“เฉลิมชัย” เป่ากระหม่อมกล่อมสารพัดม็อบ ปัด แบะท่ารับ 4 งูเห่า อนาคตใหม่ ย้ำ “วิลาศ” ทำส่วนตัว ปมตรวจสอบการขยายสัญญาสร้างสภาใหม่ ครั้งที่ 4 ยัน สัมพันธ์พรรคร่วมฯ ยังปึ้ก 

วันที่ 18 ธ.ค. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีม็อบกลุ่มต่างๆ ปักหลักประท้วงเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาว่า ขณะนี้มีกลุ่มมวลชนต่างๆ ชุมนุมเรียกร้องต่อกระทรวงฯ หลายกลุ่ม โดยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมหารือกับกลุ่มตัวแทนสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) สภาประชาชน 4 ภาค ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการแก้ไข โดยเสนอเรื่องให้นายกรัฐมนตรีลงนามเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัวแทนกลุ่มได้นำมวลชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และเวลา 10.00 น. จะประชุมร่วมกับกลุ่มนายกและรองนายกประมง 22 จังหวัด เพื่อหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับข้อเรียกร้องที่จะเสนอให้รัฐบาลในการแก้ไขและเรื่องที่ทางกระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการแก้ไขไปแล้ว หลังจากนี้จะมีการนำเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการตกลงแห่งชาติในเวลา 18.00 น.ของวันนี้ ที่รัฐสภา โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่นั่น เพื่อแก้ไขปัญหานี้เพราะมีหลายฝ่ายหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า เรื่องไหนที่แก้ไขไปแล้ว เรื่องไหนอยู่ระหว่างแก้ไข และปัญหาอุปสรรค เราพยายามแก้ไขให้ทันที และ 14.00 น. ต้องประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชนที่นายกรัฐมนตรีตั้งตนเป็นประธานในฐานะ รมว.เกษตรฯ โดยพยายามแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ทุกกลุ่ม

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายตีคำพูดที่นายเฉลิมชัยว่า แบะท่าพร้อมรับ 4 งูเห่าที่ถูกขับจากพรรคอนาคตใหม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า สื่อก็วิเคราะห์วิจารณ์ไป แต่คำพูดที่ตนที่ให้สัมภาษณ์ คือ ต้องวิเคราะห์ให้ดีเพราะตนพูดว่า ถ้ามีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ร่วมงานได้ แต่ไม่ใช่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะวิ่งไปคว้า ไปรับทุกคน เพราะต้องเข้าใจอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ให้ชัดเจนถ่องแท้ก่อน ที่สำคัญคือต้องยึดและทำตามมติของที่ประชุมพรรคเป็นหลัก เพราะการทำงานการเมืองต้องมีวินัยและยึดมติพรรคเป็นหลักจึงอยู่กันได้

...

เมื่อถามย้ำว่า กรณี นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ยังเดินหน้ายื่นเรื่องให้ตรวจสอบการขยายสัญญาสร้างรัฐสภาใหม่ ครั้งที่ 4 มีผลกระทบความสัมพันธ์ต่อพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เป็นการดำเนินการที่นายวิลาศได้ติดตามเรื่องนี้มาแต่ต้น และทำเป็นการส่วนตัว ที่นายวิลาศ ทำในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งท่านทำต่อเนื่อง ตนยืนยันอีกครั้งว่ากรณีของนายวิลาศไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล เพราะทุกพรรคการเมืองที่รัฐบาลนี้ทำ เราต่างทำงานในนามรัฐบาล ภายใต้นโยบายของรัฐบาลเดียวกันอยู่แล้ว ส่วนความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังดีและมีความแนบแน่น ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ทราบว่าโฆษกพรรคฯ ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับนายวิลาศแล้ว จึงขอให้เข้าใจและแยกแยะให้ออกว่าเป็นการทำหน้าที่ในนามพรรค หรือในนามส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรค.