อ้างเพื่อเอกภาพ รบ.อย่าปากว่า-ตาขยิบ แฉวิษณุตัวเดินเกม ดอง ‘ญัตติแก้ รธน.’

ปชป.-พปชร.ขบเหลี่ยมชิงประธาน กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ “เทพไท” บี้ “บิ๊กตู่” อย่าปากว่าตาขยิบรีบสะกิด พปชร.หลีกทาง ถ้าอยากเห็นความปรองดอง-รัฐบาลเป็นเอกภาพ “สาทิตย์” ระบุส่งแกนนำคุยคีย์แมนรัฐบาลอย่าระแวง “สุชาติ” พร้อมสู้ไม่ถือว่าลดชั้น อนค.หยันแค่เกมต่อรองอำนาจ พท.อัดรัฐบาลหลอกลวงไม่จัดงบฯปี 63 รองรับ “วิษณุ” คุมเกมแก้ลำส่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 ประชัน เทเสียงรัฐบาล-ครม.โหวตคว่ำ ครม.ยก 6 เก้าอี้ให้ ส.ว.เสียบแทน อีก 6 คืนให้วิปรัฐบาล “วีระกร” ดันวาระ กมธ.พืชผลตกต่ำปาดหน้า ดองญัตติร้อนไปปลาย พ.ย. โฆษกรัฐปัดนายกฯไม่ได้เลื่อนแจง กมธ.ป.ป.ช.แต่ติดภารกิจ “ไพบูลย์” ยื่น “ชวน” เบรกประธาน กมธ.ใช้อำนาจเกินตัว ชี้ รธน.ยกเลิกอำนาจคำสั่งเรียกแล้ว “นายกฯตูู่่” ควง ส.ว.ลงพื้นที่ราษีไศลเปลี่ยนที่จอด ฮ. หนีม็อบ

กรณีพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ลงชิงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการศึกษาพิจารณาศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมส่งสัญญาณให้พรรคพลังประชารัฐเสียสละหลีกทาง เพื่อรักษาเอกภาพในพรรคร่วมรัฐบาล

...

“ชวน” ให้ กมธ.จิ้ม “อภิสิทธิ์” หรือ “สุชาติ”

เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 7 พ.ย.ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ เตรียมเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เข้าชิงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาพิจารณาศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังพรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า นายสุชาติถือเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง แต่ปกติเมื่อมีการตั้งคณะกรรมาธิการในญัตติใด เมื่อตั้งเสร็จแล้วกรรมาธิการเหล่านั้น จะเป็นผู้เลือกประธาน ไม่ได้เลือกในที่ประชุมสภาฯ เมื่อถามว่าประธาน กมธ.ต้องเป็น ส.ส.หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า แล้วแต่กรณีขึ้นอยู่กับ กมธ. อย่างไรก็ตาม ไม่ขอตอบว่ารองประธานสภาฯ จะเป็นประธานคณะ กมธ.ได้หรือไม่

สอน ส.ส.ต้องพูดความเดือดร้อน ปชช.

เมื่อถามถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ใช้เวทีหารือของสภาฯ ขอเปลี่ยนเพลงชาติไทย นายชวนกล่าวว่าปกติช่วงที่เปิดให้ ส.ส.หารือตั้งใจให้ ส.ส.ปรึกษาหารือความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความคิดของแต่ละคน โดยทั่วไปส่วนใหญ่สมาชิกสภาฯ เอาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาพูด ขออย่านำข้อยกเว้นของบางคนมาลบโอกาสการปรึกษาหารือของสมาชิก

“เทพไท” จี้ “บิ๊กตู่” สั่งหลีกทาง “มาร์ค”

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ระบุไม่ขัดข้องที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ จะมานั่งเป็นประธานคณะ กมธ.การศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องของรัฐสภาว่า เห็นด้วยกับแนวความคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ คงเห็นความสามารถและศักยภาพการทำงานของนายอภิสิทธิ์เป็นอย่างดี เนื่องจากเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาสมัยนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯมาแล้ว แต่อยากให้ส่งสัญญาณไปยังพรรคพลังประชารัฐพรรคหลักของรัฐบาลให้เสียสละไม่สนับสนุนคนของพรรคมาแข่งขัน น่าจะมีเพียงแกนนำพรรคพลังประชารัฐเท่านั้นที่ไม่ยอมให้นายอภิสิทธิ์เป็นประธานคณะ กมธ.วิสามัญชุดนี้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์อยากเห็นความปรองดองเกิดขึ้นในบ้านเมือง อยากให้มีความเป็นเอกภาพในพรรคร่วมรัฐบาล ควรดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งให้พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นประธานคณะ กมธ.วิสามัญฯ ให้สำเร็จ

