ผบ.ทร. ตรวจเยี่ยมหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ณ จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมมอบโอวาทให้กำลังพล กระสุนน้ำตาลร้ายกว่ากระสุนเหล็ก ขอยึดมั่นอุดมการณ์ 

วันที่ 23 ธ.ค. พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยนาวาเอกหญิง อุบลวรรณ รุดดิษฐ์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ คณะนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ และคณะผู้บริหารสมาคมภริยาทหารเรือ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ณ สถานีเรือโขงเจียม

หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตอุบลราชธานี อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พลเรือตรี สมพงษ์ ศรอากาศ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบโอวาทแก่กำลังพล ก่อนเข้ารับฟัง
การบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง

...

โดย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชม หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้สร้างผลงานให้เป็นที่ปรากฏสร้างชื่อเสียงให้แก่กองทัพเรือ และประเทศชาติเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันปัญหาและหน้าที่รับผิดชอบมากมายขึ้นโดยลำดับ พร้อมเน้นย้ำให้กำลังพล ต้องอดทนต่อสิ่งยั่วยุ โดยเปรียบเปรย ความหอมหวานของกระสุนน้ำตาลที่ร้ายแรงกว่ากระสุนเหล็กกระสุนทองแดง ซึ่งเป็นเสมือนลาภสักการะ และขอขอบคุณทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทตลอดมา ขอให้ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติภารกิจต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความปลอดภัยให้กับประชาชน

ผู้บัญชาการทหารเรือกล่าวว่า หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง ปฏิบัติการอันยาวไกลตั้งแต่เหนือสุดที่เชียงราย จนมาสิ้นสุด ณ ที่แห่งนี้คือ โขงเจียม ความยาวประมาณกว่า 900 กิโลเมตร ด้วยกำลังอันน้อยนิด แต่ต้องรับผิดชอบพื้นที่กว้างขวาง จึงต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีความมานะ เสียสละ อดทน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลอดแนวแม่น้ำโขง ภัยคุกคามได้เปลี่ยนแปลงไป จากแต่ก่อน ต้องจับปืนต่อสู้อริราชศัตรูด้วยกระสุนเหล็ก กระสุนทองแดง ปัจจุบันภัยคุกคามได้แปรเปลี่ยนไป เป็นกระสุนน้ำตาลที่ร้ายแรงกว่ากระสุนเหล็ก กระสุนทองแดง ความเจ็บปวดทางร่างกาย ได้เปลี่ยนแปลงไป เป็นความอดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุมากมายหลายรูปแบบ ทั้งลาภสักการะ และอำนาจวาสนาและอิทธิพล สิ่งเหล่านี้ ข้าราชการ นรข.ต้องต่อสู้ มากกว่าปกติ หลายผู้หลายคนต้องหมดอนาคตที่ นรข. หลายคนก็เจริญรุ่งเรือง เพราะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามที่กล่าวมาแล้วอย่างสมภาคภูมิ ผมเชื่อว่า ในปัจจุบัน ภายใต้การนำของผู้บัญชาการ นรข. และผู้บังคับ นรข.เขตต่างๆ รวมถึงกำลังพลทุกนายของ นรข. จะมีความมุ่งมั่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุดมการณ์ชาติ สปิริตนักรบชาวเรือ ถึงแม้จะห่างไกลทะเล แต่ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นชาวเรือที่อดทนมากกว่าคนปกติ จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนามนี้ไปได้ นำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศให้แก่ตนเอง กองทัพเรือ และประเทศชาติในที่สุด ผมพร้อมด้วยผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ รวมถึงนายกสมาคมภริยาทหารเรือและสมาคมภริยาทหารเรือทุกคน ขอเป็นกำลังใจให้พวกเราทุกนายมีความเข้มแข็ง ไม่เฉพาะแต่ร่างกายแต่จิตใจ ต้องเข้มแข็งกว่าเหล็กเพชร ก็เชื่อได้ว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี 

หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง หรือ นรข. มีภารกิจในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย คุ้มครองและช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่างๆ ตามหลักมนุษยธรรมในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง รวมทั้งสนับสนุนกำลังทางบก ในการรักษาความมั่นคงและป้องกันประเทศ มีพื้นที่ปฏิบัติการตามริมฝั่งแม่น้ำโขงครอบคลุม 8 จังหวัด คือ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และ อุบลราชธานี เป็นระยะทางทั้งสิ้น 928 กิโลเมตร และแบ่งความรับผิดชอบเป็น นรข.เขต 4 เขต ดังนี้ 1. นรข.เขตเชียงราย 2. นรข.เขตหนองคาย 3. นรข.เขตนครพนม 4. นรข.เขตอุบลราชธานี มีสถานีเรือทั้งสิ้น 14 สถานีเรือ และ 1 หน่วยเรือ โดยในส่วนของ นรข.เขตอุบลราชธานี มีสถานีเรือ 2 แห่ง คือ สถานีเรือโขงเจียม และสถานีเรือเขมราฐรับผิดชอบ ตั้งแต่ อ.ชานุมาน ถึง อ.โขงเจียม

ทั้งนี้ ในห้วงเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ประสบปัญหาอุทกภัยเป็นบริเวณกว้าง ซึ่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจาก ได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้ ได้สั่งการให้กองทัพเรือ สนับสนุนกำลังพล ยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรือผลักดันน้ำ 53 ลำ ในการเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี ให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขงโดยเร็วที่สุด ตามที่ได้รับการร้องขอจากทางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งสามารถผลักดันมวลน้ำที่ท่วมขังไหลลงสู่แม่น้ำโขงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น บรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงได้จัดกำลังปฏิบัติตามภารกิจทั้งการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติอย่างต่อเนื่อง ตามที่รัฐบาลได้มีคำสั่งกำชับฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ร่วมขับเคลื่อนและคงความต่อเนื่องในการแก้ปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล โดยให้เปิดยุทธการกวาดล้างภัยจากยาเสพติดในทุกจังหวัดทั่วประเทศตลอดทั้งปี

การนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบหมายและสั่งการที่ให้ นรข. "หยุดยั้งยาเสพติดไว้ที่แนวชายแดน" ไม่ปล่อยให้ทะลุเข้าไปสู่ส่วนกลางและพื้นที่ชั้นใน เพื่อตอบสนองนโยบายนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดย นรข. เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจทั้งทางบกและทางน้ำ รวมถึงการจัดเจ้าหน้าที่ เป็นชุดเฝ้าระวังทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน ตลอดจนเพิ่มมาตรการด้านการสกัดกั้น ทั้งการจัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด การเฝ้าตรวจช่องทางท่าข้ามต่างๆ รวมถึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย และกวาดล้างกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ ซึ่งมีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยในปีงบประมาณที่ผ่านมาจนถึงปีงบประมาณ 2563 มีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม สามารถตรวจยึดยาเสพติดและจับกุมผู้กระทำผิดได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีผลการปฏิบัติในด้านอื่น ๆ อาทิ การตรวจพบการกระทำาผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ร.บ.ป่าไม้ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เพื่อพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ อาทิ ภัยหนาว อัคคีภัย ภัยแล้ง และอุทกภัย