อนาคตใหม่ระทึก 2 คดียุบ 21 ม.ค.อ่านล้มล้างการปกครอง-เงินกู้ตามติด

ธนาธรกร้าวล้มก็สร้างใหม่ วิษณุไม่ว่าฉายาศรีธนญชัยฯ 4 พรรคเล็กไปกิจสังคมใหม่

ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กกต.ชงฟันปมเงินกู้ 191 ล้าน พร้อมนัด 21 ม.ค. อ่านคำวินิจฉัยข้อหาล้มล้างการปกครอง “อนาคตใหม่” ลุ้นชี้ชะตา 2 คดียุบพรรคจ่อคอหอย “ธนาธร” ก้าวยุบได้ก็สร้างใหม่สู้ต่อ โวยังมี ส.ส.อยู่ ในสภาฯ “ช่อ” หยันชาวบ้านรู้มีใบสั่ง ส่งซิกสมาชิกไปสมัครเข้าพรรคใหม่ จวกรัฐบาลเผด็จการยื้ออำนาจ 5 ปีสุมไฟขัดแย้ง “จารุวรรณ” บุกทวงสำนวนคดี ขีดเส้นอีก 7 วันยังไม่ได้มาอีก ผู้แทน กกต.อู้อี้อ้างเอกสารลับแถมมีเยอะต้องรอบคอบ “บิ๊กตู่” ตรวจแก้ภัยแล้งชัยภูมิ ฉุนค้างโต้เป็นเผด็จการจริงคงไม่ให้ด่า-ตั้งฉายา “บิ๊กป้อม” สั่งตำรวจคุมเข้มห้ามวุ่นวาย เมินเช็กยอดวิ่งไล่ลุงพุ่งกระฉูด “วิษณุ” ไม่โกรธสื่อให้เป็น “ศรีธนญชัย รอดช่อง” เข้าใจสนุกกันวันละหนปีละครั้ง ไม่หวั่นถูกจับขึ้นเขียงหนแรก

เริ่มนับถอยหลังชะตากรรมของพรรคอนาคตใหม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ให้พรรคกู้เงิน 191.2 ล้าน และนัดอ่านคำวินิจฉัยคำร้องขอให้วินิจฉัยยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการ
บริหารพรรค ข้อหาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ ในวันที่ 21 ม.ค.63

ศาล รธน.รับคำร้องยุบ อนค.ปมกู้เงิน

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 ธ.ค. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญออกเอกสารเผยแพร่ข่าว โดยระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดี กรณีศาลรัฐธรรมนูญพิจารณารับคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 72 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กรณีพรรคอนาคตใหม่ผู้ถูกร้องกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 72 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อ กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคอนาคตใหม่ได้กระทำการอันเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยแจ้งให้ กกต.ทราบ และส่งสำเนาคำร้องให้กับพรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับสำเนาคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำร้องที่ กกต.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ เป็นกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึง กกต.ขอให้ตรวจสัญญากู้ยืมเงินระหว่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กับพรรคอนาคตใหม่ 191.2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 ก.ย.

21 ม.ค.นัดอ่านคดี “อิลลูมินาติ”

เอกสารข่าวของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญระบุอีกว่า นอกจากนี้ กรณีศาลรัฐธรรมนูญได้รับพิจารณาคำร้องนายณฐพร โตประยูร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ โดยไม่จำต้องทำการไต่สวน ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย และนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันอังคารที่ 21 ม.ค.63 เวลา 11.30 น.

กล่าวหามีแนวคิดล้มล้างการปกครอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีที่นายณฐพร ยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยกล่าวหาว่ามีแนวคิดและเจตนาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคและตัดสิทธิการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค โดยอ้างถึงสัญลักษณ์ของพรรคอนาคตใหม่เป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่ากลับหัวเหมือนสัญลักษณ์ของสมาคมอิลลูมินาติ ที่หมายถึงการยึดมั่นแนวคิดความเป็นอิสระ เป็นอันตรายต่อระบอบการปกครอง เชื่อกันว่าสมาคมอิลลูมินาติ อยู่เบื้องหลังการล้มล้างการปกครองระบบกษัตริย์ของหลายๆประเทศในยุโรป รวมถึงการประกาศอิสรภาพของอเมริกาในปี 1776 ประกอบกับนายธนาธรเป็นนายทุนเว็บไซต์และหนังสือฟ้าเดียวกันนำเสนอแนวคิดรัฐไทยใหม่

