“บิ๊กป้อม” หวั่น ยาเสพติดทะลักเข้าช่วงปีใหม่ สั่งคุมเข้มทุกด่านตั้งสกัด เน้นย้ำให้หน่วยงานเกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และขอประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา
วันที่ 5 ธ.ค. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจ จับตาความเคลื่อนไหวเครือข่ายยาเสพติดในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ที่เตรียมทยอยเคลื่อนย้ายยาเสพติดลอตใหญ่ จากแหล่งพักคอยภายนอกเข้าในประเทศและกระจายออกสู่ชุมชนเมืองใหญ่ในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะเครือข่ายคนไทยร่วมกับต่างชาติใช้ไทยเป็นทางผ่านส่งออกต่างประเทศ ส่งผลกระทบภาพลักษณ์ของประเทศ
ทั้งนี้ ได้ย้ำการทำหน้าที่ของทุกส่วนราชการ ต้องรับผิดชอบในหน้าที่บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้นโดยไม่ปล่อยปละละเลย รู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด พร้อมกำชับทหารให้คุมเข้มสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายยาเสพติดและสารตั้งต้นในพื้นที่ชายแดน และประสานกับทุกด่านศุลกากร ตรวจเข้มสินค้าและการผ่านแดนทั้งทางบกและทางน้ำ ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ชั้นใน ขอให้ฝ่ายปกครองและตำรวจ ประสานการทำงานร่วมกับป.ป.ส.และกระทรวงสาธารณสุข กวดขันกวาดล้างยาเสพติดและดึงผู้เสพมาบำบัดควบคู่กันไป
โดยเฉพาะในสถานบริการและแหล่งมั่วสุมในกรุงเทพมหานคร และทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยให้เพ่งเล็ง บ้านเช่า หรือห้องพัก ดัดแปลงชั่วคราวเป็นสถานบริการและใช้ปาร์ตี้ในหลายพื้นที่ที่ประชาชนให้ข้อมูลรวมทั้งพื้นที่โดยรอบสถานศึกษา ซึ่งต้องกวดขันกันยาเสพติดออกจากเด็กและเยาวชนอย่างเด็ดขาด โดยให้ถือเป็นความรับผิดชอบของหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ทั้งนี้หากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง จะต้องถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีละเว้น
...
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและ ป.ป.ส. ที่ร่วมกันสกัดกั้นและขยายผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่และเครือข่ายคดีสำคัญที่ผ่านมา สามารถยึดยาเสพติดทั้งยาบ้าและยาไอซ์ได้จำนวนมากๆ คราวละหลายล้านเม็ด ซึ่งในภาพรวมหากปริมาณยาเสพติดดังกล่าวหลุดไป จะทำลายคนและตามมาด้วยภัยลูกโซ่ทางสังคมอีกมาก
ทั้งนี้ ได้ขอให้ประชาชนได้ร่วมกันเป็นหูเป็นตา จัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังภัยยาเสพติดในพื้นที่และร่วมกันสอดส่องพฤติการณ์เจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องและแจ้งข้อมูลให้รัฐบาลทราบ เพื่อร่วมกันทำลายเครือข่ายและช่วยเหลือเยียวยาสังคมจากภัยยาเสพติดร่วมกัน