“สนธิ ลิ้มทองกุล” สอนมวย “ธนาธร” สู้ให้ถูกวิธี มั่นใจไม่เกิดม็อบใหญ่จนต้องนองเลือด ชี้ ยังไม่เคยประสบอย่างพันธมิตรฯ-นปช. เตือน นรกอยู่ข้างหน้า
นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไลฟ์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก คุยทุกเรื่องกับสนธิ ถึงกรณีหาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในช่วงนาทีที่ 24.30 เป็นต้นไป ว่า โดยมีการเท้าความถึงเรื่องการชุมนุมในฐานะสื่อมวลชน ที่ขณะนั้นตนเองออกมาประท้วง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการชุมนุมที่มีการโดนทำร้ายมากที่สุด ต่อมามีการชุมนุมของ นปช. จนถึง กปปส. จนวันนี้แกนนำ กปปส. กับทหารยุค คสช. ก็ยังมีสายสัมพันธ์กันอยู่ บางคนเข้ามาอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ
ทั้งนี้ นายสนธิ มองว่า พรรคอนาคตใหม่ เกิดขึ้นเพราะความอึดอัดใจที่เห็นการเมืองจะกลับไปเป็นรูปแบบเดิม และคนรุ่นใหม่ก็ไม่ได้มองไปที่พรรคเพื่อไทย เมื่อ นายธนาธร เข้ามาภาพของคนรุ่นใหม่ก็เกิดขึ้น เทเข้าไปเชียร์มากพอสมควร ทั้งนี้ ตนเองมองว่าควรคัดค้านสิ่งที่พลังประชารัฐ เพื่อไทย หรือที่ใครก็ตามทำอยู่ข้างนอก แต่ นายธนาธร ตัดสินใจเข้าสู่ระบบการเมืองจนได้เสียง ส.ส. 81 เสียง แต่ในที่สุดก็ติดขัดอยู่ที่รัฐธรรมนูญ อีกทั้ง นายธนาธร เข้ามาอย่างไม่รอบคอบ จนทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายอย่าง จนกำลังจะไปถึงการยุบพรรคที่ล่าสุด กกต. ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในขณะนี้
“เห็นได้ชัดว่าส่วนใหญ่เป็นความผิดพลาดของคุณธนาธร เพราะยุทธวิธีในการต่อสู้ ไม่ใช้วิธีแทรกซึมและไม่ใช้วิธีใจเย็นๆ หาทางเปลี่ยนแปลง และจุดที่ผิดมากที่สุดคือเข้ามาเล่นในระบบ เมื่อเข้ามาแล้วไม่สามารถเป็นพรรครัฐบาลได้ ก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน การที่คุณธนาธร วิพากษ์วิจารณ์ทหารผมเห็นด้วย ในขณะเดียวกันทหารควรจะใช้ช่วงเวลานี้ที่ถูกวิจารณ์เรื่องการทุจริต เรื่องงบประมาณ มาปรับปรุงแก้ไขตัวเอง แต่ทหารไม่ยอมปรับปรุงแก้ไขใดๆ จึงสร้างความชอบธรรมให้กลุ่มคุณธนาธรมากขึ้น”
...

นายสนธิ เผยด้วยว่า นายธนาธร ต้องการเป็นตัวของตัวเอง แต่ก็มองว่าใช้ยุทธวิธีที่ผิด และการที่จะมีแฟลชม็อบกำลังใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมเตือนว่าการชุมนุมเช่นนี้ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ ไม่ได้ผล คล้ายกับยุงกัดซึ่งไม่มีประโยชน์ ส่วนคำถามที่ นายธนาธร เคยพูดว่า ม.ค. ปีหน้าจะเป็นของจริง จะเหมือนฮ่องกงหรือไม่ นายสนธิ ตอบอย่างชัดเจนว่า “ไม่เหมือน” เพราะคนรุ่นใหม่ในฮ่องกงและไทยเป็นคนละพวกกัน ทำได้อย่างเดียวคือกวนน้ำให้ขุ่น และ นายธนาธร ก็มีจังหวะลืมตัว พูดจาก้าวร้าวขึ้นในช่วงหลัง ต้องรู้ว่าผิดพลาดตรงไหน เคยบอกว่ามีวิธีเปลี่ยนได้ อย่าได้สู้แค่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แต่ควรจะสู้ในมุมการทำงานที่ไม่โปร่งใส ย้ำคิดย้ำทำในจุดนั้นจะมีเสียงเข้ามามากมาย
“ถ้าจะสู้ ต้องผ่านอย่างพวกผมมาก่อน หรืออย่าง จตุพร ณัฐวุฒิ ต้องเจอทุกอย่าง คดีความ ปักหลักชุมนุมกันเป็นปี หลายต่อหลายอย่างคุณยังไม่มาขั้นนั้นเลย ไม่ใช่เรื่องง่าย และถามตัวคุณเองนิดนึงเหมือนที่ผมเคยถามตัวเองว่าผมพร้อมจะสู้ไหม โดยที่เอาทรัพย์สมบัติของผมทุกอย่างเข้ามาสู้ ผมสู้จะผมไม่มีอะไรจะเหลือ การต่อสู้ของคุณครั้งนี้ผมไม่ได้ดูถูก ถ้าคุณยังสู้แบบนี้ คือสู้กับระบบซึ่งพวกเขาอยู่ในระบบ คุณออกมาสู้บนถนน แล้วคนบนถนนก็ไม่ได้สู้จริง คุณสู้แบบฉาบฉวย แบบคนรุ่นใหม่”
อย่างไรก็ตาม นายสนธิ ฝากถึง นายธนาธร ให้เชื่อว่านรกอยู่ข้างหน้า เพราะตนเองผ่านมาหมดแล้ว อีกทั้งเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็พูดเสมอว่ามีความมั่นคง ก็อาจจะมีการเตรียมการอะไรไว้บางอย่าง ซึ่งคำตอบมีอยู่ในตัวอยู่แล้วระหว่างคนที่มีกับไม่มีอำนาจรัฐ พร้อมถาม นายธนาธร ทิ้งท้ายว่า กล้าพอจะสู้ด้วยเลือดอย่างที่พูดหรือไม่ และกล้าพอที่จะพาคนที่ลงถนนมาสู้ด้วยเลือดหรือไม่.