ชาวสวนปาล์มเฮราคาพุ่ง ชงพลังงานถกหน่วยงานงดนำเข้าช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต ด้าน “สนธิรัตน์” เป็นปลื้ม แย้มมี 2-3 แผนดึงราคาให้สูงขึ้นอีก
วันที่ 13 ม.ค. 2563 ที่กระทรวงพลังงาน ตัวแทนกลุ่มสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทยและสมาคมปาล์มน้ำมัน กว่า 20 คน จาก 7 จังหวัด ได้แก่ จ.สระบุรี จ.สกลนคร จ.ตรัง จ.กระบี่ จ.นครศรีธรรมราช จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ชุมพร เดินทางเข้าพบ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยตัวแทนกลุ่มสมาพันธ์ฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เปรียบเสมือนพระเอกขี่ม้าขาว มาช่วยผลักดันและส่งเสริมนโยบายการใช้น้ำมันดีเซล B10 ของกระทรวงพลังงาน ที่ช่วยทำให้มีปริมาณการใช้ปาล์มในประเทศเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันมีรายได้จากราคาปาล์มมากขึ้นตามไปด้วย แต่ขณะเดียวกันก็ขอเรียกร้องให้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศในเดือน มี.ค. ที่ชาวสวนปาล์มจะเก็บเกี่ยวผลผลิต หากมีการนำเข้าอาจส่งผลต่อผลผลิตภายในประเทศได้ รวมทั้งยังขอฝากถึงการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเรื่องราคาที่มีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ด้วย
ทางด้าน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาราคาปาล์มของตนเกิดขึ้นได้เพราะมีประสบการณ์ติดตามมาตั้งแต่ครั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ต่อเนื่องถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จึงเห็นช่องทางการแก้ไขปัญหา โดยการผลักดันการใช้กับเครื่องยนต์ด้วยน้ำมันดีเซล B10 ซึ่งส่งผลให้ราคาปาล์มต่อกิโลกรัมสูงขึ้นทันที แต่มีข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับการบริหารจัดการสต๊อกปาล์มในอนาคตที่อาจมีผลต่อราคาตลาด ส่วนแผนระยะยาว ยืนยันว่า ต้องการมุ่งเน้นคุณภาพของน้ำมันปาล์ม ซึ่งแน่นอนว่าก็จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนด้วย
...
ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่ามีหลายมาตรการที่จะยกระดับการเปลี่ยนแปลงให้เกิดทั้งโครงสร้าง เช่น ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. นี้ จะมีน้ำมัน B10 เป็นน้ำมันเกรดพื้นฐาน ส่วนอีก 2-3 มาตรการอยากขออุบไว้ก่อน เพราะจะช่วยดึงราคาให้สูงขึ้นอีก ซึ่งอาจจะมีการกักตุนกัน ทั้งหมดนี้คือการขับเคลื่อนทั้งขบวนเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น และเมื่อเชื่อมั่นราคาก็จะดีไปด้วย.