“ช่อ” เย้ยใบสั่งยุบพรรคไปก็ไร้ผล

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ไม่รับคำร้องพรรคอนาคตใหม่ฟ้อง 7 กกต.เร่งรัดลงมติส่งศาลรัฐธรรมนูญในคดีถือหุ้นสื่อว่า เรื่องคดีต่างๆพรรคเตรียมการไว้เแล้วอย่างรัดกุม การยุบพรรคไปไหนประชาชนและสมาชิกพรรคก็ถาม ต้องทำความเข้าใจว่าไม่อยู่ในวิสัยที่จะตอบได้ เป็นอำนาจวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ต้องทำความเข้าใจว่าไม่สามารถโอนย้ายสมาชิกพรรคไปพรรคใดได้ ต้องขอความกรุณาสมาชิกพรรคว่าหากถูกยุบพรรคคงต้องไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ ต้องทำทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส.ส.ไปอยู่พรรคใหม่และสมาชิกไปสมัครสมาชิกพรรคใหม่ ทำให้เหมือนว่าพรรคอนาคตใหม่ยังคงอยู่ จะทำให้ผู้มีอำนาจได้เห็นว่าการยุบพรรคไม่มีความหมาย อนาคตใหม่ไม่ใช่แค่พรรคที่มีผลทางกฎหมาย แต่เราคือทุกคนที่รวมตัวกันด้วยอุดมการณ์ เมื่อยกฟ้องไปวันนี้ประชาชนรู้สึกเหมือนว่ามีใบสั่งทางการเมืองอย่างไรหรือไม่ แต่เมื่อศาลไม่รับฟ้อง เราคงดำเนินการอะไรไม่ได้

ซัดเผด็จการขึง 5 ปีสุมไฟขัดแย้ง

เมื่อถามถึงกรณีที่ระบุว่านายกฯคนต่อไปจะเป็น พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. น.ส.พรรณิการ์ตอบว่า เพราะประชาชนเข้าใจว่าไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ รอเพียงเปลี่ยนนายกฯประเทศจะดีขึ้นได้ จึงบอกประชาชนว่าไม่จริงเสียทีเดียว แค่ได้นายกฯที่ดีมีความสามารถ แน่นอนว่าประเทศจะดีกว่านี้แน่ แต่ปัญหาคือนายกฯที่มาจากความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่สามารถได้มาโดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มี ส.ว.250 คนที่มีวาระ5 ปี คอยเลือกนายกฯอยู่ ต่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ดำรงตำแหน่งจนครบ 4 ปี ส.ว.ก็เลือกนายกฯกลับมาได้อีก สภาพการณ์นี้ทำให้การจัดวางตัวนายกฯคนต่อไปเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย และเป็นการสืบทอดอำนาจของ คสช.เนื่องจากรัฐธรรมนูญนี้เป็นมรดก คสช.ส่วนที่ฝ่ายการเมืองมองว่าเป็นการพูดเพื่อสร้างความขัดแยังนั้น ความขัดแย้งเกิดขึ้นจากการไม่ยอมให้อำนาจอยู่ในมือประชาชน พยายามจะยึดตัวเองอยู่ในอำนาจตลอดไป นี่ต่างหากคือความขัดแย้งจริงๆ เป็นแบบนี้มา 5 ปีกว่าแล้วในรูปแบบของรัฐบาลเผด็จการ แม้วันนี้พยายามจะบอกโลกว่าเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา เหมือนสิ่งที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยหรือเปล่าลองถามตัวเองดู

“จารุวรรณ” บุกทวงสำนวนยุบพรรค

เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ พร้อมนายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.เขต 3 ปทุมธานี นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่และทนายความมาติดตามความคืบหน้าการยื่นคำขอคัดสำนวนการสอบสวนของ กกต.กรณีพรรคอนาคตใหม่ กู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ 191.2 ล้านบาท กกต.ได้มีมติส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ หลังครบกำหนด 7 วันของการยื่นคำขอ กกต.ได้มอบหมายให้นายโชคดี ด้วงแป้น ผอ.ฝ่ายมาตรการทางปกครอง สำนักกิจการพรรคการเมือง สำนักงาน กกต.มารับหนังสือ นายโชคดีชี้แจงว่า ได้รับทราบหนังสือคำขอแล้ว อยู่ระหว่างสำนักกฎหมายพิจารณา เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมาก และเป็นเอกสารลับต้องพิจารณาให้รอบคอบ จะพยายามเร่งรัดให้โดยเร็ว จะแจ้งให้ผู้ร้องทราบ กกต.ได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องน่าจะมีสำเนาส่งให้พรรค น่าจะเป็นสำเนาหรือเอกสารคล้ายกันกับที่ กกต.จะให้ผู้ร้อง

