“พล.อ.ประยุทธ์” ย้ำ รัฐบาลห่วงใยสุขภาพประชาชน เน้นทุกหน่วยงานร่วมมือกันปฏิบัติตามแผนที่กำหนด ทุ่มเทเต็มที่แก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 ม.ค. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมพูดคุยกับ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวแทนเด็ก เกษตรกร และผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เพื่อรับฟังปัญหาและแนวคิดของประชาชนต่อการรับมือกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ในรายการ Government Weekly
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เกินมาตรฐาน ว่า สาเหตุหลักของการเกิด PM 2.5 คือ การขนส่งทางถนน ภาคอุตสาหกรรม การเผาในที่โล่ง และครัวเรือน ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด ดังนั้น จึงต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน รวมถึงการใช้กฎหมายที่จะสามารถบังคับใช้ได้เพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน

...
ที่ผ่านมา ทุกหน่วยงานได้ทำตามหน้าที่ตามแผนปฏิบัติการที่เคยกำหนดไว้ ตั้งแต่ระดับฝุ่นน้อยไปจนถึงมาก ซึ่งแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองมี 3 มาตรการ คือ มาตรการที่ 1 ระยะเร่งด่วนและวิกฤติ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ มาตรการที่ 2 ระยะสั้น ป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่แหล่งกำเนิด และมาตรการที่ 3 ระยะสั้นและระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ โดยมาตรการเร่งด่วนเชิงพื้นที่ แบ่งเป็น 4 ระดับ คือ
ระดับที่ 1 PM 2.5 มีค่า 0-50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หน่วยงานดำเนินภารกิจตามสภาวะปกติ
ระดับที่ 2 PM 2.5 มีค่าระหว่าง 51-75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หน่วยงานดำเนินมาตรการให้เข้มงวดขึ้น
ระดับที่ 3 PM 2.5 มีค่าระหว่าง 76-100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ควบคุมพื้นที่ ควบคุมแหล่งกำเนิด และกิจกรรมที่ทำให้เกิดมลพิษ
ระดับที่ 4 PM 2.5 มีค่ามากกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เสนอให้จัดประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอมาตรการต่อนายกรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการ
อย่างไรก็ตาม การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องต้องเป็นไปตามแผนที่กำหนด ซึ่งมีระยะเร่งด่วนไปถึงระยะยาว พร้อมขอให้ทุกหน่วยงานรวมถึงประชาชนร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาและป้องกันตนเองจาก PM 2.5 ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์ให้เกษตรกรปลูกไม้ยืนต้นแทนพืชล้มลุกที่ต้องเผาก่อนฤดูกาลเพาะปลูกรอบใหม่ สร้างแรงจูงใจให้เกิดธุรกิจ หรือการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน รวมถึงการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเองจากฝุ่น โดยในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญและห่วงใยกับสุขภาพของประชาชน โดยขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกัน ทั้งภาคเอกชน ประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา เพื่อคนในรุ่นนี้และลูกหลานของเราในอนาคต.
(ภาพประกอบจาก thaigov.go.th)