‘พีระพันธุ์’ จองนั่ง ปธ.กมธ.คนเชียงใหม่เดือดศรีนวล รวมพลเผาหุ่นมอบโลงศพ

“พีระพันธุ์” ลั่นพร้อมนั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน กมธ.ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ “วิรัช” บอก วิปรัฐบาลหนุนเต็มที่ เชี่ยวชาญกฎหมายเหมาะสม “เสรีพิศุทธ์” ไม่แปลกใจรู้ดีมาตามออเดอร์ เชื่อขวางไม่ให้แตะต้องที่มา ส.ว. “วิษณุ” เด้งเชือกไม่รู้จัก “สนธิญาณ” อดีตแนวร่วม กปปส.เหาะมาเป็น กมธ. “เทวัญ” ยอมรับ “ต้อย” แหกโผเข้ามาแต่ไม่น่าจะล่อฟ้าได้ “ศรีนวล” แสดงตัวชัดเล่นบทลูกพรรคยืนรอรับ “อนุทิน” ซบภูมิใจไทย ไม่รับท้าลาออกเลือกตั้งใหม่พิสูจน์เสียงชาวบ้าน ชาวแม่วางนัดรวมพลเผาหุ่นมอบโลงศพ ก่อนจัดหนักชวน “วิ่งไล่ป้า” คู่กับ “วิ่งไล่ลุง” “เสี่ยหนู” อ้างถูกขับไม่ได้ดูดแบบงูเห่า “ฐนภัทร” ยังเล่นตัวยังไม่ย้ายเข้า ชทพ.แม้โดนตามจีบ ด้าน “ชวน” เต้นสั่งสอบกลุ่มหลากเพศดูดปากโชว์กลางสภา ขันนอตปรับระเบียบเข้มคุมเวทีแถลงข่าว เพื่อไทยดันญัตติตั้ง กมธ.ทวงคดีทุบ “จ่านิว” สภาเห็นชอบฉลุยสอบ 60 วัน ขณะที่งานเลี้ยงปีใหม่ ส.ส. รัฐบาลคึกคัก ไร้เมนูหูฉลาม

หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2560 จำนวน 49 คน ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น แต่ยังต้องจับตาไปที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ กมธ.ชุดดังกล่าวจะเข้ามานั่งเป็นประธาน กมธ.แสดงบทบาทถึงความจริงใจเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เห็นพ้องต้องกันไว้หรือไม่

“พีระพันธุ์” กุนซือ “บิ๊กตู่” รายงานตัว

...

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 ธ.ค. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ กมธ.วิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เดินทางเข้าไปรายงานตัวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่อเข้ารับหน้าที่ที่ปรึกษานายกฯ จากนั้นเวลา 15.20 น. นายพีระพันธุ์ได้ทำพิธีสักการะศาลพระภูมิและศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ โดยนายพีระพันธุ์ให้สัมภาษณ์ว่า นายกฯมอบหมายรับผิดชอบงานด้านกฎหมายและเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ อาจต้องศึกษาต่อไปว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องปรับปรุงเพิ่มเติมอะไรบ้าง รวมถึงกฎระเบียบทางราชการที่มีช่องโหว่เพื่อป้องกันการทำสัญญาโครงการของหน่วยงานของรัฐไม่ให้มีคดีอีก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ไปสังกัดพรรคใด

ลั่นพร้อมนั่งหัวโต๊ะ กมธ.แก้ รธน.

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวรัฐบาลจะเสนอชื่อดำรงตำแหน่งประธาน กมธ.ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายพีระพันธุ์ตอบว่า ยังไม่ทราบ พูดคุยกับนายกฯก็ไม่ได้หารือเรื่องนี้ เมื่อถามว่า หากในที่ประชุม กมธ.มีมติเลือกให้เป็นประธาน กมธ.พร้อมทำหน้าที่ทันทีใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ ตอบว่า ถ้าได้รับเลือกทำได้อยู่แล้ว ไม่ต่างกับกรรมาธิการอื่นๆเหมือนกันหมด อยู่ในสภาฯมานานแล้ว เคยทำหน้าที่ประธาน กมธ.มาหลายคณะแล้ว

