ข้อพิรุธเป็นเหตุ?
ที่สุดองค์คณะศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีคำวินิจฉัยให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้พ้นจากสมาชิกภาพสิ้นสุดการเป็นผู้แทนราษฎร
มีผลตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่มีบทลงโทษให้เว้นวรรคทางการเมือง หรือถอนสิทธิเลือกตั้ง
ยังทำหน้าที่หัวหน้าพรรคและสามารถสมัครเลือกตั้งในทุกระดับได้
เท่าที่ประมวลจากคำวินิจฉัยแล้วโดยสรุปก็คือศาลได้พบข้อพิรุธหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด เพราะยังไม่ได้แจ้งกระทรวงพาณิชย์เรื่องการจดแจ้งและรายชื่อผู้ถือหุ้น
ถือว่านายธนาธรยังมีชื่อถือหุ้นสื่อดังกล่าวระหว่างที่เสนอชื่อในรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีของพรรคอนาคตใหม่
การขึ้นเช็คที่ใช้เวลาดำเนินการนานถึง 128 วัน ทั้งที่ปกติใช้เวลาระหว่าง 42-45 วันเท่านั้น รวมถึงเรื่องการโอนหุ้นที่ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม
แต่การโอนหุ้นระหว่างแม่กับลูกจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมมาตลอด ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติที่ทำให้ชวนสงสัย
ก็เอาคร่าวๆ แค่นี้มาประกอบเพื่อให้เห็นภาพ
ตีวงเข้ามาอีกนิดก็คือมี “ข้อพิรุธหลายประการ เชื่อว่า นายธนาธรยังถือ “หุ้นสื่อ” อยู่ จึงมีผลให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ต้องสิ้นสุดลง
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้แถลงเสร็จเรียบร้อยแล้ว นายธนาธรได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวด้วยการโต้คำพิพากษา 5 ข้อ
สรุปก็คือคำวินิจฉัยที่ออกมานั้น “อยู่บนฐานข้อสันนิษฐานมากกว่าข้อเท็จจริง”
และจะดำเนินงานทางการเมืองต่อไป เพราะยังมีงานให้ทำอีกมาก พร้อมกับปลุกใจลูกพรรคและผู้สนับสนุนทำงานให้หนักมากขึ้น
...
หลุดจากศาลรัฐธรรมนูญแล้วก็ต้องไปดูกันต่อว่า กกต.จะรับลูกเพื่อดำเนินการต่อไปอย่างไร ด้วยประเด็นที่ว่าเมื่อรู้ว่าไม่มีคุณสมบัติในการลงเลือกตั้งแต่ก็ยังลงสมัคร อีกทั้งในฐานะหัวหน้าพรรคแต่ไปลงนามชื่อรับรองการลงสมัครของคนอื่นๆ
นี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ กกต.จะต้องมีการพิจารณาว่าจะมีการลงโทษถึงขึ้นถอนสิทธิเลือกตั้งหรือไม่
มีโทษทางอาญาหรือไม่?
ตามมาอีกเรื่องหนึ่งซึ่ง กกต.ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วคือ การปล่อยกู้เงิน 194 ล้านให้พรรคอนาคตใหม่ว่ามีความผิดหรือไม่
แต่ประเด็นนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ไม่ใช่เรื่องเฉพาะบุคคล หากพบว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย
โทษหนักสุดก็คือ “ยุบพรรค” ?
เหตุและผลที่เกิดขึ้นนั้นแม้นายธนาธรที่มีความผิดแค่พ้นจากสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. แต่หากขั้นต่อไปมีการชี้ผลว่าต้อง “ยุบพรรค”
นั่นแหละจะทำให้พรรคอนาคตใหม่เกิดปัญหาตามมาแน่
เพราะเป็นเรื่องของพรรคแล้ว ไม่ใช่เรื่องเฉพาะตัว ถือเป็นเรื่องใหญ่มีผลกระทบต่อเนื่องอย่างปฏิเสธไม่ได้
ดูจากปฏิกิริยาของนายธนาธรเห็นได้ว่าไม่ยอมรับคำตัดสินเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยดังกล่าวด้วยการยกเหตุผลต่างๆมาอ้างหลายข้อ
นั่นน่าจะเป็นคำตอบว่า “เขาไม่ยอมจำนน” แน่!!
“สายล่อฟ้า”