รอดตัวไปหนึ่ง
ปรากฏการณ์การประชุมสภาผู้แทนถือเป็นวาระพิเศษก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นการประลองวัดฝ่ามือระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน
แม้จะเป็นญัตติเพื่อตั้ง กมธ.44 ที่ไม่มีผลกระทบต่อรัฐบาล แต่มันมีผลโดยตรงต่ออดีตผู้นำ คสช.ที่อนาคตใหม่หวังผล เพื่อบ่อนเซาะให้เสียทรงได้
ไม่ต้องถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา “3 ป.” คิดอย่างไร?
ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลอ่านเกมนี้ให้ทะลุก็จะได้คำตอบ
การแพ้มติต่อฝ่ายค้านจนทำให้ “สภาล่ม” มา 2 ครั้ง จนผู้นำรัฐบาลต้องออกแรงเคลียร์ใจกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเป็นครั้งแรก
อย่าให้เกิดอย่างนี้อีก!
ผลที่ออกมาล่าสุดก็คือ ฝ่ายรัฐบาลชนะฝ่ายค้านด้วย 244 เสียง ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการตั้ง กมธ. มีผู้เข้าประชุม 261 เสียง แม้ฝ่ายค้านจะ “วอล์กเอาต์” แบบครึ่งผีครึ่งคน
คือออกนอกห้องไปส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งไปยืนกันอยู่หลังห้องประชุมเพื่อดูความเป็นไปในที่ประชุม
“งดออกเสียง” 6 คน สนับสนุนให้ตั้ง 5 คน
5 คนที่สนับสนุนให้ตั้งเป็นคนของประชาธิปัตย์ “เจ้าเก่า” ที่งดออกเสียงโดยหน้าที่แล้ว ก็ยังมี ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่เปลี่ยนใจก่อนหน้านี้เคยยกมือสนับสนุนมาแล้ว
ภูมิใจไทย 1 คนก็เจ้าเก่าที่ไม่ยกมือหนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ
ที่สงสัยกันว่าทำไมเมื่อฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ แต่เสียงในห้องประชุมกลับเกินครึ่งอย่างสบาย เวลา แต่ละพรรคฝ่ายค้านคงไปไล่เบี้ยเพื่อเค้นความจริงกัน
“10 งูเห่า” จากพรรคฝ่ายค้านแยกเป็นเพื่อไทย 3 คน อนาคตใหม่ 2 คน เศรษฐกิจใหม่ 4 คน และประชาชาติ 1 คน
...
พูดไปแล้วทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างก็ “แหกมติ” ทั้งสองฝ่ายไม่ต่างกับกายอยู่กับพรรค แต่ใจไปอยู่ฝ่ายตรงกันข้าม
นั่นเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่จะบอกได้ว่าอนาคตต่อไปข้างหน้าของรัฐบาล แม้วันนี้ชนะแต่ต่อไปยังไม่มีความแน่นอนทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน
พร้อมจะเกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นมาอีกได้
ผู้จัดการรัฐบาลที่ชื่อ “บิ๊กป้อม” ได้แสดงฝีมือให้เห็นในนัดนี้ แต่นัดต่อไปก็ต้องออกแรงมากขึ้นอีกหลายเท่า ทั้งการเจรจาประสานงานให้พรรคร่วมรัฐบาลต้องอยู่ในร่องในรอยว่าตามมติ
ดูจากสถานการณ์แล้ว “กล้วย” ก็ต้องแจกกันเป็นเครือๆเลยทีเดียว
หรือที่มีข่าวมีการเจรจากระชับมือระหว่างคนต่างแดนกับคนใหญ่ในรัฐบาลน่าจะมีส่วนสอดคล้องกับการเมืองที่เป็นจริง
นับแต่ “พานทองแท้ ชินวัตร” พ้นคดีมานั้น ดูอะไรต่อมิอะไร ในพรรคเพื่อไทยล้วนแปร่งแปลกให้ปรากฏมาตลอด
สำคัญว่าจะจริงจัง จริงใจได้แค่ไหน?
จะโกหกพกลมเพื่อชวนเชื่ออย่างที่ผ่านมาหรือไม่?
แต่ที่เสียฟอร์มมากที่สุดน่าจะเป็น “อนาคตใหม่” ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่หวังว่าจะเป็นก้าวสำคัญเพื่ออนาคตการเมืองของพรรคที่ “ตีธง” นำหน้าในเรื่องนี้
เพราะยังอ่อนด้อยทางการเมืองแต่พยายามสำแดงฤทธิ์เหนือพวกรุ่นเก๋าที่เขี้ยวลากดินกว่าและต้องการลดบทบาทอนาคตใหม่ด้วยลีลาที่เหนือชั้นกว่า
กลเกมการเมืองต่อไปจะมีอะไรดีๆให้ได้เห็นกันอีกแน่!
"สายล่อฟ้า"