“วิรัช” ยันวิปรัฐบาลหนุน “ตุ๋ย” เต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับตำแหน่งประธาน กมธ.วิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ช่วงแรกพรรคพลังประชารัฐสนับสนุนนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ แข่งกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีต นายกฯ จนนายอภิสิทธิ์ขอถอนตัว ต่อนายสุชาติไม่อยากรับตำแหน่งขอถอนตัวไปอีกคน จึงเสนอชื่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นมาอีก แต่ไร้กระแสตอบรับ กระทั่งมีการดึงนายพีระพันธุ์ มาเป็นที่ปรึกษานายกฯ พร้อมกับกระแสข่าวจะถูกเสนอให้เป็น กมธ.ในโควตา ครม. ทำให้นายพีระพันธุ์ จะได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธาน กมธ.เพราะมีความสามารถด้านกฎหมาย ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ได้พูดคุยกันถึงตำแหน่งประธาน กมธ.วิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเบื้องต้น ส่วนใหญ่เห็นว่านายพีระพันธุ์มีความเหมาะสม

“เสรีพิศุทธ์” เชื่อ รบ.ขวางแก้ที่มา ส.ว.

ที่รัฐสภา เกียกกาย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเสรีรวมไทยเสนอชื่อนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็น กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคเสรีรวมไทยมี ส.ส.น้อย ต้องทำงานทั้งในและนอกสภาฯ จำเป็นต้องเอาคนนอกที่มีความรู้ ความสามารถมาทำหน้าที่ กมธ. นายสมชัยเป็นผู้มีความรู้จริง มีแนวทางตรงกัน แม้จะเคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคอื่น ส่วนรายละเอียดจะแก้ประเด็นใดบ้างนั้นต้องหารือกันอีกครั้ง หลายมาตราต้องแก้ไข แต่คิดว่าการแก้ไขให้ ส.ว.ไม่มีอำนาจเลือกนายกฯรัฐบาลคงไม่มีทางยอม ส่วนกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ จะเป็นประธาน กมธ.นั้นนายพีระพันธุ์ประกาศตัวชัดเจนแล้วว่าอยู่ฝั่งใดย่อมต้องทำตามที่ผู้มีอำนาจสั่ง

“สมชัย” รับปากจัดหนักจัดเต็ม

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.และ ผอ.ศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีถูกเสนอชื่อเป็น 1 ใน 49 กมธ.วิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญโควตาพรรคเสรีรวมไทยว่า “ขอขอบคุณท่านเสรีพิศุทธ์ และพรรคเสรีรวมไทย ที่เห็นความตั้งใจในการเข้าไปร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาอย่างพิกลพิการร่างตามความปรารถนาของคนบางคนเพียงมุ่งหวังประโยชน์ครองอำนาจทางการเมืองมากกว่าจะให้เป็นรัฐธรรมนูญที่ดี เป็นธรรมเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย พรรคเสรีรวมไทยมีโควตาเพียง 1 ที่นั่ง แต่เสียสละยอมให้ผมใช้โควตาดังกล่าว ขอรับรองว่า 1 เสียงนี้จะทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างเต็มที่”

ส.ว.เตือนไขกุญแจผิดดอกติดล็อก

นายพีระศักดิ์ พอจิต ส.ว.กล่าวถึงกรณีสภาผู้เเทนราษฎรมีมติตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 จำนวน 49 คน โดยมีกรอบพิจารณา 120 วันว่า เท่าที่ดูรายชื่อ กมธ.จากสัดส่วนพรรคการเมืองล้วนมีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับ ไม่ควรยึดเเค่ความต้องการของพรรคหนึ่งพรรคใด เอาชนะคะคานกันใน กมธ.ไม่เช่นนั้นจะเข้าตำราคนใช้ไม่ได้ร่างคนร่างไม่ได้ใช้ ส่วนที่มาและอำนาจหน้าที่ของ ส.ว.หากแก้ไขจริงๆ เชื่อว่า ส.ว.แต่ละคนไม่มีใครยึดติดกับตำแหน่ง พร้อมทำตามความต้องการที่สะท้อนจากเสียงประชาชน แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ล็อกกลอนไว้หลายด่าน ต้องเรียงลำดับให้ถูกต้อง ควรเริ่มจากเรื่องที่เป็นประโยชน์กับชาวบ้านมากที่สุด หากหยิบกุญเเจไม่ถูกดอกตั้งเเต่ต้นจุดมุ่งหมายจะติดล็อกและสูญเปล่าตั้งเเต่ประตูบานเเรก

