯครั้งนี้ได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ก็ไม่รู้สิถ้าเขาเห็นว่าเรามีประโยชน์เขาก็เอาเราไว้ หากไม่มีประโยชน์ก็เอาออกไป” ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะมานั่งตำแหน่งรองนายกฯแทน จะเป็นไปได้อย่างไร เนื่องจากเป็น ส.ว.หากลาออกมาต้องเว้นวรรค 2 ปี

ถามควรหรือไม่คุ้ยขย่มเรื่องส่วนตัว

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะนำเรื่องส่วนตัวมาอภิปรายฯ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาควรจะพูดหรือไม่ ควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน ยังไม่รู้จะเตรียมเรื่องอะไร จะกล่าวหาเรื่องอะไรบ้าง แต่ญัตติใช้ถ้อยคำรุนแรง นายกฯถูกกล่าวหารุนแรงกว่าตนอีก เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านอาจพูดเรื่องสมัยดูแลทหารและตำรวจ โดยเฉพาะการโยกย้ายที่นำคนใกล้ชิดและพวกพ้องเข้ามา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า พวกพ้องที่ไหน ทั้งกรมตำรวจเป็นพวกกันทั้งนั้น ดูแลตำรวจตั้งแต่แรกทุกคนเป็นพวกพ้องกันหมด ที่ผ่านมาไม่มีการร้องเรียนใดๆ หรือแม้แต่การฟ้องร้อง ดูแลทุกคนอย่างทั่วถึง ทุกอย่างเราฟังจากผู้บัญชาการขึ้นมา ไม่ได้โยกย้ายเอง เป็นไปตามขั้นตอน ดังนั้นจะมาว่าอะไร

มท.1 ตั้งวอร์รูมระดมข้อมูลชี้แจง

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระทรวงมหาดไทยต้องตั้งวอร์รูมข้อมูลชี้แจงหรือไม่ว่า ปกติเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการส่วนนี้ มีทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องเตรียมข้อมูลไว้ให้ ไม่รู้ว่าฝ่ายค้านจะถามเรื่องอะไร ประเด็นคงไม่มีปัญหา แต่รายละเอียดต้องมีเจ้าหน้าที่เตรียมการให้ ถ้าไปนั่งอ่านตอนนั้นคงไม่ทัน จึงต้องรู้ข้อมูลก่อนเพื่อจะได้ตอบได้ ญัตติของฝ่ายค้านจะเป็นเท็จ ยังไม่ได้ดู ส่วนที่เกี่ยวข้องทางกฎหมายเขาดู ตนไม่ชำนาญ แต่เตรียมชี้แจงทุกเรื่องที่ทำไป ที่ฝ่ายค้านอยากทราบหรือตั้งข้อสงสัยเราก็ชี้แจงตอบไป เรื่องอะไรก็ต้องชี้แจงให้ได้ เมื่อถามว่า ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก กังวลหรือไม่ว่าฝ่ายค้านจะใช้โวหารยั่วโมโห พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า “ผมก็ตอบอย่างที่ตอบคุณ ผมว่าเขาคงจะไม่ยั่วมากกว่าคุณหรอก”

“ธรรมนัส” ไม่กังวลขุดอดีตชำแหละ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลอะไร ถ้าเป็นเรื่องในอดีตเราตอบมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวทีคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาฯ ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน ได้ชี้แจงไปทุกประเด็นแล้ว ส่วนการบริหารราชการปัจจุบันไม่ขอพูดถึง ผลงาน 6 เดือนเป็นที่ประจักษ์แล้ว ประชาชนต่างจังหวัดฐานรากอยากเดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมากแต่ไม่ให้มา จะมองว่าเอาประชาชนมากดดันฝ่ายค้าน รู้สึกเฉยๆที่ตกเป็นเป้ามาตลอด เข้ามาอยู่ในเวทีการเมือง รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะเจอขวากหนามอะไรบ้าง ไม่ได้หนักใจ