นัดอีก 7 วันถ้ายังไม่ได้จะมาอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.จารุวรรณพยายามขอทราบเวลาว่าจะได้รับเอกสารจาก กกต.เมื่อใด แต่นายโชคดีไม่สามารถให้คำตอบได้ น.ส.จารุวรรณ จึงบอกว่าอีก 7 วันจะกลับมาทวงถามอีก ยังติดใจว่าเมื่อ กกต.มีมติและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ทำไมจึงยังไม่สามารถให้สำเนากับผู้มีส่วนได้เสียได้ ระหว่างการยื่นหนังสือครั้งนี้ ที่หน้าห้องรับคำร้องสำนักงาน กกต. แสงไฟไม่สว่างทำให้ ส.ต.ศักดิ์ปรินทร์ เกษมธนพัฒน์ ผู้ชำนาญการประจำตัวของนายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.เขต 3 ปทุมธานี ได้กล่าวว่า ทำไมหน้าห้องร้องเรียนจึงมืดอย่างนี้ คราวที่แล้วมาก็มืด ครั้งนี้ที่จะกลับมาทวงถามจะเอาหลอดไฟมาบริจาค เพื่อให้ กกต.สว่างไม่มืดมน

“ธนาธร” กร้าวยุบก็สร้างใหม่สู้ต่อ

ที่ จ.นครนายก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กกต.ยุบพรรคอนาคตใหม่คดีกู้เงินว่าคงไม่มีความคิดเห็นอะไรเพราะทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ปากกาและอำนาจอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า วิตกจะนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่ นายธนาธร ตอบว่า ไม่วิตก พรรคอนาคตใหม่คือการเดินทางและผู้คน คือจิตวิญญาณที่แน่วแน่ที่จะสร้างสรรค์ประชาธิปไตยในประเทศไทย ทำให้สังคมไทยเสมอภาคทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ ยุบพรรคยุบได้แต่จะยุบอุดมการณ์ความตั้งใจแน่วแน่ไม่ได้ ยุบก็สร้างใหม่ยุบก็สู้ต่อ หากโดนยุบพรรคยังมี ส.ส.ในสภาอยู่ ยุบพรรคไม่ได้หมายความว่า ส.ส.จะหายไป

สวนเคารพกติกาล้มล้างตรงไหน

นายธนาธร กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีล้มล้างการปกครอง “อิลลูมินาติ” ที่ระบุมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยโดยไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวนและนัดตัดสินคดีในวันที่ 21 ม.ค.63 ว่า ถ้าติดตามพรรคอนาคตใหม่มาตั้งแต่ก่อตั้ง จะเห็นเราต่อสู้เพื่อสร้างสรรค์ให้สังคมที่ดีกว่า สร้างสังคมที่เป็นประชาธิปไตย หยุดยั้งการสืบอำนาจของ คสช.ในระบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐสภา ถ้าตั้งพรรคขึ้นมาผ่านกลไกรัฐสภากลายเป็นการล้มล้างแล้วจะต้องให้ทำอย่างไรที่จะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงได้ เราทำทุกอย่างถูกต้องเข้าสู่กลไกการเลือกตั้งตามกฎเกณฑ์ที่ กกต.ตั้งวางไว้ ถึงจะเห็นด้วยบ้างไม่เห็นด้วยบ้าง จะเป็นโทษกับเรามากกว่าเป็นคุณ เรายอมรับผลเป็นฝ่ายค้านต่อสู้ในสภา พยายามผลักดันตั้ง กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ และรณรงค์อย่างสันติ นึกไม่ออกว่าการทำงานภายใต้กลไกแบบนี้เป็นการล้มล้างการปกครองตรงไหน

แค่แขกรับเชิญไม่เกี่ยวจัดวิ่งไล่ลุง

นายธนาธร ยังกล่าวถึงการรีทวีตในทวิตเตอร์ส่วนตัวเชิญชวนให้เพื่อนเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงว่า กิจกรรมวิ่งไล่ลุงเป็นการเชิญของจอห์น วิญญูได้แท็กตนและเชิญไปวิ่งในลักษณะของจดหมายลูกโซ่ จึงแท็กคนอื่นต่อและรับคำเชิญไปเข้าร่วม
ขอย้ำอีกครั้งว่าตนและพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้เป็นผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่รับเชิญให้ไปเข้าร่วมเท่านั้น

อนค.ภูเก็ตวางพวงหรีด กกต.

