หนังม้วนเก่า รีรันซ้ำๆซากๆเป็นรอบที่ยี่สิบได้
ในอารมณ์เดียวดาย “เฮียมิ่ง”มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ยอมเป็น “โดดเดี่ยวผู้น่ารัก” รับสภาพโดน ส.ส.พรรคตัดหางทิ้ง เหลือแค่ตัวคนเดียว
แต่ก็ยังยึดบท “วีรบุรุษประชาธิปไตย” เป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้งกับทีม“นายใหญ่” ดูไบต่อไป
นั่นแหละพรรคเพื่อไทยถึงได้ยอมเจียดเวลาให้ “มิ่งขวัญโชว์”
จัดคิวให้ร่วมเฟรมอภิปรายประเด็นเศรษฐกิจพอเป็นกระสาย จากตอนแรกที่ข่าววงใน “มิ่งขวัญ” จะขอเวลา 3 ชั่วโมง
ล็อกคิวถล่ม “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ มือเศรษฐกิจ ของรัฐบาล แต่เมื่อทีมยุทธศาสตร์ฝ่ายค้านถามมีทีเด็ดอะไร “เฮียมิ่ง” นิ่ง ตอบไม่ได้ นั่นเลยทำให้ชื่อของ “สมคิด” ถูกตัดออกจากบัญชี
ผิดแผน เป้าไล่บี้ถล่ม “จอมยุทธ์กวง” ให้น่วม เพื่อ “เสียบ” แทน
“เฮียมิ่ง” โหนสูงเกินไป เลยพลาดตกขบวนทุกรอบ
และกลายเป็นลูกทีมเศรษฐกิจใหม่ที่แหกคิวเสียบแทน หลังเทแต้มให้ฝั่งรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง
ตามท้องเรื่องล้อกับอารมณ์แปร่งๆของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ
ที่ออกตัว บอกปัดข่าวแจกกล้วย ส.ส. ปฏิเสธไม่เคยคุยทาบทาม ไม่เคยเจอกับ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่
แต่เผลอหลุดยอมรับ “ทราบว่าเขามีอยู่ 5 เสียง”
นั่นหมายถึงว่า “พี่ใหญ่” ตามเช็กตัวเลขลูกแถว “เฮียมิ่ง” อยู่ตลอด
ซึ่งนั่นก็สอดรับกับมุมของเซียนการเมืองเขี้ยวลากดินระดับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แกนนำกลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐ ที่ฟันธงการทำงานของรัฐบาลหลังจากนี้จะไม่เครียด จากการที่ฝ่ายค้าน พรรคเล็กพรรคน้อยมีปัญหากัน
...
ถึงจุดฝ่ายคุมเสียง “มั่นใจ” เลยจุดเสี่ยงปริ่มน้ำ
รอใส่แต้มพรรคเศรษฐกิจใหม่อีก 5 เสียง พลิกข้างมาเติมสมการให้ฝั่งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ
เสียงในสภายากจะคว่ำรัฐมนตรีทีม “ลุงตู่” ได้ แต่ที่แสบจริงก็คือยุทธการหลอกด่าตีกินฟรี แบบที่ฝั่งรัฐบาลงัดเหลี่ยมยื้อ “ตั้งแง่” ให้ปรับแก้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่เป็นเท็จ กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์เกินความเป็นจริง
โดยเฉพาะการใช้ถ้อยคำรุนแรง กร่าง เถื่อน ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย
“โยนกลอง” ให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทบทวนการบรรจุญัตติ หากพรรคฝ่ายค้านไม่มีการปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำใหม่
ไม่อย่างนั้น จะทำให้บรรยากาศการอภิปรายมีปัญหาแน่
ทีมพลังประชารัฐต้องเบรกกระแส ไม่ปล่อยเกมด่าตีกิน “บิ๊กตู่” ไหลตามน้ำ
และดูตามรูปการณ์ ยุทธศาสตร์อารักขา พล.อ.ประยุทธ์ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ ไม่ใช่แค่ทีมพลังประชารัฐที่จัดตั้งหน่วยองครักษ์พิทักษ์ “บิ๊กตู่” บู๊กับฝ่ายค้านในสภา โดยมีคนของค่ายภูมิใจไทย ส่งทีมองครักษ์ร่วมทีม แต่ที่ทำเอาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลน้ำหูน้ำตาไหล
“รัฐบาลอิสระ” ยี่ห้อประชาธิปัตย์ยังมีแก่ใจส่งตัวแทนเข้าร่วมอารักขานายกฯด้วย
“ไม้กันหมา” พร้อมรับศึกรุมกินโต๊ะผู้นำรัฐบาล
แต่นั่นยังอุ่นใจไม่ได้อยู่ดี ตามเหลี่ยมที่อ่านไต๋ฝ่ายค้านทีมดูไบ จ้องขึงพืด ล่อเป้าเดี่ยว “ลุงตู่” ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ “กัปตันทีมจำเป็น” ของรัฐบาลผสม ที่พรรคร่วมแบ่งกระทรวงเกรดเอไปครอง
จุดบอดที่ใครก็มองออก อดีตผู้นำทหาร คสช.ไม่สันทัดกรณี
ถ้านายกฯตอบไม่ดี เคลียร์ไม่ออก กระแสโห่ฮาจะยิ่งเข้าเนื้อรัฐบาล
เป็นโจทย์การบ้านให้โคตรเซียนการเมืองและซาร์เศรษฐกิจอย่างนายสมคิด ต้องปรับแผนใหม่
จากที่เตรียมหมากรับเกมเชือดแบบยกพวง “บิ๊กตู่-สมคิด”
ฝ่ายค้านพลิกเกมนาทีสุดท้าย “จอมยุทธ์กวง” ต้องหาช่องเข้าช่วยปะทะ พา “บิ๊กตู่” ออกจากวงล้อม
ตามที่เจ้าตัวพูดกับคนรอบข้างตลอด “ผมทิ้งนายกฯไม่ได้”
ที่แน่ๆถ้ามีช่อง ต้องฉวยสถานการณ์เล่นเร็ว “หวังผลได้หลายเด้ง” ตามจังหวะล่าสุดที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง รีบชงมาตรการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 4 เข้าที่ประชุม ครม. รอ “ปล่อยของ” ช่วงสงกรานต์ กระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ชดเชยนักท่องเที่ยวจีนที่หายไปจากวิกฤติไวรัสอู่ฮั่น
บริหารปัญหา กู้วิกฤติ พร้อมจ่าย “มัดจำ” กับคนไทยเที่ยวฟรี กินฟรี ล่วงหน้า
ตัดหน้าก่อนฝ่ายค้านถล่มโครงการโบแดง.
ทีมข่าวการเมือง