"ประวิตร" ย้ำ มีมาตรการบริหารจัดการน้ำถึงมิ.ย. มั่นใจก.ค.ฝนตกแน่ สื่อถาม หากฝนไม่ตก 7 ปีเหมือนเนปาล บอกก็ไม่ต้องใช้น้ำ ถูกสื่อถามไม่เคยเดินถนนไม่รู้ปัญหาฝุ่น ย้อน แล้วคุณเดินไหม รบ.ก็จัดการอยู่

วันที่ 10 ม.ค. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฐานะผู้อำนวยการน้ำแห่งชาติ เป็นประธานเปิดกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ อย่างเป็นทางการ โดยมีนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านน้ำเข้าร่วมรับฟังนโยบายการขับเคลื่อนการทำงาน พร้อมการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่อร่วมติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆ

พลเอกประวิตร กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่กระทบกับประชาชนเป็นวงกว้างทั้งเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ว่า รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เน้นดูแลในเรื่องอุปโภค-บริโภคเป็นหลัก เพราะปริมาณน้ำในขณะนี้เหลือปริมาณไม่มากนัก อีกทั้งรัฐบาลได้เตรียมการในการรองรับน้ำฝน โดยส่วนตัวยอมรับว่า ในปีนี้ฝนจะมีปริมาณน้อยกว่าทุกปี จึงจะต้องขุดบ่อบาดาล รวมไปถึงการทำแก้มลิง เพื่อใช้น้ำในปีต่อไป

พลเอกประวิตร ยังกล่าวต่อว่า ประเทศไทยอาศัยน้ำจากน้ำฝนเพียงอย่างเดียว รัฐบาลจึงต้องสั่งมาตรการดูแล และช่วยเหลือให้ประชาชนสามารถใช้น้ำอุปโภคและบริโภคได้อย่างเพียงพอ ซึ่งตอนนี้ได้สั่งการให้ขุดบ่อบาดาลเพิ่มเป็นจำนวนกว่า 500 บ่อ อีกทั้งตอนนี้ นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนในการใช้น้ำ จึงอยากจะฝากสื่อมวลชนให้ช่วยบอกเผยแพร่กับประชาชนให้ประหยัดในการใช้น้ำ ฝากให้ใช้น้ำอย่างประหยัด เพราะในตอนนี้สถานการณ์วิกฤติ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าถึงขั้นต้องสั่งห้ามในการปลูกพืชใช้น้ำเยอะแล้วหรือไม่นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นบังคับ แต่ขอร้องเกษตรกรที่จะปลูกข้าวนาปรัง รัฐบาลไม่สามารถที่จะปล่อยน้ำให้ทำการเกษตรได้ทั้งหมด วอนให้ประชาชนและเกษตรกรรมปลูกพืชน้ำน้อยแทน ส่วนเกษตรกรที่ลงทุนปลูกไปแล้วกว่า 3 ล้านไร่นั้น ยืนยันว่า จะไม่ปล่อยให้เสียหายไปเปล่าๆ แต่จะให้งบประมาณในการเยียวยา และปล่อยน้ำในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถอยู่ได้ต่อไป รวมถึงสนับสนุนให้เกษตรหันมาปลูกพืชน้ำน้อยแทน ส่วนแผนดำเนินการเพื่อรองรับวิกฤติภัยแล้งในปีหน้านั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า จะเร่งดำเนินการในปีนี้ และสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนในปีหน้าได้

...

ขณะที่สถานการณ์ในแม่น้ำเจ้าพระยา กรณีน้ำทะเลหนุนสูงทำให้เกิดน้ำเค็มนั้น พลเอกประวิตร ยืนยันว่า ยังดูแลได้ เพราะยังมีน้ำจากคลองลัดโพธิ์ และแม่น้ำแม่กลอง ที่ช่วยชะลอน้ำเค็มอยู่ ซึ่งสถานการณ์ในประเด็นนี้ขอประชาชนอย่ากังวลรัฐบาลดูแลจัดการบริหารได้อย่างแน่นอนถึงแม้ว่าสถานการณ์น้ำแล้งในปีนี้จะวิกฤติ

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากสถานการณ์ร้ายแรงที่สุดเหมือน ประเทศเนปาล ฝนไม่ตกถึง 7 ปีนั้น รัฐบาลจะทำอย่างไร พลเอกประวิตร ยืนยันว่า ฝนตกแน่นอน และน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอ ซึ่งเตรียมมาตรการรองรับไปจนถึงเดือนมิถุนายน และในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ฝนจะตกแน่นอน ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าฝนจะตก พลเอกประวิตร ย้ำว่าอย่าเทียบกับประเทศเนปาล เพราะนี่คือประเทศไทย ฝนจะตกในช่วงเดือนดังกล่าวอยู่แล้ว ถ้าไม่ตกก็ไม่ต้องใช้น้ำ

ส่วนปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรนั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการแจกหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 ไปแล้ว ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดแล้วหรือไม่ พลเอกประวิตร ถามกลับว่า จะมีวิธีการอย่างไรให้ฝุ่นหมดไป ผู้สื่อข่าวจึงหยิบยกกรณี รถโดยสาร ขสมก. ที่มีความตื่นตัวอย่างมากในช่วงที่รัฐบาลรณรงค์อย่างเข้มงวด แต่ปัจจุบันกลับปล่อยรถที่มีควันดำออกมาวิ่งทำให้ปัญหาดังกล่าวกลับมา พลเอกประวิตร กล่าวว่า ขณะนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถใช้ถนนดูแลในเรื่องนี้ แต่อาจจะมีละเลยปล่อยรถที่เป็นปัญหาออกมาบ้าง รัฐบาลก็จะเข้าไปกำกับดูแล

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามกลับว่า รองนายกรัฐมนตรีอาจจะไม่เคยลงมาเดินถนนจึงไม่เคยประสบปัญหาอย่างแท้จริงด้วยตัวเอง ทำให้พลเอกประวิตร ถามกลับแล้วคุณเดินถนนหรือไม่ ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว ตอบว่า เดินอยู่ตลอดทุกวันและใบหน้าก็มีอาการแพ้ จากนั้นทำให้พลเอกประวิตร ย้ำว่า รัฐบาลจัดการอยู่ ก่อนเดินออกจากโพเดียมแถลงข่าวและเดินทางกลับทันที