เมื่อเวลา 11.00 น. นายธีรพงศ์ ทวีทรัพย์ หัวหน้าศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่ จ.ภูเก็ตพร้อมสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ จ.ภูเก็ต ราว 30 คนรวมตัวกันที่หน้าศาลาประชาคม ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม กรณี กกต. ยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่ ก่อนเดินถือพวงหรีดและป้ายไวนิลข้อความต่างๆ เช่น อาลัย กกต.ไม่รับใช้ประชาชน กกต.ทาสรับใช้ใคร ความเป็นธรรมที่ไม่เป็นธรรม เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ เสียง 6.2 ล้านไม่มีความหมาย เป็นต้น ก่อนเดินเท้า ไปหน้าสำนักงาน กกต.ภูเก็ต พร้อมอ่านแถลงการณ์ จากนั้นผู้ร่วมแถลงการณ์ได้นำพวงหรีดไปวางที่หน้าป้ายสำนักงาน กกต.และป้ายข้อความไปผูกติดที่รั้วกำแพงก่อนแยกย้ายกันกลับด้วยความสงบ

“บิ๊กป้อม” ไม่ประเมินคนวิ่งไล่ลุงพุ่ง

เมื่อเวลา 15.05 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ติดแท็กชื่อศิลปิน ดาราเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” วันที่ 12 ม.ค.ว่า เขาชวนตนหรือเปล่าล่ะ ฝ่ายความมั่นคงไม่ต้องจับตาการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ต้องไม่ให้เกิดความวุ่นวาย วันกิจกรรมไม่ต้องไปกำกับดูแลอะไรเป็นพิเศษ อยู่ที่ว่าใครไปวิ่งบ้างหรือไม่ เมื่อถามว่าประเมินว่าคนจะไปร่วมจำนวนมากหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่ประเมิน สื่อที่อยู่ตรงนี้ยังไม่ไปกันเลย แล้วจะไปประเมินทำไม เขาไม่ไปกัน คุณจะว่าอย่างไร

ยิ้มติดโผ รมต.คนอยากให้ของขวัญ

เมื่อถามว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ กกต.ขอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้เงินนายธนาธร 191.2 ล้านบาท จะทำให้กิจกรรมของพรรคอนาคตใหม่จากนี้มีมวลชนเพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ได้ประเมิน คงต้องให้พรรคอนาคตใหม่เป็นผู้ประเมิน ส่วนผลโพลศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประชาชนอยากมอบของขวัญเป็นกำลังใจให้เป็นลำดับที่ 3 ขอขอบคุณ ตนก็อยากให้ประชาชนทุกคนอยู่ดีกินดีขึ้น กำลังใจไม่เคยลดน้อยลง ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติอยู่แล้ว

“วิษณุ” ไม่โกรธ “ศรีธนญชัย รอดช่อง”

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2563 เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ว่า เนื้อหาต่างหากที่สำคัญ ไม่ทราบว่าจะแก้บางมาตราหรือทั้งฉบับอยู่ที่ กมธ. ข้อสำคัญต้องทำให้ได้ใจคนหน่อยแล้วกัน การแก้จะสำเร็จหรือไม่เหมือนกับที่นายนิกร จำนง กมธ.บอกว่าถ้าเปรียบแล้วเหมือนกับของที่อยู่ในตู้เซฟต้องใช้กุญแจอย่างน้อย 2 ดอก มันมีหลายดอกมีหลายด่าน ดอกหนึ่งคือสภาฯ อีกดอกหนึ่งสมาชิกวุฒิสภากว่า 80 คน และยังมีประชาชนอีก หากแก้บางเรื่องต้องไปถามประชาชน และอีกดอกคือศาลรัฐธรรมนูญ ทุกดอกสำคัญหมด แต่ไม่มีอะไรยากจนกระทั่งทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมีทางออก ถ้าออกไม่ได้ก็ถอยเข้ามาในทางที่เข้ามา ส่วนกรณีสื่อมวลชนตั้งฉายาให้ว่า “ศรีธนญชัย รอดช่อง” ไม่โกรธ เคยได้รับมาแล้วหลายครั้ง ตั้งมาแล้วก็แล้วไปจะไปแคะแกะเกาให้มีเรื่องอะไรต่อไปอีก ไม่เป็นไรสนุกกันวันละหน ปีละครั้ง เข้าใจมาตั้งหลายสิบปีแล้ว