เฉไฉแจกกล้วยแค่วลีอำกันเล่นๆ

“เรื่องที่ดิน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เราทำตามขั้นตอนและกระบวนการทุกอย่างภายใต้กฎหมายของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนเอาชีวิตมาเสี่ยงทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้มั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลเหนียวแน่น มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลและนายสุชาติ ชมกลิ่น ประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐดูแลใกล้ชิด ส่วนที่ฝ่ายค้านพูดเรื่องการแจกกล้วย เป็นวลีที่หยอกกันเล่นมากกว่า แต่กลายเป็นวลีหลักของรัฐบาลชุดนี้ ที่จริงแล้วไม่มีอะไร” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

“สนธิรัตน์” มั่นใจเพื่อนไม่มีแตกแถว

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การโหวตลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยหลักการพรรคร่วมรัฐบาลควรมีเสียงแน่นหนาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน พลังประชารัฐหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเสียงของพรรคร่วมจะเป็นทิศทางเดียวกัน ส่วนพรรคเศรษฐกิจใหม่ภายในเขาต้องคุยกันเอง ยังไม่ชัดเจนว่าจะมาโหวตให้รัฐบาล ส่วนการเลือกตั้งซ่อม จ.กำแพงเพชร พรรคตั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง เตรียมผู้บริหารและ ส.ส.ไปลงพื้นที่ช่วยหาเสียง มั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากชาวกำแพงเพชร ได้ ส.ส.กลับคืนมา

โอ่เสียงเกินครึ่งไม่ต้องพึ่งงูเห่า

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่าประธานสภาฯคงต้องวินิจฉัยข้อถกเถียงว่าญัตติของฝ่ายค้านเป็นเท็จหรือไม่ ทุกครั้งมักจะเกิดกรณีเช่นนี้ ญัตติอภิปรายฯที่ผ่านมาก็ลักษณะนี้ จะถกเถียงและปรับคำกันทุกครั้ง ถ้าดูระยะเวลาทำงานรัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรมากมาย ฝ่ายค้านคงพูดย้อนหลังถึงการทำงานของรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาล การคุยกันก่อนจะทำให้ประท้วงน้อยลง ทั้งนี้รัฐบาลมีเสียงมากขึ้น จากที่ฝ่ายค้านพรรคเล็กพรรคน้อยมีปัญหากัน การทำงานของรัฐบาลจากนี้จะไม่เครียด

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ปกติ ส.ส.จะช่วยนายกฯอธิบาย คงไม่ใช่รูปแบบองครักษ์ แต่จะทำหน้าที่ตามข้อบังคับเพื่อควบคุมให้ผู้อภิปรายอยู่ในประเด็น ส่วนที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายนายกฯด้วยข้อกล่าวหารุนแรงมันไม่ใช่ข้อเท็จจริง ไม่ได้เป็นแบบนั้น นายกฯคงชี้แจงได้ เชื่อว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี ไม่จำเป็นต้องพึ่งเสียงงูเห่า เสียงฝ่ายรัฐบาลเกินครึ่ง และการลงมติของพรรคร่วมรัฐบาลจะไปทิศทางเดียวกัน

ดีอีเอสขึ้นบัญชีปลอม 140 แอ็กเคานต์

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงการตรวจสอบดำเนินคดีเว็บไซต์บิดเบือนข้อมูลว่า ตอนนี้ขึ้นบัญชีปลอมประมาณ 140 แอ็กเคานต์ แต่จะเจอตัวหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้พยายามตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเองก่อนและต้องตามสืบจากคนข้างเคียงที่เข้ามาคอมเมนต์ เพื่อให้เจอตัว ต้องใช้เวลา ขณะที่เฟซบุ๊กมีมาตรการหากเราตรวจสอบได้ว่าอันไหนเป็นอวตาร มีข้อความแย่ตลอด และไม่มีตัวตน เฟซบุ๊กจะยกเลิก แอ็กเคานต์ให้ จากการที่ได้เดินทางไปอเมริกาพูดคุยกับเฟซบุ๊กทำให้เขาเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น เพราะเราโดนเรื่องนี้เยอะ และวันที่ 6 ก.พ.ทางเฟซบุ๊กจะบินมาประชุมร่วมกันกับเราที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 ก.พ.นายกฯสั่งในที่ประชุมให้ดำเนินการอย่างจริงจัง มีสื่อหลักที่เปลี่ยนตัวเองจากรูปแบบปกติไปเป็นออนไลน์ บิดเบือนข้อเท็จจริง หลายเว็บตรวจสอบพบว่าหมิ่นประมาท พูดไม่จริงและกล่าวหา ตอนนี้มีสื่อใหญ่ที่พอจะเข้าข่ายอยู่บิดเบือน สร้างข่าวปลอม อยู่ระหว่างเก็บข้อมูลเพื่อดำเนินการเร็วๆนี้

