วันนี้ (8 ม.ค.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 มูลค่า 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งคลอดช้าเกินกำหนดมาแล้ว 3 เดือนกว่า

แต่เนื่องจากมี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ส.ฝ่ายค้าน ติดใจขอแปรญัตติปรับลดวงเงินงบประมาณรัฐบาลมากถึง 146 คน คาดว่าจะใช้เวลาขยี้ขยำติดต่อกัน 3 วันจบ

“แม่ลูกจันทร์” ฟันธงล่วงหน้าว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 3.2 ล้านล้านบาท จะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์

เมื่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ฉลุยผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ก็ต้องประเคนให้ ส.ว.ลากตั้งรับไปพิจารณาอีกครั้งตามระเบียบ

กว่างบประมาณรายจ่าย 3.2 ล้านล้านบาท จะคลอดออกมาเป็นตัวกว่านายกฯลุงตู่ จะได้ฤกษ์เปิดท่อจ่าย ต้องรอไปถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์โน่นแหละ

ผลคือ รัฐบาลลุงตู่ต้องเร่งจ่ายเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ให้หมดเกลี้ยงในเวลาเพียง 7 เดือนที่เหลืออยู่

อนึ่ง มีการปรับลดงบประมาณจากที่รัฐบาลเสนอมานิดหน่อย โดยเกลี่ยวงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาทจากบางหน่วยงานไปแถมเพิ่มให้กับหน่วยงานอื่นเป็นกรณีพิเศษ

เช่น...เพิ่มงบอัดฉีด 831 ล้านบาท ในการก่อสร้างรัฐสภาใหม่

เพิ่มงบอัดฉีด 803 ล้านบาท ให้สำนักงานศาลยุติธรรม

เพิ่มงบอัดฉีด 683 ล้านบาท ให้องค์กรอิสระ และอีก 653 ล้านบาท ให้สำนักงานอัยการสูงสุด

แม้แต่ศาลรัฐธรรมนูญ ยังได้นํ้าจิ้มแถมอีก 12 ล้านบาท

แต่ที่ฮือฮากันหนักคือ จะขอตัดลดงบกลาโหมลงอีก 1,500 ล้านบาท

ปัดโธ่ ฝันไปเถอะ

ตราบใด นายกฯลุงตู่ ยังควบเก้าอี้ รมว.กลาโหมอย่างนี้

...

รับประกันซ่อมฟรีว่างบกลาโหมไม่มีใครกล้าแตะ

อ้อ...ยังมีงบสำคัญอีกก้อน...ห้ามแหยมอย่างเด็ดขาด

“งบกลางเร่งด่วนฉุกเฉิน” กว่า 90,000 ล้านบาท ที่ “นายกฯลุงตู่” มีอำนาจสั่งจ่ายโดยไม่ต้องแจงรายละเอียดให้สภาฯ ตรวจสอบ

เท่ากับกฎหมายเปิดช่องให้นายกฯสั่งจ่ายได้ตามสะดวก

ฉันใดก็ฉันเดียวกับที่กฎหมายเปิดช่องให้รัฐบาลจัดงบประมาณขาดดุลติดลบตัวแดงติดต่อกันถึง 6 ปี เนื่องจากรัฐบาลหารายได้ไม่พอใช้จ่าย

“แม่ลูกจันทร์” ขอสรุปย่อๆให้เห็นภาพชัดๆอีกหน่อย

ปี 2558 รายรับไม่พอรายจ่าย ต้องกู้เงินมาเติมอีก 2.5 แสนล้านบาท

ปี 2559 ชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องกู้เงินไปอุดอีก 3.9 แสนล้านบาท

ปี 2560 ชักหลังไม่ถึงหน้า ต้องกู้เงินเพิ่มอีก 5.5 แสนล้านบาท

ปี 2561 เงินช็อต ต้องกู้เงินมาโปะอีก 5.5 แสนล้านบาท

ปีที่แล้ว 2562 รายจ่ายติดลบอีก 4.5 แสนล้านบาท

ปีนี้ 2563 ต้องก่อหนี้เพิ่มอีก 4.6 แสนล้านบาท

และปีหน้า 2564 คาดว่ารายรับไม่พอรายจ่าย ต้องกู้มาเติมอีก 5.2 แสนล้านบาท

สรุปว่า รัฐบาลนายกฯลุงตู่ใช้จ่ายเงินเกินหน้าตัก ต้องกู้เงินเพิ่มให้พอใช้จ่าย รวมเป็นยอดหนี้ถึง 2.6 ล้านล้านบาท

“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่าการที่รัฐบาลหารายได้เพิ่มไม่เพียงพอกับรายจ่าย แม้กฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ก็จริงอยู่

แต่แสดงว่ารัฐบาลติดนิสัยใช้จ่ายเงินเกินหน้าตัก

ไม่ถนัดในด้านหารายได้ ถนัดแต่ด้านการใช้จ่าย

ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ใช้เงินมือเติบ

เป็นห่วงนะเนี่ย...ไม่ห่วงไม่เตือนหรอก.

แม่ลูกจันทร์