ถูกซักฟอกหนแรกไม่รู้สึกอะไร

นายวิษณุกล่าวต่อว่า กรณีเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ คงต้องทำการบ้าน ยังเตรียมไม่ถูกไม่รู้เขาจะยื่นอะไร รอให้เขายื่นญัตติก่อน แม้จะแพลมมาบ้างแล้ว ต้องมานั่งนึกว่าทำอะไรไว้บ้าง เมื่อถามว่าฝ่ายค้านมั่นใจว่าจะน็อกรัฐบาลได้แน่ๆหวั่นไหวหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ตอบ เพราะตอบอะไรไปก็ไม่ถูกทั้งนั้น ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกก็ไม่รู้สึกอะไร เป็นเรื่องปกติธรรมดา พอบอกไปแบบนี้สื่อจะหาว่าตนเมินไม่รู้ร้อนรู้หนาว หากบอกว่ากลัวตกใจมากจะมาวิจารณ์อีก นี่คือกติกาตามรัฐธรรมนูญเราก็ตอบตามกฎหมายไม่เป็นไร ไม่ต้องเก็งข้อสอบ เขาบอกอยู่แล้วว่าข้อสอบคืออะไร แต่ไม่ทราบรายละเอียด เขามีหลักฐานมาเราก็มีหลักฐานไป และไม่จำเป็นต้องมี ส.ส.มาช่วย “พวกคุณไม่รู้เหรอว่าทำไมเขาถึงอภิปรายฯผม เขารู้กันทั้งนั้นแหละ” นายวิษณุกล่าว เมื่อนักข่าวถามว่า เหมือนอภิปรายนายกฯ ด้วยใช่หรือไม่ นายวิษณุเพียงแต่ยิ้ม แต่ไม่ตอบ

“ธนกร” โอ่ รบ.ทองแท้ไม่กลัวไฟลน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ระบุมีข้อมูลหลักฐานแน่นหนาเพื่อซักฟอกขับไล่รัฐบาลว่า รัฐบาลพร้อมชี้แจงมั่นใจว่าทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้ เท่าที่เห็นเป็นข้อมูลเก่า เชื่อว่ารัฐมนตรีแต่ละท่านคงชี้แจงได้ รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเข้าใจกลไกการตรวจสอบของสภาฯดี จึงไม่กลัวการตรวจสอบ โดยเฉพาะนายกฯ มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ เปรียบเสมือนทองแท้ไม่กลัวไฟลน จึงพร้อมจะถูกตรวจสอบ

พท.ขู่จัดหนักจับ รมต.ขึ้นเขียงเชือด

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวหลังการประชุมเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเต็มที่ อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เข้าใจว่าการใช้กลไกสภาตรวจสอบรัฐบาล เป็นกระบวนการทำงานปกติในระบบรัฐสภา แม้จะหนักก็หนักในเกม ไม่ใช่การวางแผนโค่นล้มรัฐบาล ลองไปดูฉายารัฐบาลจะพอทราบว่าใครจะถูกจับขึ้นเขียงบ้าง อาจไม่ได้มีเฉพาะรัฐมนตรีจากพรรคแกนหลัก พรรคร่วมรัฐบาลอาจไม่รอด ขอบคุณสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล ที่ตั้งฉายาสะท้อนภาพการทำงานของรัฐบาลได้ชัดเจนว่าเป็นอิเหนาเมาหมัด แห่งรัฐเชียงกง ไม่มีประโยชน์ที่ พล.อ.ประยุทธ์จะโกรธควันออกหู แต่ไม่ปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลให้ดีขึ้น ควรเข้าใจว่าตำแหน่งนายกฯ ไม่ใช่นายพลในค่ายทหาร ที่สั่งกำลังพลซ้ายหันขวาหันตามสะดวก ถูกวิพากษ์วิจารณ์ประเมินผลได้