ชทพ.พร้อมหนุนป้อนข้อมูลนายกฯ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ให้ข้อมูลแก่เลขาธิการนายกฯ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะส่งเจ้าหน้าที่กระทรวงไปเตรียมพร้อมสนับสนุนข้อมูลในวันอภิปราย พวกเราทำงานมา 6-7 เดือนแล้ว ทราบดีว่านายกฯและรัฐมนตรี แต่ละคนทำงานด้านใดบ้างให้ข้อมูลได้เต็มที่ นำไปใช้ชี้แจงต่อสภาฯ ได้ เรื่องที่ดิน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐาน อยู่ในขั้นตอน ไม่ได้มีการละเว้นหรือละเลย

“เฉลิมชัย” ยัน ปชป.รู้ต้องทำตัวเหมาะสม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันระดับหนึ่ง ต้องทำตัวให้เหมาะสมกับการเป็นพรรคร่วม มั่นใจว่าไม่มีเสียงแตก ไม่ต้องมีมาตรการอะไร นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ไม่เคยแหกโผหรือแหกมติ แต่ด้วยความที่เป็นนักการเมือง อาจพูดหรือวิจารณ์บ้างแต่ให้อยู่ในกรอบ ช่วงนี้ก็ให้ข่าวติติงน้อยจนแทบไม่มีแล้ว

ตั้ง 4 ผู้ช่วยวิป ปชป.ช่วยคุมเกม

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุม ส.ส.พรรคและรัฐมนตรี หารือการเตรียม พร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กำหนดการมีส่วนร่วมช่วยคุมเกมการอภิปรายฯให้อยู่ในกรอบกติกาข้อบังคับการประชุมสภาฯ จึงแต่งตั้งนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงครามและนายประกอบ รัตนพันธุ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ช่วยวิปพรรคอีก 4 คน นายประกอบ รัตนพันธุ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่ายืนยันไม่ใช่ตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรีหรือปกป้องใครเป็นพิเศษ วิปรัฐบาลของพรรคมีหน้าที่คุมเสียงและประสานงานอื่นอยู่แล้ว จึงตั้งพวกตนมาช่วยดูระเบียบและข้อบังคับฯ เพื่อให้การอภิปรายราบรื่น ต้องทักท้วงให้เป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบการประชุมสภาฯและเพื่อให้อภิปรายฯอยู่ในประเด็นข้อกล่าวหา เราไม่เกี่ยวกับการเป็นองครักษ์ให้ใคร แต่ทำเพื่อให้การประชุมราบรื่นถูกต้องเท่านั้น

“ชวน” เรียกเลขาสภาฯถกญัตติซักฟอก

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีวิปรัฐบาลยื่นเรื่องขอให้ฝ่ายค้านแก้ไขถ้อยคำในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี เนื่องจากใช้ข้อความเป็นเท็จว่า ได้เรียกเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมาหารือว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร จะแก้ไขได้หรือไม่ ขอดูรายละเอียดก่อน วันที่ 5 ก.พ.เวลา 09.00 น. จะเชิญทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลมากำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจร่วมกัน เบื้องต้นได้จัดให้เป็นวาระด่วนแล้ว ส่วนกรณีการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ได้มอบให้เลขาธิการสภาฯส่งเอกสารชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้วกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้อง ส.ส.เสียบบัตรแทนกันระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ส่วน ส.ส.คนอื่นๆที่พบข้อมูลภายหลังว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายเสียบบัตรแทนกัน แต่ไม่ได้มีอยู่ในสำนวนที่ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ได้สั่งการให้ตรวจสอบทุกคนโดยไม่ยกเว้น