“วิษณุ” มึน พปชร.ชง “ต้อย” ร่วมกมธ.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอชื่อนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และอดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับกลุ่ม กปปส.เข้าเป็น กมธ.วิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่ทราบไม่รู้จักนายสนธิญาณ แต่ไม่ว่าใครสามารถเข้ามาเป็น กมธ.ได้ เมื่อถามว่า ใน กมธ.มีตัวแทนจากคู่ขัดแย้งหลายฝ่าย จะทำงานด้วยกันได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ทราบไม่ใช่ผู้เสนอ คนที่เสนออาจอยากให้มีตัวแทนมาจากทุกมิติ ครม. ไม่เคยรับรู้รายชื่อ กมธ.สัดส่วนของฝ่ายค้านและรัฐบาล เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่านายสนธิญาณจะกลายเป็นสายล่อฟ้า นายวิษณุตอบว่า การจะเป็นสายล่อฟ้าไม่เกี่ยวกับเป็นอะไร แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมเป็น ส.ส.-ส.ว.หรือ ครม. ก็ล่อฟ้าได้หมด ส่วนกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯร่วม กมธ.อยากให้มองในแง่ดี

“เทวัญ” บอกแค่แหกโผมาไม่ล่อฟ้า

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีมีชื่อนายสนธิญาณเป็น กมธ.ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ คนที่เสนอชื่อมาคงคิดว่านายสนธิญาณเป็นคนมีประสบการณ์ แต่รายชื่อที่ตนส่งไปให้วิปรัฐบาลครั้งแรกไม่มีชื่อนายสนธิญาณ เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่านายสนธิญาณ เข้ามาจะเป็นสายล่อฟ้า นายเทวัญตอบว่า คงไม่ใช่สายล่อฟ้า ทุกคนมีโอกาสเข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้บ้านเมืองให้ดีขึ้น ตนฟังรายการทางเนชั่นเขามีไอเดียบางอย่างน่าจะมีประโยชน์ เมื่อถามว่า ดูรายชื่อของ กมธ.แต่ละคนที่เข้ามาเหมือนกับรัฐบาลไม่อยากที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเทวัญตอบว่า รอให้ทำงานกันสักพักก่อนอย่าเพิ่งไปตกใจเหมือนเห็นชื่อนักบอลแล้วบอกว่า นัดนี้จะไม่เอาจริงให้ลงแข่งก่อนอาจไม่ใช่อย่างที่คิด อาจจะเห็นอะไรดีขึ้น

“ศรีนวล” โชว์บทซบภูมิใจไทย

สำหรับความเคลื่อนไหวของ ส.ส. ถูกขับจากพรรคอนาคตใหม่ เมื่อเวลา 13.10 น. ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ที่ถูกขับออกจากพรรคอนาคตใหม่ เดินออกมาต้อนรับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เดินทางเข้าร่วมประชุมสภาฯเพื่อชี้แจงกับ กมธ.สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร โดยนายอนุทินกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า น.ส.ศรีนวลไม่ใช่งูเห่า เพราะไม่ได้ดึงให้ น.ส.ศรีนวลออกจากพรรคอนาคตใหม่ แต่ถูกขับออกมาจึงมาร่วมกับพรรคภูมิใจไทย น.ส.ศรีนวลเป็นคนขยันทำงานทุ่มเทเพื่อประชาชน และมีอุดมการณ์ทำงานเพื่อประชาชนตรงกันกับพรรคภูมิใจไทย

ไม่ท้าพิสูจน์กระแสคนกับพรรค

ขณะที่ น.ส.ศรีนวลกล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ท้าให้ลาออกจาก ส.ส.หากมั่นใจว่าที่ได้เป็น ส.ส.เพราะตัวเองไม่ใช่มาจากกระแสพรรคอนาคตใหม่ว่า การลาออกเป็นการเปลืองงบประมาณหลวงโดยใช่เหตุ ขออาสาทำงานเพื่อประชาชนต่อไป หนทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน หากชาวบ้านรู้ความจริงคงจะรักมากกว่าเดิม ตนรู้จักกับนายอนุทินมาก่อนทั้งยังเคยเอาน้ำพริกหนุ่มไส้อั่วไปฝากที่กระทรวงสาธารณสุข เพราะนายอนุทินเป็นคนน่ารักและเอื้อเฟื้อ

ชาวเชียงใหม่นัดไล่ “ป้าศรีนวล”