กมธ.ก.ม.ขอให้ถอยคนละก้าว

เมื่อเวลา 14.15 น.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะโฆษกกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน แถลงว่า ที่ประชุมได้เชิญนายธนวัฒน์ วงค์ไชย ผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งส่ง พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง รอง ผบก.น.5 เป็นตัวแทน ผู้กำกับ สน.ลุมพินี ผู้กำกับ สน.ชนะสงคราม ผู้กำกับ สภ.เมืองพิจิตร ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้กำกับ สน.ลุมพินี เพื่อสอบถามถึงการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงวันที่ 12 ม.ค.2563 โดยซักถามประเด็นว่าทำได้หรือไม่ ตำรวจระบุว่าทำได้แต่ต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย กมธ.ได้ขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้จัดงานปรับความเข้าใจกัน หากจัดกิจกรรมดังกล่าวไม่ได้ คนที่ลงทะเบียนไว้กว่า 8,000 คนจะเสียหาย จึงเห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรที่จะถอยคนละก้าว เพื่อให้มีความเข้าใจกันมากขึ้น โดย กมธ.จะเฝ้าดูและจับตาว่าเรื่องนี้จะมีความคืบหน้าอย่างไร

นายกฯลงพื้นที่ตรวจแก้แล้งชัยภูมิ

เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษา นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เดินทางไปยังท่าอากาศยานขอนแก่น ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยัง จ.ชัยภูมิ ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จ.ชัยภูมิ ทันทีที่ไปถึงมีข้าราชการ ส.ส.และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาทิ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมศักดิ์ คุณเงิน ว่าที่ ส.ส.เขต 7 ขอนแก่น นางจุลีพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อมาต้อนรับ นายกฯกล่าวขอบคุณที่สนับสนุนขอให้ช่วยกันดูแลประชาชน เป็นรัฐบาลเพื่อทุกคนและมีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามาผูกเอวนายกฯ

รู้คนอีสานไม่ชอบแต่ไปดูแลทุกที่

จากนั้นนายกฯขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์โรงเรียนกุดตุ้มวิทยา ต.หนองไผ่ อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ แล้วขึ้นรถตู้โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน กจ 1155 ชัยภูมิ ไปจุดแรกที่คลองเทา บ้านหนองแหน ต.หนองไผ่ ติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง มีชาวบ้านมาต้อนรับกว่า 1 หมื่นคน เปิดเพลง “ชัยภูมิบ้านพี่” ของเพลิน พรหมแดน มี ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ มาต้อนรับ จากนั้นนายกฯรับฟังสรุปโครงการฟื้นฟูและพัฒนาคูคลอง ก่อนขึ้นเวทีกล่าวว่า วันนี้ไม่ต้องมาผูกเสี่ยว ผูกมาแต่เกิดแล้วเพราะแม่เป็นคนชัยภูมิ ทุกปัญหาประชาชนสำคัญหมดที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข ทราบดีชัยภูมิมี ส.ส.หลายพรรค อีสานมีคนไม่ชอบตนก็เยอะอยู่ใช่หรือไม่ แต่ก็มาตรงไหนยิ่งไม่ชอบยิ่งต้องมาใหญ่ โครงการปี 62 อยู่ระหว่างดำเนินการ 249 โครงการ ตลอด 5 ปีทำงานมากกว่า 4 เท่าของรัฐบาลก่อนๆ
แต่ยังไม่เพียงพอ ฝากข้าราชการอย่าปล่อยให้มีผู้กล่าวหาว่าเกียร์ว่าง ก่อนจะเดินทักทายถ่ายเซลฟี่กับชาวบ้านอย่างอารมณ์ดี ร่วมปลูกต้นมะม่วง พันธุ์เขียวเสวยและปลูกหญ้าแฝกริมคลองเทา

