"ธรรมนัส" แจง ส.ว.ลั่น ยึดคืน ส.ป.ก.นายทุน ขีดเส้น 180 วัน ทำให้เสร็จ ขู่ พบ จนท.ไม่ตอบสนอง เจอตั้งกรรมการสอบ จ่อใช้แผนที่ one map ฉบับเดียว เป็นมาตรฐานดำเนินการ
วันที่ 2 ธ.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ตั้งกระทู้ถามสด เรื่องปัญหาการบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. ถาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่า ที่ผ่านมาพบว่าที่ดิน ส.ป.ก.ที่ให้สิทธิ์คนจนตกไปอยู่ในมือของนายทุน ผู้มีอิทธิพล เกิดจากนโยบายรัฐที่ล้มเหลว และส่วนราชการละเลยแก้ปัญหา โดยร่วมมือกับผู้มีอิทธิพล และนายทุนระดับชาติและท้องถิ่น จึงขอถามถึงนโยบายแก้ปัญหาบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.จะดำเนินการอย่างไร
โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ชี้แจงว่า บุคคลที่ได้รับการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.จะต้องมีคุณสมบัติตามที่ ส.ป.ก.กำหนด ซึ่งกฎหมายใช้คำว่า หรือ โดยจะต้องประกอบไปด้วย เป็นเกษตรกร หรือเป็นผู้มีรายได้ต่อปีน้อยกว่า 30,000 บาท หรือจบการศึกษาด้านการเกษตร หรือเป็นบุตรของเกษตรกร แต่จะได้ที่ดินไม่เกินคนละ 50 ไร่ ยืนยันจะบังคับใช้กฎหมายเป็นมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้นไม่ว่าบุคคลใดที่ครอบครองหรือบุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก.เกินกว่า 50 ไร่ และไม่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด รัฐมีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องยึดคืนเพียงอย่างเดียว เพื่อนำไปจัดสรรให้เกษตรกรที่มีคุณสมบัติถูกต้อง
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มีโอกาสไปตรวจราชการทั่วทุกภาคพบว่า มีพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินหลายจังหวัดถูกกลุ่มนายทุน ผู้นำท้องถิ่น และนักการเมือง เข้าครอบครองเป็นที่ดินแปลงใหญ่ โดยเฉพาะ จ.กระบี่ เป็นจังหวัดที่กลุ่มนายทุนถือครองที่ดิน ส.ป.ก.เยอะที่สุดในประเทศไทย จึงมอบให้เลขาธิการ ส.ป.ก. และเจ้าหน้าที่ยึดคืนสถานเดียว ไม่มีข้อยกเว้นให้บุคคลใด เจ้าหน้าที่ต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน หากไม่ปฏิบัติจะถูกลงโทษ ฐานไม่กำกับดูแลปฏิบัติหน้าที่ให้เรียบร้อย หลังจากรัฐบาลเข้ามาทำงาน 4 เดือน ยึดคืนที่ดินได้แล้ว 33,443 ไร่ จัดสรรที่ดินให้เกษตรกรแล้ว 20,541 ไร่ ใน 8 จังหวัด 21 แปลง ได้มอบนโยบายชัดเจนให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่า หากมีเจ้าหน้าที่คนใดละเลยเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มพรรคพวกตัวเอง หรือนำไปปฏิบัติรังแกประชาชน ไม่ยึดหลักกฎหมาย จะถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน และดำเนินคดีอาญาทันที รัฐบาลจะเดินหน้าโดยมีจุดหมายเดียว คือ ยึดคืนที่ดินหลวงจัดสรรให้เกษตรกร แต่ปัญหาสำคัญขณะนี้คือ แผนที่ที่ใช้บังคับในประเทศไทยมีหลายฉบับเกินไป ทุกส่วนราชการต่างมีแผนที่ของตัวเอง ถามว่าจะยึดแผนที่ของหน่วยใดในการบังคับใช้ ซึ่งรัฐบาลนี้มีเจตนารมณ์แน่วแน่จะทำให้มีแผนที่แค่ฉบับเดียวในการบังคับใช้คือ แผนที่ one map จึงนำเรื่องหารือต่อนายกฯ ได้ข้อสรุปชัดเจนว่าจะเดินหน้าให้ ครม.อนุมัติการใช้แผนที่เดียวเท่านั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการปรับปรุงแก้ไข เมื่อมีแผนที่เดียวบังคับใช้ ปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม.
...