ดักคอถ้าจริงใจอย่าปากว่าตาขยิบ

นายเทพไทกล่าวต่อว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐสภา รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นความจริงตั้งแต่เริ่มต้น เกือบทุกพรรคได้เสนอญัตติด่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษาและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนรัฐบาลไม่ได้มีท่าทีหรือข้อเสนอใดๆ เกี่ยวกับญัตตินี้มาก่อนเลย ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่มีส่วนร่วมกับญัตตินี้ และให้เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้น การตั้งคณะ กมธ.วิสามัญชุดนี้ไม่ควรมีคณะ กมธ.สัดส่วนของรัฐบาลด้วย ควรให้เป็นคณะ กมธ.ในสัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้านเท่านั้นหรือจะนำเอาจำนวน กมธ.สัดส่วน ครม.12 คนมาเกลี่ยให้ทุกพรรคในสภาฯก็ทำได้ จะตรงกับแนว ความคิดของ พล.อ.ประยุทธ์อย่างแท้จริง อยากจะเรียนกับ พล.อ.ประยุทธ์ว่า ถ้าหากท่านจริงใจ ไม่ปากว่าตาขยิบ รีบส่งสัญญาณหรือเชิญแกนนำพรรคพลังประชารัฐมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของท่านที่ประกาศไว้ ถ้าทำได้จริงเชื่อว่าทุกอย่างจะเดินไปอย่างราบรื่น จะถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความปรองดองและความสมานฉันท์อย่างแท้จริง

ปชป.ส่งแกนนำคุยคีย์แมนอย่าระแวง

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีมติพรรคประชาธิปัตย์เสนอให้นายอภิสิทธิ์เป็นประธาน กมธ.ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคมอบหมายนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ วิปรัฐบาลของพรรคไปแจ้งกับวิปรัฐบาลแล้ว ยังมีเวลากว่าจะได้พิจารณาตั้ง กมธ.น่าจะเป็นวันที่ 13 พ.ย. พรรคสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เพราะ กมธ.ชุดนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นแสวงหาความเห็นร่วมของสังคมเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ได้คุยเฉพาะวิธีแก้เท่านั้นแต่คงศึกษารัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เพื่อพิจารณาจุดที่ควรปรับปรุง ต้องไม่มีการแบ่งฝ่ายในพรรคการเมือง ต้องฟังเสียงบุคคลภายนอกด้วย ประธานจึงมีบทบาทสำคัญต้องรอบรู้ เคยผ่านการใช้รัฐธรรมนูญมองเห็นจุดอ่อนช่องว่างต่างๆ สำคัญต้องเปิดใจกว้างรับฟังความเห็นต่าง นายอภิสิทธิ์มีคุณสมบัติเหมาะสม คุยกับหลายฝ่ายมีเสียงสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ค่อนข้างมาก ไม่จำเป็นต้องเป็นของพรรคที่มีเสียงข้างมาก เป็นการทำงานของสภาฯ เหมือนการเลือกนายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาฯ ทั้งในสภาฯและคนภายนอกยอมรับ ต้องทำความเข้าใจกับพรรคพลังประชารัฐที่มีข่าวว่าพลังประชารัฐจะเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ ต้องฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน พรรคให้แกนนำไปคุยกับระดับคีย์แมนของรัฐบาลเพื่อลดความระแวงแคลงใจด้วย จะศึกษาเชิงวิชาการ เสนอทางเลือก ไม่ได้เป็นผู้แก้รัฐธรรมนูญ แต่การเริ่มนับหนึ่งสำคัญมาก ถ้าเริ่มได้ด้วยความเห็นตรงกันจะเป็นผลดีต่อการแสวงหาความร่วมมือและการหาฉันทามติจากสังคม ไม่ให้การแก้รัฐธรรมนูญไปเป็นชนวนความขัดแย้ง

“ชินวรณ์” รอวิป รบ.เคาะ 11 พ.ย.