“สมบูรณ์” ชี้บรรจุวาระแล้วแก้ไขไม่ได้

นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีวิปรัฐบาลยื่นเรื่องต่อประธานสภาฯ เพื่อให้ฝ่ายค้านไปพิจารณาแก้ไขญัตติการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี เนื่องจากมีข้อความอันเป็นเท็จว่า ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของฝ่ายเลขาธิการสภาฯ ยังไม่ได้รายงานให้ประธานสภาฯรับทราบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ญัตติการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของฝ่ายค้านถูกบรรจุเข้าไปในวาระแล้ว เหลือแค่รอตกลงเรื่องวันเวลาการอภิปรายเท่านั้น โดยหลักการแล้วหากญัตติใดที่บรรจุเป็นวาระแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ยกเว้นแต่ ส.ส.ฝ่ายค้านที่เข้าชื่อยื่นญัตติทุกคนจะยินยอม เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุป ในการประชุมวิป 3 ฝ่าย วันที่ 5 ก.พ. มองว่าปกติแล้วญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจคงไม่อวยกันอยู่แล้ว ต้องใส่กันเต็มที่ ดังนั้น ถ้าเห็นว่าข้อมูลใดไม่ถูกต้อง ค่อยไปชี้แจงกันในสภาฯ ไม่ใช่เรื่องยาก

ฝ่ายค้านโต้ไม่มีเนื้อหาอันเป็นเท็จ

เมื่อเวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีวิปรัฐบาลยื่นเรื่องให้ฝ่ายค้านแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะมีการใช้ถ้อยคำอันเป็นเท็จว่า เป็นการวินิจฉัยของฝ่ายรัฐบาลเองว่าเป็นเท็จ ทั้งที่เป็นอำนาจวินิจฉัยของประธานสภาฯ ไม่เห็นว่าญัตติดังกล่าวเป็นเท็จ ถ้าคิดว่าเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ฉีกรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเท็จ ฝ่ายรัฐบาลต้องบอกว่าใครเป็นคนฉีกรัฐธรรมนูญ จะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยหรือใคร เราเห็นว่าเป็นความจริงแต่รัฐบาลไม่ยอมรับความจริง ถ้าเป็นเรื่องภาษาคิดว่าเป็นเรื่องหยุมหยิม ควรเอาความจริงมาเป็นที่ตั้ง

ฉะเจตนาขัดจังหวะการตรวจสอบ

“ถ้าไม่บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนล้มล้างรัฐธรรมนูญไม่รู้จะไปกล่าวหาใคร หรือจะเอานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯแทน คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นสาระ ต้องฟังประธานสภาฯวินิจฉัยมากกว่ารัฐบาล รัฐบาลไม่ยอมรับความจริง ไม่อยากคิดว่าตีรวน ไม่ต้องการให้มาเป็นประเด็น วิปรัฐบาลบอกยอมไม่ได้ให้อภิปรายย้อนหลังไปถึงรัฐบาล คสช. อาจป่วนตั้งแต่เริ่มต้น รัฐบาลตั้งใจใช้ประเด็นนี้อยู่แล้ว เพื่อขัดจังหวะการทำงานฝ่ายค้าน จะให้อภิปรายแต่ข้างหน้าเป็นไปไม่ได้เพราะเป็นเรื่องอนาคต ต้องอภิปรายย้อนหลังไปถึงช่วง คสช.บ้าง หลายเรื่องเกิดจากรัฐธรรมนูญ ต้องโยงจุดตั้งต้นปัญหา” นายสุทินกล่าว