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสังเกตการณ์ที่ศูนย์ประสานงานเชียงใหม่เขต 8 พรรคอนาคตใหม่ อ.แม่วาง ของ น.ส.ศรีนวล ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ ส่วนบรรยากาศของชาวบ้านในพื้นที่ มีการบอกต่อกันในกลุ่มโซเชียลจะนัดกันไปแสดงออกของกลุ่มคนไม่พอใจ น.ส.ศรีนวลในช่วงบ่ายวันที่ 20 ธ.ค.จะไปวางโลงศพและเผาหุ่นที่ศูนย์ประสานงานเชียงใหม่ของ น.ส.ศรีนวล และตามตลาดนัด นอกจากนี้ยังเชิญชวนกันในเฟซบุ๊กว่าวันที่ 12 ม.ค.63 จะไปวิ่งไล่ป้าศรีนวล

“วราวุธ” แบะท่ากลัวงูเห่าไม่ยอมมา

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่า 2 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกขับจะเข้าร่วมกับพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า มาไม่กลัวกลัวไม่มา หากแสดงเจตจำนงว่าต้องการเข้าร่วมกับพรรคคงต้องหารือกันในที่ประชุมพรรค ทั้งนี้ไม่มีการพูดคุยในลักษณะของการย้ายพรรคหรือย้ายค่ายเพียงแค่คุยกันในรัฐสภา เช่น นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี ที่ได้พูดคุยกันในลักษณะการถามกระทู้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ ส.ส.จะมีการพูดคุยกันในรัฐสภา ไม่เหมือนกรณี น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ที่มีการแสดงออกชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่เพราะเป็นงูเห่าจากพรรคเก่านายวราวุธตอบว่า การทำงานเชิงการเมืองมีการยักย้ายถ่ายเทของ ส.ส.เป็นเรื่องปกติ

“ฐนภัทร” เผย ชทพ.ตื๊อขายขนมจีบ

พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี ที่ถูกพรรคอนาคตใหม่ขับออกจากพรรค กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคชาติไทยพัฒนาทาบทามไปร่วมพรรคว่า พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นหนึ่งในหลายพรรคที่มาชักชวน แต่ต้องปรึกษากับนายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรีก่อน พรรคที่จะไปร่วมต้องมีนโยบายที่เหมาะสมกัน เพราะความคิดของตนและนายจารึก ต้องการสานต่อการทำงานในพื้นที่ทำการเมืองระยะยาว ไม่ได้เข้ามาเพื่อหวังผลระยะสั้นแล้วจากไป ยืนยันไม่เคยรับผลประโยชน์ไม่ใช่งูเห่า ที่โหวตสวนหรือการแสดงออกที่ไม่เห็นด้วยกับพรรคเพราะอาจคิดไม่ตรงกับจุดยืนของพรรค สัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปว่าจะไปสังกัดพรรคไหน แต่ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังให้กำลังใจ เพราะทำงานพัฒนาพื้นที่มาตลอด มีบ้างที่ไม่พอใจ แต่ไม่ได้มาต่อว่าหรือด่าทอต่อหน้าละเมิดสิทธิเรา

“ชวน” สั่งสอบโชว์กอดจูบกลางสภา

อีกเรื่อง เมื่อเวลา 09.20 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกอดจูบกันในอาคารรัฐสภาว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ขอไปพิจารณาก่อน ทั้งนี้ ได้สั่งให้นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รายงานเรื่องดังกล่าวขึ้นมาแล้วก่อนจะดำเนินการต่อไป

“มุกดา” เครียดจัดยอมรับผิดขอโทษ

นางมุกดา พงษ์สมบัติ ประธาน กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้นำเรียนประธานสภาฯ แล้วในฐานะเป็น ส.ส.หลายสมัย ภาพที่เกิดขึ้นยิ่งสะท้อนความรู้สึก เมื่อคืนนอนไม่หลับคิดทั้งคืนจะแสดงตรงไหนก็ได้แต่ไม่ใช่รัฐสภา ขอให้เคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยมองว่าไม่ถูกต้อง ในฐานะประธาน กมธ.ต้องขอโทษและยอมรับผิดที่ไม่รอบคอบไม่ตรวจสอบไม่ถามเพราะไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในสภาฯ จะระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก จากนั้นนางมุกดาได้ยกมือไหว้ขอโทษ