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาลจากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้นำมติพรรคไปแจ้งต่อวิปรัฐบาลแล้ว โดยวิปของแต่ละพรรคจะไปหารือภายในพรรคของตัวเอง ก่อนที่จะกลับมาหารือร่วมกันในการประชุมวิปรัฐบาลวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน

“สุชาติ” ไม่ปฏิเสธพร้อมชิงเก้าอี้

นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคน ที่ 1 กล่าวถึงพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อชิงประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ไม่ได้เสนอตัวทำหน้าที่นี้ แต่หากไม่มีบุคคลที่เหมาะสมจริงๆก็ไม่ปฏิเสธ ถ้าพรรคพลังประชารัฐมีมติเสนอชื่อตน แต่ย้ำว่าตำแหน่งประธาน กมธ.ไม่ได้มีความสำคัญมากไปกว่าเนื้อหาที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข เมื่อถามว่า การทำหน้าที่จะซ้ำซ้อนกับตำแหน่งรองประธานสภาฯหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่าไม่มีข้อห้ามความซ้ำซ้อนว่ารองประธานสภาฯจะปฏิบัติหน้าที่ประธาน กมธ.ไม่ได้ แต่อาจทำให้ภาระงานเพิ่มขึ้น รองประธานสภาฯมีภาระงานอยู่พอสมควร เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตว่าหากประธาน กมธ.มาจากพรรคพลังประชารัฐ อาจมีธงนำหรือใบสั่งจากรัฐบาล นายสุชาติกล่าวว่าขอให้ดูการทำหน้าที่ที่ผ่านมาไม่มีใครสั่งตนได้ ไม่มีบุคคลใดโทร.มา ไม่มีใบสั่ง ส่วนนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่าตนจะไม่ลดระดับลงมาทำหน้าที่ประธาน กมธ. ไม่ได้มองว่าไม่ได้เป็นการลดสถานะ ไม่ได้มีข้อห้ามไม่ให้รองประธานสภาฯทำหน้าที่ประธาน กมธ. นายอภิสิทธิ์เป็นบุคคลหนึ่งที่เหมาะสม แม้ไม่ได้เป็น ส.ส.แต่ไม่มีข้อห้ามเช่นกัน

พท.อัด รบ.หลอกลวงไม่จัดงบฯแก้ รธน.

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การตั้งคณะ กมธ.ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการแก้ปัญหาให้ประเทศโดยตรง รัฐธรรมนูญฉบับนี้วางโครงสร้างการบริหารประเทศพิกลพิการ การที่ กรธ.และ ส.ว.ยังมองไม่เห็นปัญหาของรัฐธรรมนูญ เพราะไม่เคยลงไปสัมผัสความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงจึงไม่ทราบว่าประชาชนเดือดร้อนมากแค่ไหน รัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเห็นได้ชัด แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถูกบรรจุไว้ในนโยบายแห่งรัฐว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่บรรจุแบบเสียไม่ได้ แม้แต่ในงบฯปี 2563 ไม่มีการเตรียมงบฯไว้รองรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงชัดเจนว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ ไม่สนใจจะเข้ามามีส่วนร่วม ที่ผ่านมาแค่หลอกพรรคร่วมรัฐบาลและหลอกประชาชนเท่านั้น

ห่วงรอง ปธ.สภาฯ ลงมาเล่นขัดหลักการ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นการใช้กลไกในระบบรัฐสภาแก้ปัญหาสำคัญของชาติ พรรคพลังประชารัฐและ ส.ว.อย่าเพิ่งตีรวน ตีตนไปก่อนไข้ กลัวเสียผลประโยชน์ ทุกฝ่ายเห็นปัญหา แต่พรรคพลังประชารัฐและ ส.ว.ได้ประโยชน์เต็มๆจึงเลือกปิดตามองไม่เห็น

