กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) พร้อมหนุนนโยบายรัฐบาล จับมือ กสศ. เดินหน้าช่วยเหลือ นร.ยากจนพิเศษ อนุบาล-ม.3 ครอบคลุม 76 จังหวัด ในปี 2563 นี้ หวังแก้เหลื่อมล้ำการศึกษา 

นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) เป็นประธานการประชุม ชี้แจง การจัดทำข้อมูลระบบคัดกรองนักเรียนยากจน เพื่อรับเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน และเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข (ทุนเสมอภาค) โดยมีผู้อำนวยการกองการศึกษา ผู้อำนวยการสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา รวม 66 จังหวัด ร่วมประชุมรับฟังการชี้แจงดังกล่าวผ่านระบบ Teleconference

นายประยูร กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2563 สถ.ร่วมกับ กสศ. ขยายโครงการเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษ จากที่ดำเนินการในปีที่ผ่านมาจำนวน 10 จังหวัด เป็น 76 จังหวัด ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายนักเรียนยากจนพิเศษ จำนวนกว่า 97,000 คน ที่จะได้รับช่วยเหลือ ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนั้นเพื่อให้นักเรียนกลุ่มนี้ได้รับการช่วยเหลือทันเวลา วันที่เปิดระบบคัดกรอง ระหว่างวันที่ 15 ม.ค. ถึง 31 มี.ค. 2563 ขอความร่วมมือจากท้องถิ่นจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อำนวยการโรงเรียน และคณะครู ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและคัดกรองนักเรียนยากจน เพื่อตรวจสอบกลั่นกรองข้อมูลของนักเรียนที่ถูกต้องครบถ้วน ไม่มีเด็กนักเรียนกลุ่มเป้าหมายตกหล่นแม้แต่คนเดียว

...

“ในภาคเรียนที่ 2/2562 มีนักเรียนผ่านเกณฑ์การคัดกรองและได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนเพิ่มเติมจาก กสศ. จำนวน 1,532 คน รวมสถานศึกษา 123 แห่ง โดยครัวเรือนที่ผ่านการคัดกรองและได้รับความช่วยเหลือมีรายได้เฉลี่ยสมาชิกครัวเรือน ต่ำที่สุดราว 250 บาทต่อคนต่อเดือน หรือเฉลี่ยประมาณ 8 บาทต่อวันเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก หากเด็กๆ กลุ่มนี้ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนเพิ่มเติม ย่อมช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้”

นายประยูร กล่าวต่ออีกว่า ในปีงบประมาณ 2564 สถ.ยังปฏิรูปวิธีการจัดสรรเงินอุดหนุนตามแนวทาง Demand-Side Financing โดยปรับเปลี่ยนวิธีการจัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อเด็กยากจนจากเดิมแบบถัวจ่าย เป็นการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบรายบุคคล โดยจะใช้ระบบการคัดกรองนักเรียนยากจนของ กสศ. ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เพื่อให้สามารถระบุนักเรียนที่ยากจนจริงได้เป็นรายบุคคล ถือเป็นการปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณอย่างเสมอภาคให้แก่นักเรียนในสถานศึกษาสังกัด อปท.

“กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลผ่านทาง กสศ. และภาคีที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณ กสศ. ที่เข้ามามีบทบาทสร้างความร่วมมือ ช่วยสนับสนุนและเติมเต็มการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศ จะไม่ให้มีเด็กของเราคนไหนถูกทิ้งไว้ข้างหลังแม้แต่คนเดียว”

ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า หลังจากเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมาได้มีการลงนาม MOU ความร่วมมือระหว่าง สถ.กับกสศ. ในการทำงานช่วยเหลือเด็กยากจนในสถานศึกษาสังกัด อปท. โดยเริ่มนำร่องทำงานด้วยกัน 10 จังหวัด หลังจากนี้จะเป็นก้าวต่อไปในการขยายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ภายหลังรัฐบาล สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณโดยเพิ่มงบประมาณจาก 1,600 บาทต่อปี เป็น 3,000 บาทต่อปี พร้อมขยายกลุ่มเป้าหมายการช่วยเหลือไปถึงระดับชั้นอนุบาลอีกด้วย และอนาคตอาจขยายไปถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในอนาคต

“ขอขอบคุณความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐบาล ในการสนับสนุนมาตรการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา กสศ. พร้อมยินดีสนับสนุนการทำงานของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ในการช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น ให้มีความยั่งยืนต่อไป และ กสศ. จะบูรณาการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง” ดร.ไกรยส กล่าว.