ถ้าเผด็จการจริงคงไม่ให้ด่า–ตั้งฉายา

ต่อมาเวลา 14.00 น. นายกฯและคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ หมายเลข 31525 ไปยังจุดจอดที่องค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะอาด อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เปลี่ยนมาใช้รถโตโยต้าอัลพาร์ด กจ 2987 ชัยภูมิ เดินทางไปยังไร่อ้อยกุดจอก ต.โคกสะอาด อ.ภูเขียว ชมการตัดอ้อย สางและเก็บใบอ้อยด้วยวิธีการสมัยใหม่ลดการเผา ลดค่า PM 2.5 นายกฯกล่าวกับประชาชนราว 5,000 คนที่มาต้อนรับว่า ขอให้ลดการเผาเพราะสุขภาพสำคัญสุด สังคมต้องมีความสุข อย่าให้อะไรร้อนขึ้นมาเลย อย่าให้ความขัดแย้งสูง อย่าไปรับฟังบางเรื่องทำปวดหัวเป็นโรค ประสาทอีก เอาเรื่องดีๆมาคุยกันแก้ปัญหาด้วยกฎหมาย ถ้าทำผิดๆถูกๆตามใจก็ติดคุก ตนกลัวคุกนะ ใครไม่กลัว หลายคนบอกตนใช้อำนาจ พูดไปเถอะ ถ้าจริงคงไม่มานั่งกันอยู่แบบนี้ จะด่าอะไรตนก็ได้ตนก็เฉย ไม่เข้าใจอย่างนี้เหรอเผด็จการ จะตั้งฉายาอะไรก็ตั้งไป คนตั้งปวดท้องแต่ตนไม่เป็นอะไรหรอก อย่าไปให้ความสำคัญ เรารู้อยู่อะไรถูกอะไรผิด

เคลิ้มเสียงเชียร์ลุงตู่ผู้กู้บ้านเมือง

ต่อมานายกฯไปที่โรงเรียนบ้านภูดิน (มิตรผลอุปถัมภ์) ในโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา เน้นการเรียนการสอนการเรียนรู้จากการปฏิบัติ พัฒนาทักษะอาชีพ ต.โคกสะอาด เด็กนักเรียนพร้อมใจสวมเสื้อยืดสีขาวหลังสกรีนภาพ พล.อ.ประยุทธ์เป็นรูปการ์ตูนและข้อความ “ลุงตู่ผู้จงรักภักดี ผู้ถวายชีวิตเป็นราชพลีต่อแผ่นดินไทย ขอให้ต่อสู้กู้บ้านเมืองเรืองวิไล ขอให้กำลังใจลุงตู่ผู้กู้บ้านเมือง#กองหนุนลุงตู่ FC #FC กองหนุนลุงตู่อีสาน” จากนั้นนายกฯเยี่ยมชมการเรียนการสอน ชมการเพาะชำอ้อย การทำอ้อยคั้นสด การทำมาลัยมะกรูดใบเตย การบังคับหุ่นยนต์ การเขียนโค้ดดิ้งหรือเขียนโปรแกรมคอม– พิวเตอร์ จากนั้นนายกฯและคณะเดินทางกลับ กทม.

“คึก” ชงถนนปลอดฝุ่นแทนหมอน

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการผลิตหมอนยางพาราประชารัฐแจกประชาชน 30 ล้านใบ แก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำว่า ถ้ารัฐบาลต้องการลงทุนบิ๊กโปรเจกต์ล้างสต๊อกยางพาราให้ราคายางสูงขึ้นจริง ต้องกล้าลงทุนสร้างโครงการถนนปลอดฝุ่นลาดยางพาราทั่วประเทศ ใช้งบฯ 1 แสนล้านบาท ลงทุนไม่มากไปกว่าก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ 1 สาย แต่จะได้ประโยชน์มหาศาล ล้างสต๊อกตกค้างสะสมครั้งใหญ่สุด ราคายางในตลาดจะขยับสูงขึ้นอัตโนมัติ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ที่สุด ถนนลูกรังในชนบทจะเปลี่ยนโฉมเป็นถนนปลอดฝุ่นทั่วประเทศ ระยะทาง 843,905 กิโลเมตร

“ชัชวาลล์” เปิดตัว “กวินนาถ” ร่วมทีม

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท แถลงข่าวเปิดตัว น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี ที่จะมาร่วมงานกับพรรคพลังท้องถิ่นไท ภายหลังจากถูกพรรคอนาคตใหม่มีมติขับออกจากพรรค โดยมีแกนนำกลุ่มกิจสังคมใหม่ 4 พรรคได้แก่ พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พรรคประชาธรรมไทย และพรรคไทยศรีวิไลย์ ร่วมต้อนรับ น.ส.กวินนาถด้วย โดยนายชัชวาลล์กล่าวว่า น.ส.กวินนาถได้มายื่นหนังสือสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไทในวันที่ 25 ธ.ค.นี้เรียบร้อยแล้ว และจะร่วมทำงานกับพรรคพลังท้องถิ่นไท และในนามกลุ่มกิจสังคมใหม่ด้วยเพราะมีอุดมการณ์ตรงกันทำงานเพื่อประเทศ