ถ้าไม่จบต้องเปิดสภาสมัยวิสามัญ

นายสุทินกล่าวว่า ส่วนการกำหนดวันอภิปรายที่ฝ่ายรัฐบาลเสนอให้อภิปรายตั้งแต่วันที่ 25-27 ก.พ.และลงมติวันที่ 28 ก.พ.เป็นความพยายามจะบล็อกวันอภิปรายให้ชนกับวันปิดสมัยประชุมสภาฯวันที่ 28 ก.พ. บังคับกันทางอ้อมจะกดดันทำให้ผิดข้อบังคับและเจตนารมณ์การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญต้องให้ฝ่ายค้านอภิปรายจนครบถ้วน ถ้าอภิปรายตามที่รัฐบาลกำหนดแล้ววันที่ 28 ก.พ.อภิปรายไม่จบจะทำอย่างไร ถ้าอภิปรายไม่จบก็ปิดไม่ได้ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯและรัฐธรรมนูญ เปิดโอกาสให้การอภิปรายต้องดำเนินจนจบสิ้น ประธานสภาฯหรือรัฐบาลจะอ้างเหตุผลอะไรมาปิดประชุมไม่ได้ ยกเว้นผู้อภิปรายวกวน รัฐบาลจะบรรจุวาระอภิปรายปลายสมัยประชุมจนอาจอภิปรายไม่จบ เท่ากับไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากสมัยประชุมปิดลงก่อนอภิปรายฯเสร็จสิ้น ประธานสภาฯต้องขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญ เพื่อให้การอภิปรายฯดำเนินการต่อไปจนจบสิ้น ถ้าประธานไม่ยอมทำตามวิธีดังกล่าว จะกลายเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายไปด้วย ซึ่งไม่น่าต้องใช้วิธีนี้ วันอภิปรายที่เหมาะสมควรเริ่มต้นวันที่ 19 ก.พ.เรื่อยไปจบเมื่อใดเมื่อนั้น ฝ่ายค้านพร้อมตลอดจะเอาวันที่ 10 ก.พ.ก็ได้ ไม่มีปัญหา

เปิดด้านมืดนับถอยหลัง “บิ๊กตู่”

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลสำรวจดัชนีการเมืองไทยของสวนดุสิตโพลที่คะแนนนิยม พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลแย่ลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 นายกฯได้แค่ 3.6 เต็ม 10 คะแนนว่าคะแนนต่ำลงเรื่อยๆ สะท้อนการไม่ยอมรับของประชาชน ไม่ใช่แค่ภาวะเบื่อหน่าย แต่น่าจะใกล้ถึงจุดที่เริ่มทนไม่ไหว อาจถึงจุดเดือดวันใดวันหนึ่งได้ หากสถานการณ์เศรษฐกิจยังย่ำแย่อยู่อย่างนี้ เรื่องง่ายๆหน้ากากอนามัยแก้ฝุ่นพิษ ยังปล่อยให้ประชาชนช่วยเหลือตัวเองตามยถากรรม การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นไม่ต่างจากสัญญาณนับถอยหลังของ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าประชาชนเห็นข้อมูลด้านมืด ไม่เคยถูกตรวจสอบมานานถึง 6 ปีคงยากทำใจยอมรับให้อยู่ต่อไปได้ ถ้ายังบริหารแบบผิดๆต่อไป ไม่ยอมรับความผิดพลาดหรือเสียงทักท้วง สุดท้ายจุดจบของ พล.อ.ประยุทธ์คงไม่แตกต่างจากผู้นำกองทัพคนอื่นๆ ที่เริ่มต้นยึดอำนาจอย่างยิ่งใหญ่ แต่สุดท้ายอาจจบลงด้วยการถูกโห่ไล่จากประชาชนอย่างอนาถ ส่วนการร้องประธานสภาฯวินิจฉัยญัตติอภิปรายฯเป็นเท็จ เขาไม่ทำกันอาจถูกมองว่าชี้นำแทรกแซงอำนาจหน้าที่ประธานสภาฯหรือไม่ มั่นใจว่าชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับ ไม่มีข้อความอันเป็นเท็จถ้าจะผิดอย่างเดียวคือขัดหูท่านผู้นำ กระทั่งคนรอบข้างทนไม่ได้ต้องปกป้อง

“เหลิม” จ่อทำคลิปชำแหละภาคต่อ

เมื่อเวลา 14.10 น. ที่พรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมว่า ถ้ารัฐบาลกลัวการซักฟอก ควรลาออกไปอยู่บ้าน คนที่ออกมาพูดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะอภิปรายย้อนหลังไม่ได้น่าสมเพช เอาสมองส่วนไหนคิด รัฐบาลกำลังปากกล้าขาสั่น ถ้าบริสุทธิ์ไม่ต้องกลัว รัฐบาลอยากให้อภิปราย 25-27 ก.พ. ลงมติ 28 ก.พ. อำนาจประธานสภาฯจะกำหนด รัฐบาลมีหน้าที่แค่ขึ้นเขียง คณะกรรมการกิจการพิเศษเตรียมข้อมูลไว้พร้อม จะอภิปรายเน้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ยังไม่บอกว่า ส.ส.คนใดจะอภิปรายรัฐมนตรีคนใดบ้าง