“สรศักดิ์” จ่อออกกฎเหล็กคุมเข้ม

นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กรณีกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศกอดจูบในการแถลงข่าวที่รัฐสภา เป็นเรื่องไม่เหมาะสมตนรับไม่ได้ ได้ให้สำนักประชาสัมพันธ์ทำรายงานส่งต่อประธานสภาฯสั่งการให้ กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ทำรายงานชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการสภาฯ จะจัดทำระเบียบฉบับใหม่ของสภาฯ ให้เสร็จเร็วที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการแถลงข่าวต้องปรับปรุงให้เหมาะสมตามสถานการณ์สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุม หากแถลงข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงหรือไม่เหมาะสมจะมีการพิจารณาว่าควรกำหนดบทลงโทษหรือไม่ ระหว่างนี้จะกำชับให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดูแลการแถลงข่าวพร้อมบันทึกเทปไว้เหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ยังไม่ถึงขั้นเอาผิดตามกฎหมายเพราะ กมธ.ได้ขอโทษแล้ว

ลูกแม่โดมเชียร์ “ลุงชวน” เป็นกลาง

จากนั้นคณะนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จำนวน 22 คน ไปศึกษาดูงานที่รัฐสภา เข้าให้กำลังใจนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามข้อบังคับอย่างเป็นกลาง ทำหน้าที่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนเป็นบรรทัดฐานต่อการเป็นแบบอย่าง และเป็นความภาคภูมิใจของชาวธรรมศาสตร์ทุกคน พร้อมมอบดอกไม้และรูปภาพในอดีตเมื่อครั้งนายชวน ขณะปราศรัยใหญ่หน้าหอประชุมใหญ่ มธ.โดยนายชวนกล่าวว่า สมัยเรียน มธ.เคยพูดให้นักศึกษาฟัง ตั้งแต่สมัยยังเป็นตลาดวิชาเปิดให้เรียนโดยไม่ต้องสอบเข้า เคยเป็นคนเขียนบทงิ้วธรรมศาสตร์ เป็น นศ.คนแรกที่อาจารย์รับรองให้เข้ามาดูงานฟังการอภิปรายในสภาฯ และตอนนี้ก็ซ้อมแซกโซโฟนเพลงธรรมศาสตร์ไว้ถึง 10 เพลงเพื่อเตรียมงานวันที่ 22 ธ.ค.และขอให้ นศ.ทุกคนประสบความสำเร็จมีงานทำ

พท.ชงญัตติบี้ตามคดีทุบ “จ่านิว”

ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานเพื่อพิจารณาญัตติด่วนการเสนอตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อตรวจสอบและศึกษาติดตามการทำงานของหน่วยงานภาครัฐต่อการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน และถูกประทุษร้ายของประชาชนที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เสนอ พร้อมกับญัตติทำนองเดียวกันอีก 9 ญัตติพิจารณาพร้อมกัน โดยนายจิรายุกล่าวว่า เหตุการณ์ลอบทำร้าย “จ่านิว” นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กลาง กทม. ผ่านมา 6 เดือน ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้แสดงว่าประเทศนี้อยู่ยาก รัฐบาลรณรงค์โครงการชิมช้อปใช้ให้คนท่องเที่ยวความปลอดภัยมีหรือไม่ เรื่องเล็กแค่นี้ยังดูแลไม่ได้จะไปดูนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างไร การละเมิดสิทธิมนุษยชนมีมากมายแต่ทุกเรื่องเหมือนเดิม อย่างน้อยประชาชนต้องปลอดภัย 80% ขอให้ตั้ง กมธ.เร่งรัดการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่คุยหนักหนาว่าฆาตกรต่อเนื่องยังจับได้ แต่ทำไมเหตุทำร้ายร่างกายจ่านิวกลางวันแสกๆยังจับไม่ได้

