พลิกผันเปลี่ยนแปลงนักษัตรรอบใหม่
ว่ากันตามดวงเมืองอันเนื่องมาจากการย่างเข้าสู่ปีนักษัตรชวด “ธาตุทอง” ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของรอบนักษัตรใหม่ในรอบ 12 ปี
ถือว่าจะมีการพลิกผันเปลี่ยนแปลงดวงชะตาของบ้านเมืองเหมือนจะเริ่มต้นใหม่ก็ว่าได้ เพราะว่ามีเหตุการณ์หลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่มีมาให้เห็นช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่เป็นปีนักษัตรจอและนักษัตรกุน
เป็น 2 ปีสุดท้ายที่ส่งท้ายรอบ 12 นักษัตร
เป็นยุคที่เปรียบเสมือนผืนแผ่นดินที่ใครปลูกอะไรไว้ก็จะได้ผลอย่างนั้น
ใน 2 ปีที่ผ่านมาจึงเป็นช่วงเวลาแห่งการสรุปจบที่ว่าใครทำดีหรือไม่ดีตั้งแต่ในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมาก็จะมีผลที่ตอบสนองให้เห็น แบบปัจจุบันทันด่วน
เรียกว่าทันในชาตินี้ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่มีความคิดเอนเอียงไปในทางฝ่ายซ้าย กลุ่มชอบปัญหาให้เกิดความวุ่นวายขัดแย้งกับบ้านเมือง กลุ่มที่คิดล้มล้างสถาบัน กลุ่มที่ไม่รักชาติบ้านเมือง โกงกินสารพัด บ้านเมืองจะล่มจมอย่างไรก็ช่าง ขอให้ตัวเองรวยคนเดียว
กลุ่มคนเหล่านี้จะโผล่หน้าออกมาให้สังคมส่วนรวมได้มองเห็นเอง สุดท้ายก็จะถูกกำจัดออกไปจากสังคมที่ดีงาม
หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องหลีกลี้หนีภัยไปอยู่ต่างแดน
ผมเก็บความเห็นของคุณภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล โหรชื่อดังระดับชาติที่ได้ถอดรหัส “ดวงเมือง” ของประเทศไทยใช้รอบปีนักษัตรที่เปลี่ยนแปลงในรอบ 12 ปี
พูดง่ายๆก็คือวาระแห่งนักษัตรในวงรอบที่เริ่มต้นใหม่นั่นเอง
ผลจากการนี้ก็อย่างคำทำนายที่ว่าทุกอย่างจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางใดทางหนึ่ง แต่จะเป็นในทางที่ดีแม้จะต้องเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงก็ตาม
...
ในรอบปีที่ผ่านมานั้นคงได้เห็นทิศทางการเมืองที่ปรากฏจะคล้ายกับว่ามีการจัดระเบียบหรือรวบรวมปัญหาเอาไว้เป็นชุดๆ
เพื่อให้เกิดผลปะทุในปีนี้?
ที่เห็นตั้งลำมาแต่ไกลก็คือการต่อสู้ทางการเมืองอันเป็นภาพใหญ่คือจะเป็นการเมืองที่เกิดทั้งในสภาและนอกสภา
เป็นคู่ขนานที่จะส่งประกายไปสู่การเมืองทั้งระบบ
ปัจจัยที่จะนำไปก็ขึ้นอยู่กับประเด็นต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
คดีความทางการเมืองที่จะเข้าสู่จุดสุดท้ายอย่างเช่นคดี “หุ้นสื่อ” และ “ล้มล้างการปกครอง” ที่มี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เป็นตุ๊กตาสำคัญ
ประกายความขัดแย้งจากกรณีนี้มีเค้าเริ่มไปสู่ความขัดแย้งที่จะนำพาไปหาความขัดแย้งใหญ่อยู่ที่ว่าจะกล้าพอที่จะลงถนนหรือไม่
กลุ่มต่อต้านแนวคิดของนายธนาธรนั้น ได้ปรากฏให้เห็นมาตลอด ล่าสุดก็ชัดเจนว่าได้มีความเคลื่อนไหวเพื่อเป้าหมายนี้ให้เห็นแล้ว
“วายร้ายตัวใหม่”
“สุเทพ เทือกสุบรรณ” จากกลุ่มต่อต้านพวก “ชังชาติ” ได้ให้ความเห็นที่จะชัดเจนและหมายถึงใครก็คงรู้กันดี
ทุกอย่างล้วนเป็นความจริงทางการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า อยู่ที่ว่ารัฐบาลซึ่งมีหน้าที่สำคัญและต้องรับผิดชอบโดยตรงที่จะนำพารัฐนาวาไปได้มากน้อยแค่ไหน
ปีนี้แหละจะได้พิสูจน์ถึงความสามารถที่แท้จริงของผู้นำรัฐบาล.
“สายล่อฟ้า”