อัด “วิษณุ” ปล้นสมบัติชาติ–ลั่น รบ.อยู่ไม่ได้

“นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯที่ระบุไม่เคยทำอะไรผิด เดี๋ยวก็รู้ตอนแรกหวังจะบรรเทาให้เสียค่าปรับน้อยลง ไปๆมาๆกลายเป็นปล้นสมบัติชาติ แก้ไขกฎหมายสมัย สนช.จะเปิดเผยรายชื่อให้หมด พวกคุณนั่นแหละเป็นคนขายชาติ ใน สนช.ขณะนั้นยังได้เป็น ส.ว.ปัจจุบัน 72 คน แก้กฎหมายจนบ้านเมืองสับสนวุ่นวาย เดี๋ยวจะรู้ใครเป็นใครไอ้พวกจัญอัป คนที่พูดว่าญัตติของฝ่ายค้านเป็นเท็จกินยาผิดซอง จะใช้คำว่าฉีกหรือยกเลิกรัฐธรรมนูญก็เหมือนกัน อย่ามาทำเป็นสนิมสร้อย หลังอภิปรายเสร็จสิ้นจะประชุมยำใหญ่อีกรอบ ตัดคลิปข้อมูลรัฐมนตรีที่ตอบไม่ได้จะเอามาเปิดให้ดู รัฐบาลอยู่ไม่ได้แน่ คงต้องเลือกตั้งใหม่” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

กก.พิเศษฟุ้งมีข้อมูลเชือดเพียบ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อมูลที่คณะกรรมการกิจการพิเศษมีเยอะมาก ทั้งการบริหารจัดการงบฯเอาไปใช้ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะ ป.ที่ดูเงียบๆ อย่าหวังว่าจะฟาดเรียบ เรามีข้อมูลหมด เหตุที่กรมประชาสัมพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แต่งตั้งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ จึงไม่แปลกใจเทรนด์ในทวิตเตอร์หรือแฮชแท็ก “เบื่อรัฐบาล” และ “รัฐบาลเฮงซวย” จะขึ้นอันดับหนึ่ง โลกออนไลน์กำลังมีการส่งข้อความช่วงใกล้วันวาเลนไทน์อยากได้แฟนแบบประยุทธ์ ไล่ยังไงก็ไม่ไป นายกฯระบุเตรียมข้อมูลสู้กับการบิดเบือนข่าวและเฟกนิวส์ แม้เหนื่อยแต่ไม่ลาออก เครื่องมือเดียวที่เหลืออยู่ไว้สู้กับทุกปัญหา คือพยายามผลักทุกเรื่องให้เป็นข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์ พล.อ.ประยุทธ์และเครือข่ายต้องตั้งสติ ปรับทัศนคติตัวเอง อยู่มา 6 ปีผลงานไม่มี ประชาชนไล่อย่างไรก็ไม่ไป การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ปากกล้าขาสั่น สารพัดลูกหาบออกมาเชียร์ ถ้าฝ่ายค้านพูดเรื่องเก่าจะชัตดาวน์อภิปรายฯพูดอะไรหัดเกรงใจประชาชนบ้าง ไป แก้ปัญหาไม่ให้ชัตดาวน์งบฯดีกว่า

“สนธิญา” ร้องยุบ “เสรีรวมไทย”

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงาน กกต.นายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้พิจารณาและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเสรีรวมไทย เนื่องจากเห็นว่ากระทำการเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92 (2) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยระบุว่าในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวลักษณะข่มขู่ว่าในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบฯถ้า ส.ส.คนใดลงมติรับร่างฯจะดำเนินคดี รอดูอยู่ 3-4 สัปดาห์ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะดำเนินการตามที่ประกาศไว้หรือไม่ คิดว่าคงจะไม่ดำเนินการแล้ว แต่เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ได้รับทราบข้อมูลว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อ ส.ส.เพื่อจะฟ้องดำเนินคดี จึงเห็นว่าการกระทำของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เข้า ข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 ที่กำหนดให้การลงมติของ ส.ส.และ ส.ว.เป็นเอกสิทธิ์ ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำของบุคคลใดๆ และเข้าลักษณะการกระทำการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ผิดมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง จึงต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ กกต.