ซัดรัฐมาเฟียเพิกเฉยโจรลอยนวล

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การก่อเหตุทำร้ายนักเคลื่อนไหวทางการเมือง มีการแจ้งความทุกคดี 13 เหตุการณ์สามารถจับคนร้ายได้แค่ 2 คดี เอาตัวผู้ทำผิดหรือหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังไม่ได้ โดยเฉพาะคดีทำร้ายจ่านิวกลางวันแสกๆมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ผ่านมา 6 เดือน ยังไม่มีแม้กระทั่งการออกหมายจับ สังคมไทยจะอยู่กันแบบนี้ใช่หรือไม่ สุดท้ายคดีถูกดอง การเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่รัฐทำให้การก่อเหตุลักษณะนี้ลุกลามบานปลาย ทั้งด้านจำนวนและความรุนแรง ถ้ายังปล่อยให้เป็นรัฐมาเฟียต่อไปเรื่อยๆวันหน้าอาจเป็นตนหรือประธานถูกทำร้ายก็ได้ เพราะคนที่คุมคนกลุ่มนี้ได้มีไม่กี่คน ประชาชนตั้งคำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เกี่ยวข้องกับการตีหัวจ่านิวหรือไม่ สิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ควรใช้ได้จริงไม่ใช่ถูกเพิกเฉย หวังว่า กมธ.ชุดนี้จะช่วยให้ประเทศน่าอยู่เป็นหลักประกันว่าสังคมไทยเคารพกฎหมาย

อนค.โวยทีมงาน ปธ.สภาฯดูถูก นศ.

นางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนยังมีให้เห็นอยู่ ล่าสุดการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ถูกผู้มีอำนาจกดดันไม่ให้ใช้สถานที่แถลงข่าวการจัดกิจกรรม ทั้งที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และโรงแรมรัตนโกสินทร์ สุดท้ายต้องไปใช้ มธ.เป็นสถานที่แถลงข่าวแทนหรืออย่างเหตุการณ์ในสภาฯเมื่อครั้งที่นายพริษฐ์ ชิวรักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษา มธ.มายื่นหนังสือและมอบพจนานุกรมให้นายชวน เพื่อให้ไปศึกษาคำว่า ลงคะแนนใหม่กับนับคะแนนใหม่ ตอนมีปัญหาการโหวตญัตติการตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบจากมาตรา 44 ปรากฏว่าถูกคณะทำงานประธานสภาฯที่ลงมารับเรื่องใช้ถ้อยคำดูถูกต่อว่า มีใครอยู่เบื้องหลังและรับจ้างใครมาถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม

สวนกลับ นศ.ยันเองมีคนให้ท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นางอมรรัตน์อภิปรายจบ นายชวน ประธานที่ประชุม แจงว่า กรณีที่ระบุว่าคณะทำงานประธานสภาฯพูดไม่เหมาะสมนั้นได้รับรายงานว่า เหตุการณ์วันดังกล่าวมีนักการเมืองบางคนคอยส่งสัญญาณยุให้กลุ่มนักศึกษาพูด ได้รับฟังข้อเท็จจริงและข้อมูลเบื้องหลังที่จากนักศึกษาที่เข้ามาให้กำลังใจตนในวันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับกลุ่มนักศึกษาที่มายื่นพจนานุกรม เล่าให้ฟังว่ามีลูกนักการเมืองคนหนึ่งและกลุ่มนักศึกษามีความเกี่ยวโยงกัน ทำให้นางอมรรัตน์ ประท้วงว่า นักการเมืองที่พูดถึงอาจเป็นคนที่อยู่พรรคเดียวกับตน แต่วันดังกล่าวแค่ไปรอต่อคิวการแถลงข่าวเท่านั้น นายชวนกล่าวตอบว่า ไม่เคยกล่าวร้ายใคร หากอยากทราบข้อเท็จจริงให้มาพบส่วนตัวจะได้ทราบว่าเป็นใครอย่างไร กระทั่งเวลา 16.00 น. หลังจากอภิปรายอย่างกว้างขวางที่ประชุมลงมติเห็นชอบให้ตั้ง กมธ.วิสามัญชุดดังกล่าว ด้วยคะแนน 412 เสียงต่อ 0 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 1 ให้ตั้ง กมธ.49 คน กำหนดกรอบเวลาพิจารณา 60 วัน ก่อนที่นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯประธานที่ประชุมสั่งปิดประชุม

“ภูมิธรรม” ชี้เป้าซักฟอกยังไม่นิ่ง

นายภูมิธรรม เวชยชัย คณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ ออกมาระบุรายชื่อรัฐมนตรีที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 4 คนนั้นถือเป็นความเห็นของ ร.ต.อ.เฉลิม ตามข้อมูลที่มีอยู่ในมือ แต่บอกด้วยว่ายังมีอีกหลายคน รายชื่อที่อภิปรายยังไม่จบเท่านี้ วันที่ 20 ธ.ค.คณะกรรมการกิจการพิเศษจะหารือวิธีการทำงานร่วมกันพิจารณารายชื่อผู้ที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อนำเสนอหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคให้นำไปหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งแต่ละพรรคสามารถเสนอรายชื่อเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อตัดสินใจร่วมกันอีกครั้ง ดังนั้น 4 รายชื่อที่ออกมาจากพรรคเพื่อไทย ยังไม่ใช่ข้อยุติต้องหารือกันเพิ่มเติมก่อน