ไม่รับปากหนุน “บิ๊กตู่” ทุกเรื่อง

น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี กล่าวว่ารู้สึกอบอุ่นที่ได้รับการต้อนรับจากทุกคน หลังถูกพรรคอนาคตใหม่ขับออกได้มาเจอกับนายชัชวาลล์ที่สภาฯ ได้จับมือให้กำลังใจพร้อมบอกว่าถ้าได้มาร่วมงานกันก็ดี สุดท้ายไปหารือร่วมกับทีมงานเห็นว่าการจะสร้างความมั่นคงให้ประเทศต้องเริ่มจากการมีท้องถิ่นแข็งแกร่ง ตรงกับนโยบายพรรคพลังท้องถิ่นไทเน้นพัฒนาท้องถิ่น รวมถึงกระแสคนในพื้นที่เห็นว่าถ้าออกจากฝ่ายค้านควรจะไปอยู่กับรัฐบาลจะทำประโยชน์ได้มากขึ้น จึงตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคพลังท้องถิ่นไท ทั้งนี้ หากเรื่องใดนายกฯไม่สามารถตอบประชาชนได้อาจจะไม่สนับสนุนไม่ได้หมายความว่าต้องเห็นเหมือนกันทุกเรื่อง และอาจชักชวน 2 ส.ส.จันทบุรีให้มาอยู่พรรคพลังท้องถิ่นไทด้วยกัน

หลังปีใหม่ยุบฝ่ายค้านอิสระ

นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธรรมไทย กล่าวว่า การดำเนินงานในนามกลุ่มกิจสังคมใหม่ 4 พรรคได้แก่ พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พรรคประชาธรรมไทย และพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่มีเสียง ส.ส.ล่าสุด 8 เสียงจะทำกิจกรรมร่วมกันต่อไป หากเรื่องใดที่ฝ่ายบริหารไม่สามารถชี้แจงตอบคำถามประชาชนได้ กลุ่มกิจสังคมใหม่จะไม่ยกมือให้ จะยึดผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า หลังเปิดสภาฯมาช่วงปีใหม่ ประมาณวันที่ 6 ม.ค.2563 จะแถลงยุบฝ่ายค้านอิสระ เพื่อมาทำงานกับฝ่ายรัฐบาลในนามกลุ่มกิจสังคมใหม่ 4 พรรค มี ส.ส. 8 คน ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์จะเห็นความรู้ ความสามารถกลุ่มกิจสังคมใหม่หรือไม่ จะไม่นำเรื่องนี้ไปต่อรองโควตา ครม. ต่อให้รวมกลุ่มกันได้มากแค่ไหน ถ้าไม่ทำประโยชน์ให้ประชาชนก็ไม่เกิดประโยชน์

“เต้” ยัน ตร.ไม่แจ้งข้อหาหิ้วระเบิดเข้าสภา

นายมงคลกิตติ์กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีถูกตำรวจ สน.บางโพแจ้งความดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.ความมั่นคง กรณีนำสารประกอบวัตถุระเบิดเข้ามาในสภาฯว่า ยืนยันว่า สน.บางโพยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีความมั่นคงกับตน เพราะไม่เข้าข่ายความผิดความมั่นคง สารประกอบไนโตรเจน 1 ขีดที่นำเข้ามาในสภาฯ หาซื้อได้ตามท้องตลาดไม่ใช่สารต้องห้าม ได้ให้ฝ่ายกฎหมายพรรคไปพบ ผกก.สน.บางโพ ได้รับคำยืนยันว่าไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆกับตน มีแต่เพียงแค่เลขาธิการสภาฯ ให้เจ้าหน้าที่ไปลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น

“กรุง” ขอยืดเวลาให้การคดีใบเหลือง

เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีที่ กกต.ผู้ร้อง ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัย กรณี กกต.แจกใบเหลืองนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.เขต 5 จ.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผู้คัดค้าน ถูกกล่าวหาให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้ เหตุคนใกล้ชิดไปมอบพวงหรีดและเงินใส่ซองช่วยงานศพในพื้นที่ 1,000 บาท อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งมาตรา 73 วรรคหนึ่ง (1) กกต.ขอให้ศาลมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ นัดนี้ทนายความของนายกรุงศรีวิไล ผู้คัดค้าน ยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายเวลายื่นคำให้การคัดค้านและบัญชีพยาน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต กำหนดนัดตรวจหลักฐานคดีอีกครั้งวันที่ 17 ม.ค.63 เวลา 09.30 น.