"ประภัตร" รมช.เกษตรและสหกรณ์ สั่งเร่งขยายพื้นที่แปลงใหญ่ข้าวอินทรีย์ นำร่อง อ.ศรีประจันต์ เมืองสุพรรณฯ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์คุณภาพดี หนุนตามเป้าหมายให้ได้ 3 แสนตันต่อปี

วันที่ 11 พ.ย. นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จ.สุพรรณบุรี เพื่อติดตามและรับฟังปัญหาจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยตรวจเยี่ยมกลุ่มข้าวอินทรีย์ศรีสุพรรณ บ้านวังพลับใต้ ต.มดแดง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี จากนั้นเดินทางไปยังโรงงานแปรรูปน้ำนมดิบ สหกรณ์การเกษตรเมืองสุพรรณบุรี ต.สระแก้ว อ.เมือง เพื่อพบปะเกษตรกร ก่อนเดินทางไปแปลงใหญ่ข้าวสวนแตง ของนายพิชิต เกียรติสมพร ต.สวนแตง อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี เพื่อเยี่ยมชมแปลงเรียนรู้เกษตรอัจฉริยะข้าว


นายประภัตร กล่าวว่า กลุ่มข้าวอินทรีย์ศรีสุพรรณบุรีเกิดจากการรวมตัวกันของเกษตรกรผู้ที่มีความตั้งใจผลิตข้าวคุณภาพดีด้วยกระบวนการทำนาอินทรีย์ ปัจจุบันมีสมาชิก 14 รายที่ขอรับรองมาตรฐาน Organic Thailand โดยทำการผลิตข้าวในรูปแบบกลุ่ม มีพื้นที่เพาะปลูก 136 ไร่ ปริมาณผลผลิตรวมของกลุ่ม 90,700 กิโลกรัม หรือเฉลี่ยประมาณ 500 กิโลกรัม/ไร่ ข้าวอินทรีย์ที่สมาชิกผลิตได้นำไปสีเพื่อบริโภคเองในครัวเรือน และจำหน่ายเป็นข้าวอินทรีย์แก่ผู้บริโภคในชุมชนและร้านค้าที่รับไปจำหน่าย

...

นายประภัตร กล่าวต่อว่า การผลิตข้าวอินทรีย์คือการที่เกษตรกรไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตรทุกชนิด ซึ่งทำให้ข้าวมีผลผลิตที่มีคุณภาพ ปลอดสารพิษ และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืน ทั้งนี้ กลุ่มข้าวอินทรีย์ศรีสุพรรณถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำไปเป็นแนวทางการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้กับกลุ่มอื่นๆ โดยมีแปลงผลิตข้าวอินทรีย์ที่ผ่านการรับรองขอบข่ายแหล่งผลิตข้าวอินทรีย์ (T1) ปี 2561 จากกรมการข้าว อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกษตรกรสามารถผลิตข้าวคุณภาพได้ คือ การใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี โดยปัจจุบันเกษตรกรมีความต้องการใช้เมล็ดพันธุ์ดีในจำนวนมาก ดังนั้นจึงได้มอบนโยบายให้มีการขยายพื้นที่แปลงใหญ่เกษตรอินทรีย์โดยนำร่องใน อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ตำบลละ 500 ไร่ โดยกรมการข้าวจัดหาเมล็ดพันธุ์และประกันรับซื้อคืนในราคาตันละ 20,000 บาท พร้อมสนับสนุนเจาะบ่อบาดาลเพื่อการเกษตรระบบโซลาร์เซลล์ โดย 1 บ่อ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ 500 ไร่ นอกจากนี้มอบหมายให้นายอำเภอศรีประจันต์ จัดประชุมสร้างความเข้าใจกับเกษตรกรทุกตำบล พร้อมทั้งมีวิทยากรให้ความรู้ในการทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์คุณภาพดี ทั้งยังช่วยเพิ่มการผลิตเมล็ดพันธุ์ให้เพิ่มปริมาณให้ได้ 200,000 - 300,000 ตัน/ปี ให้เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร

ในการนี้ ยังได้เดินทางไปยังแปลงใหญ่ข้าวสวนแตง ของนายพิชิต เกียรติสมพร ต.สวนแตง อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี เพื่อเยี่ยมชมแปลงเรียนรู้เกษตรอัจฉริยะข้าว ของกรมการข้าว โดยประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 83 ราย ดำเนินการปลูกข้าว 3 พันธุ์ ได้แก่ กข41 กข43 และปทุมธานี 1 มีพื้นที่ 970 ไร่ มีการให้บริการสมาชิก อาทิ จัดทำแปลงสาธิตเพื่อการเรียนรู้ บริการเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี บริการปุ๋ยเคมีราคาถูก โดยแปลงเรียนรู้เกษตรอัจฉริยะได้ดำเนินการเมื่อปี 2562 ได้มีการติดตั้งเซนเซอร์ตรวจสภาพต้นข้าว กล้องดักจับแมลง ท่อวัดระดับน้ำอัจฉริยะ ซึ่งเกษตรกรสามารถเรียกดูข้อมูลได้จากโทรศัพท์มือถือ การบริหารจัดการการฉีดพ่นสารชีวภัณฑ์โดยใช้โดรน พบว่าสามารถลดแรงงานในการดำเนินงาน ลดปริมาณน้ำในการฉีดพ่นสาร และลดปริมาณการใช้สารเคมีกำจัดแมลง เนื่องจากมีเซนเซอร์ในการตรวจจับแมลง และมีการสำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ในอนาคตจะขยายผลการดำเนินงานแปลงเกษตรอัจฉริยะกับสมาชิกนาแปลงใหญ่ข้าว ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จำนวนพื้นที่ 1,800 ไร่ต่อไป


สำหรับโรงงานแปรรูปน้ำนมดิบสหกรณ์การเกษตรเมืองสุพรรณบุรี ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มีสมาชิกเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจำนวน 14 ราย ปริมาณโคนมจำนวน 1,121 ตัว ปริมาณน้ำนมดิบจำนวน 6.211 ตัน/วัน และปริมาณที่ส่งนมพาสเจอร์ไรส์ (โครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียน) จำนวน 34,000 ถุง/วัน โดยสหกรณ์มีแผนธุรกิจในการรวบรวมน้ำนมดิบจำนวน 2,000 ตัน เดือนกันยายน 2562 สหกรณ์รวบรวมน้ำนมดิบได้ 1,649.41 ตัน เป็นเงิน 32,273,287.15 บาท นำไปแปรรูป 884.03 ตัน เป็นเงิน 15,807,363.96 บาท.