แฉเล่ห์เก็บบัตร ปชช.เลือกซ่อม

ที่เวทีปราศรัยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯพร้อม ส.ส.พรรค เปิดปราศรัยหาเสียงช่วยนายธนิก มาสีพิทักษ์ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เห็นใจชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากราคาพืชผลตกต่ำ เนื่องจากการบริหารประเทศของรัฐบาลเศรษฐกิจย่ำแย่ ขณะนี้รู้ข่าวว่ามีการเก็บบัตรประชาชนของชาวบ้านไว้ ขอประกาศว่าข้าราชการ ฝ่ายปกครองทั้งนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ อ.หนองเรือวางตัวไม่เป็นกลาง บังคับขู่เข็ญชาวบ้าน เก็บบัตรประชาชนของชาวบ้าน ขอให้ผู้ว่าฯตรวจสอบการกระทำของผู้ใต้บังคับบัญชาหากวางตัวไม่เป็นกลางมีการข่มขู่ประชาชนจะดำเนินการให้ถึงที่สุด

“ธนกร” จี้ พท.โชว์หลักฐานโกง ลต.

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่นเขต 7 แกนนำพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้กับนายสมศักดิ์ คุณเงิน ผู้สมัครของพรรคอย่างต่อเนื่องได้รับการตอบรับดีมาก ทำให้มั่นใจว่านายสมศักดิ์จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชนะผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยแน่นอน ชาวบ้านในพื้นที่ต้องการ ส.ส.จากฝั่งรัฐบาลจะทำให้การพัฒนาพื้นที่คล่องตัวมากขึ้น ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า มีการโกงการเลือกตั้ง มีข้าราชการฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงเกี่ยวข้องด้วยนั้น ไม่เกี่ยวกับ พปชร.แน่นอน ให้พรรคเพื่อไทยรีบเอาหลักฐานไปร้องที่ กกต.ดำเนินคดีทันทีอย่าเที่ยวตีกิน

“ประยุทธ์” ซุ่มเงียบก่อนมีตติ้ง

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เมื่อเวลา 07.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ ที่ทำเนียบฯตามปกติ ไม่มีวาระงานการประชุมใดๆ นอกจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เข้าพบเพื่อรายงานตัวเข้ารับหน้าที่ที่ปรึกษานายกฯแล้ว ได้ใช้เวลาบันทึกเทปรายการ Government weekly ในช่วง PM Talkที่จะเผยแพร่ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า เวลา 15.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. โดยสัปดาห์นี้จะพูดคุยถึงความสำเร็จของนักกีฬาไทยและการสนับสนุนของภาครัฐกับนายกันตภณ หวังเจริญ (กัน) นักแบดมินตันทีมชาติไทย น.ส.วิลาสินี รัตนนัย (น้ำตาล) นักฮอกกี้น้ำแข็งทีมชาติไทย จากนั้นได้บันทึกเทปอวยพรปีใหม่ ก่อนจะเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์พรรคร่วมรัฐบาล ที่สโมสรราชพฤกษ์ในค่ำวันเดียวกัน

เลี้ยงปีใหม่ ส.ส.ไร้เมนู “หูฉลาม”

ต่อมาเวลา 17.00 น. ที่สโมสรราชพฤกษ์คลับ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ทยอยเดินทางเข้าร่วมงานสัมมนาพรรคร่วมรัฐบาลในชื่อ “รวมพลัง สร้างชาติ” เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อน รับปีใหม่ โดยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นเจ้าภาพในการจัดงานเลี้ยงดังกล่าว เพื่อเป็นการกระชับมิตร โดยเมนูอาหารในการจัดเลี้ยงประกอบด้วย กระเพาะปลาผัดแห้ง ขนมผักกาดผัดซอส กุ้งหอยเชลล์พริกคั่ว ไก่แช่เหล้า ปลาเงินทอด ซุปเสฉวนซีฟู้ด ปลาเก๋าแดงนึ่งเต้าโซ้ว ผักบ็อกฉอยผัดกระเทียม บะหมี่ตุ๋นเป็ดอบใบชา ของหวานเป็นบัวลอยแปะก๊วย น้ำขิง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าเมนูอาหารในวันนี้ไม่มีเมนูหูฉลามเหมือนรอบที่ผ่านมา แต่มีเมนูปลาเงิน ทอดมาแทน จากนั้น 18.40 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เดินทางไปถึงก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะไปถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นที่สังเกตว่ามี น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ที่ถูกขับออกจากพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมาร่วมงานด้วย เมื่อไปถึงได้เดินไปรวมอยู่กับกลุ่ม ส.ส.พรรคภูมิใจไทยทันที ท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับกันเกรียวกราว

ย้ำรัฐบาล 19 พรรคสบายๆ ไทยแลนด์

ต่อมา พล.อ.ประวิตรได้ขึ้นกล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า การพบปะในวันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีที่พรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติจะได้มาร่วมกันหารือแนวทางการทำงานที่เป็นเอกภาพขับเคลื่อนประเทศ ไทยไปสู่อนาคตเพื่อลูกหลานของเรา ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันดี เป็นวันแห่งความสุขวันแห่งความเป็นพี่เป็นน้องไม่ว่าจะพรรคใดเราคือพรรคร่วมรัฐบาล โดย ส.ส.ต่างปรบมือและตะโกนตอบว่า “ใช่” อย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า คำว่าร่วมรัฐบาลมันเหมือนกับร่วมสายเลือด ซึ่งคำว่าร่วมสายเลือดมันลึกซึ้งกินความมากกว่าทุกอย่าง เราทำเพื่อวันนี้และอนาคต วันหน้าจะมีใครอีกถ้าไม่ใช่พวกเรา มีหรือไม่ถ้าเราแข่งกันเองมากเกินไปจะออกมาอีกรูปแบบหนึ่งประเทศชาติไม่ได้อะไรต้องรวมพลังกันทั้งหมด 19 พรรค ไปต่างประเทศถามว่าจะอยู่กันได้หรือ 19 พรรค ตนบอกไปว่านี่มันสบายๆ ไทยแลนด์เราเป็นพี่น้องกันทั้งสิ้น

ปลุกจับมือลุยไปด้วยกันไม่หยุดยั้ง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่น้อยใจคือโพลของสถาบันพระปกเกล้า หัวข้อรู้จักนายกฯหรือไม่ คำตอบที่ได้ ยังมีว่าไม่รู้จักนายกฯ อยู่ 0.3% สงสัยคนพวกนี้อยู่ที่ไหน คือปัญหาของพวกเรา เพราะไม่รู้ว่าเขาจะเข้าหาโอกาสเข้าหารัฐบาลได้อย่างไร ขอฝากทุกคน ต้องทำให้สภาฯของเราเข้มแข็งเดินหน้าประเทศไทย อดีตอะไรที่ไม่ดีเก็บไว้อย่าทำอีก อย่างรัฐธรรมนูญ เขาเขียนมาไม่ต้องการให้เกิดอย่างเดิม สิ่งที่ต้องทำในวันหน้าคืออย่าให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกโดยเด็ดขาด พวกทหารอยู่กันมาตลอดระยะเวลาเป็นสิบๆปี อยู่ภายใต้การบริหารงานของพวกท่านไม่เคยมีปัญหาอยู่ในระบบระเบียบจนกระทั่งมีสถานการณ์ก็เข้ามาแล้วจะทำให้ดีที่สุด และต้องมีทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้จะนำพาประเทศชาติของเราไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง

ร้องเพลงโชว์สเต็ปเต้นกระจาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่พูดจบสิ้นเสียงปรบมือ พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวแซวตัวเอง “เอ๊ะ สรุปว่ามาหาเสียงหรือเปล่าเนี่ย” เรียกเสียงหัวเราะครึกครื้นทั้งห้อง จากนั้นชักชวนแกนนำ อาทิ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภูมิใจไทย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นร้องเพลง “ด้วยรักและผูกพัน” และ “จับมือไว้” ของธงไชย แมคอินไตย โดยมี ส.ส.พากันร่วมร้องอาทิ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ และนายพิเชษฐ สถิรชวาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากเวทีมาร่วมเต้นอย่างสนุกสุดเหวี่ยง