กอ.รมน.เร่งป้องกันปัญหามั่นคง บูรณาการสร้างเครือข่าย หวังให้ตระหนักรู้การก่อการร้าย ดึงประชาชนมีส่วนร่วมในงานด้านความมั่นคง...
เมื่อวันที่ 24 พ.ย.62 พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. เผยว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เป็นองค์กรหลักในการบูรณาการอำนวยการและกำกับดูแลการปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมทั้งการเสริมสร้างการตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ เพื่อให้มีส่วนช่วยในการป้องกันและแก้ไข การสร้างกระบวนการรับรู้ การแจ้งเตือนข่าวสารและเฝ้าระวังอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะเป็นการช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของชาติในภาพรวม

“กอ.รมน. โดยสำนักการข่าว กอ.รมน. ได้ดำเนินงานด้วยการบูรณาการข่าวด้านความมั่นคง โดยการสร้างเครือข่ายด้านการข่าวเพื่อการแจ้งเตือนข่าวสารที่ประกอบกัน ทั้งจากภาครัฐและ ภาคประชาชน ซึ่งการจัดทำโครงการข่ายข่าวประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อความมั่นคง มีการวางระบบข่ายด้านการข่าวประชาชนเสริมงานข่าวหลักของส่วนราชการ และการแจ้งเตือนให้ตระหนักถึงภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ ยกตัวอย่างเหตุการณ์ ลอบวางระเบิดในพื้นที่ กทม. เมื่อต้นเดือน ส.ค. 62 นั้น ในการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุร้าย ได้รับเบาะแสจากเครือข่ายข่าวประชาชน จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ในเวลาต่อมา จึงนับว่าการสร้างเครือข่ายตระหนักรู้การก่อเหตุร้าย มีความสำคัญในการช่วยระงับเหตุ แจ้งเตือน สกัดกั้น ป้องกันการก่อเหตุร้าย การสร้างเครือข่ายตระหนักรู้การก่อเหตุร้าย ประชาชนมีส่วนร่วมในงานด้านความมั่นคง” พล.ต.ธนาธิป กล่าว
...

โฆษก กอ.รมน. กล่าวด้วยว่า กอ.รมน. ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เช่น กระทรวงที่มีมวลชน ได้แก่ กระทรวงแรงงาน (อาสาสมัครแรงงาน/อสร.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า/รสทป.) เป็นต้น รวมถึง การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท., บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ ทอท. จัดอบรมสร้างเครือข่ายตระหนักรู้การก่อเหตุร้ายในเรื่องต่างๆ ให้ความสำคัญกับภัยคุกคามความมั่นคงด้านต่างๆ โดยเฉพาะที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการและพนักงาน พร้อมให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสเฝ้าระวังแจ้งเตือนโดยผ่านช่องทางกลุ่ม LINE และโทรศัพท์เคลื่อนที่ การสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังฯ เป็นมาตรการเชิงรุกประการหนึ่งในการติดตามเบาะแสความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อให้ทราบถึงการเตรียมการและสามารถขยายผลไปสู่การสืบสวนจับกุม สิ่งสำคัญคือการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในงานด้านความมั่นคง ถือว่าเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเป็นการเสริมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หนึ่งด้วย.