พรึบพรับกระตุ้นต่อมฮึกเหิมกองเชียร์ กระตุกต่อมผวา “นักลงทุนขวัญกระเจิง”
ตามสัญญาณสงครามม็อบบนถนนเต็มรูปแบบ เริ่มจุดไฟด้วย “แฟลชม็อบ” ของ “ไพร่ห้าพันล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ประกาศลุยรบเต็มพิกัด
กดดันวัดใจคดียุบพรรคอนาคตใหม่ที่ส่งเข้ากระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ
ภาพมวลชนแน่นสกายวอล์กปทุมวัน มีทั้งกองเชียอนาคตใหม่ ติ่ง “ธนาธร” แนวร่วมต้าน คสช. สื่อมวลชน ทหาร ตำรวจ หน่วยข่าวฝ่ายความมั่นคง ไปยันไทยมุง ฯลฯ
เคลมเหมารวมเป็นขบวนการ “ไล่ลุง” รวมพลคนทนไม่ได้กับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ส่งเสียงโห่ ตะเพิด “ออกไป”
ถึงจุด “ไพร่ห้าพันล้าน” เลิกกั๊ก ปลุกม็อบเปิดสงครามสู้บนถนน
เพราะ “จนแต้ม” สู้ในเกมสภาที่อ้างว่า “คนคนนั้น” ไม่อยากให้อยู่
ทุกอย่างถูกปูพื้นไว้อย่างเป็นระบบ แปรรูปขบวนเป็นยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงกันอย่างมีแบบแผน ทั้งอีเวนต์ “วิ่ง ไล่ ลุง” ที่นัดกันต้นปีหน้า การเดินสายปลุกแฟลชม็อบตามหัวเมืองใหญ่เชียงใหม่ ขอนแก่น อุดรธานี การติดแฮชแท็ก# “กลัวที่ไหน” อุ่นเตา
เร้าอุณหภูมิกองหนุน เกรียนโซเชียลฯ
เกมลึกล้ำซับซ้อนไม่ธรรมดา ว่ากันถึงเป้าหมายยึดเมืองได้เลย
และนั่นหมายถึงการทิ้งไพ่ใบสุดท้าย “ธนาธร” ต้องพร้อมรับความ “เสี่ยง” ที่จะเกิดขึ้นไม่เฉพาะกับตัวเองเท่านั้น แต่มันรวมไปถึงครอบครัว แม่ เมีย และลูก
ที่ยังติดชนักคดีกับเจ้าตัว นัวเนียกับปมหุ้นวีลัคฯที่ยังต้องลุ้นคดีอาญา
...
สถานการณ์เดิมพันมาถึง “ทางแพร่งเดียว” ต้องไปให้สุด ถอยหลังไม่ได้อีกต่อไป
จุดเดียวกับที่ “นายใหญ่” อย่างอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ตัดสินใจลุยถั่วสู้มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2549 ปลุกเร้ากองเชียร์สู้กระบวนการกฎหมาย ภายใต้วาทกรรมสองมาตรฐาน
ปั่นเกมมวลชน เร้าผู้สนับสนุนออกมาลุยสู้บนถนน
สงครามยืดเยื้อ 10 กว่าปี คนตายนับร้อย คนเจ็บนับพัน
ความเสียหายทางเศรษฐกิจประเมินไม่ได้
และสุดท้ายบทจบตามท้องเรื่อง “ตัวชนวนปัญหา” ต้องหนีออกนอกประเทศ กลับบ้านไม่ได้ แกนนำม็อบเสื้อแดง หัวโจกม็อบเสื้อเหลือง แนวร่วมม็อบ กปปส.ต้องคดีอาญาและคดีแพ่ง
คดีถึงที่สุดต้องติดคุกใช้ชีวิตในเรือนจำ ชดใช้ค่าเสียหายเป็นทรัพย์สิน
โอดครวญ น้ำตารินกับชะตากรรมที่ทำบาปกับบ้านเมือง
เรื่องของเรื่อง เดิมพัน “ยึดเมือง” มาถึงขั้นนี้ ต้องดูทางหนีทีไล่กันไว้แล้ว
ตามแนวโน้มสถานการณ์ไม่น่ามีปัญหาสำหรับ “ไพร่ห้าพันล้าน” อย่าง “เจ้าสัวธนาธร”ที่มีฐานธุรกิจแสนล้านยี่ห้อ “ไทยซัมมิท” อยู่ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศญี่ปุ่น ไหนจะโรงงานในประเทศจีน
การหาสถานที่ลี้ภัยอยู่แบบ “สบายทั้งชาติ” ไม่ใช่ปัญหา
เช่นเดียวกับ “เดอะป๊อก” นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ก็เป็นด็อกเตอร์ “อังดัวร์” เรียนจบปริญญาเอกด้านกฎหมายจากฝรั่งเศส แถมมี “มาดาม” ภรรยาเป็นชาวเมืองน้ำหอม
เส้นทางการลี้ภัยในกรุงปารีสย่อมเปิดกว้างตลอดเวลา
หรือแม้แต่ “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ด้วยชื่อชั้นทางการเมืองยามนี้ การขอลี้ภัยต่างประเทศ ด้วยข้ออ้างทางการเมือง น่าจะไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
“เอก-ป๊อก-ช่อ” น่ะ มีทางหนีทีไล่รออยู่แล้ว
แต่แนวร่วมคนอื่นๆพร้อมแค่ไหน กับเกมการต่อสู้ของทีมอนาคตใหม่ “ติ่ง” ธนาธร แนวร่วมพรรคสีส้มที่ถูกปลุกให้เข้าสู่สงครามบนถนนเต็มรูปแบบ
ด้วยวาทกรรมสู้กับชนชั้นปกครอง หยุดยุติธรรมสองมาตรฐาน
ทั้งๆที่ตามรูปการณ์ มันก็เห็นกันอยู่ว่าด้านหนึ่งมันก็มาจากความผิดพลาด “ส่วนบุคคล” ปมบกพร่องของนายธนาธรเอง ทั้งปมหุ้นวีลัคฯที่ไม่รอบคอบ ก่อนลงสมัคร ส.ส.ไม่เคลียร์ให้ดี หรือการให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน 191 ล้านบาท โดยไม่ดูข้อกฎหมายให้ชัวร์ก่อน
“สะดุดความรวย” เข้าเหลี่ยมฝ่ายที่จ้องสกัด “ดาวรุ่ง” พอดี
แล้วจะเอาเป็นเงื่อนไขในการรวมพลม็อบป่วนบ้านป่วนเมือง กระตุกฝันร้ายผู้คนในบ้านเมือง ลากประเทศกลับไปลงเหว นักลงทุนขวัญกระเจิง จากที่ประคองกันเหนื่อยอยู่แล้ว
แนวโน้มให้ดูรุ่นพี่ม็อบแดง ม็อบเหลือง ม็อบหลากสี ที่อยู่ในคุก
เห็นตัวอย่าง ม็อบส้มยังตามรอย ก็คงมีแต่คนรอสมน้ำหน้า.
ทีมข่าวการเมือง