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่า รู้สึกงงที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นว่าประธานสภาฯ หรือรองประธานสภาฯ จะลงมาเป็นประธาน กมธ.วิสามัญ อาจขบกับหลักการ การแต่งตั้ง กมธ.แต่ละคณะเพื่อทำงานที่ได้รับมอบหมายจากสภาฯ ใหญ่ แต่พูดถึงความรู้ความสามารถนายสุชาติก็เหมาะสม

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ กล่าวว่า เป็นสิทธิของพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อใคร พรรคเพื่อไทยไม่ยึดติดกับตัวบุคคล แต่คาดหวังว่าเสียงส่วนใหญ่ของ กมธ.จะโหวตให้บุคคลที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย จริงใจและเป็นเสาหลัก อยากเห็นบุคคลที่มีจุดยืน เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยชัดเจนได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ครั้งนี้

“วันนอร์” หนุน “มาร์ค” เหมาะไร้ภาระ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่ กมธ.จะเลือกใคร แต่อยากได้คนเป็นกลาง มีเวลาทุ่มเทร่วมประชุม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ น่าจะเหมาะสมเพราะมีเวลามากกว่า ขณะที่นายสุชาติจะติดขัดเรื่องเวลาต้องทำหน้าที่รองประธานสภาฯ ทำพื้นที่ในฐานะ ส.ส. พรรคประชาชาติจะส่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคไปเป็น กมธ.จะได้ประสานงานกับพรรคฝ่ายค้านและองค์กรภาคประชาชน เรามุ่งหวังให้การแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จ จึงอยากได้คนที่ประสานงานกับทุกฝ่ายทั้งคนในและนอกสภาฯ มาทำหน้าที่

“ชำนาญ” หยันเกมต่อรองอำนาจ

นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การชิงตำแหน่งประธาน กมธ.ศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะนี้วิปฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลยังไม่มีการหารือ แต่น่าสนใจคือ ครม.อาจส่ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและนักวิชาการที่สนับสนุนรัฐบาลเข้ามานั่ง กมธ. ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะไม่เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณ หาก ครม.เข้ามาทำเช่นนี้ การศึกษาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจยากลำบาก เริ่มต้นทะเลาะกันแล้ว ทางปฏิบัติวิปสองฝ่ายต้องตกลงกันก่อน หากหาข้อสรุปไม่ได้ต้องโหวตกันในสภาฯ ส่วนการชิงตำแหน่งประธาน กมธ. ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ เราต้องรู้ชัดเจนก่อนว่า การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร การแย่งกันเสนอชื่อเป็นเหมือนเกมแห่งอำนาจระหว่างสองพรรค รัฐบาลขาดประชาธิปัตย์ไม่ได้ ประชาธิปัตย์ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ลำบาก เป็นการถือไพ่กันคนละใบ หากนายสุชาติได้เป็นประธาน กมธ.ชุดนี้เราไม่มีปัญหา

ครม.ให้ 6 ส.ว.เสียบ–กมธ.โหวตกันเอง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่า วิปรัฐบาลรายงานว่า กมธ.ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีทั้งหมด 49 คน แบ่งเป็นสัดส่วนพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล 18 คน พรรคร่วมฝ่ายค้าน 19 คน และ ครม.12 คน ในส่วนของ ครม.จะใช้เพียงแค่ 6 คน ตอนแรกจะให้มี ครม.เข้าไปร่วมด้วยเพื่อแสดงถึงความร่วมมือ แต่อาจไม่มีเวลาจึงจะไม่เอา ครม.เข้าไป จะให้เป็นส่วนของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้เข้าไปมีส่วนตรงนี้ เพราะถ้าไม่มี ส.ว.อาจสำเร็จยาก รวมถึงคนจากองค์กรอิสระและฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล แต่จะเป็นใครบ้างตอบไม่ถูก คงต้องให้ไปหากัน ส่วนที่เหลืออีก 6 คนจะคืนให้ทางวิปรัฐบาลไปจัดการ จะต้องคุยกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับรัฐบาล ตรงนี้ได้คุยกับวิปรัฐบาลแล้ว เห็นพูดกันมาหลายวันแล้วว่ามีชื่อนายอภิสิทธิ์ แต่ ครม.ไม่มีความเห็นส่วนนี้ กมธ.49 คนต้องโหวตกันเอง รัฐบาลไม่ได้ไปโหวตด้วย ที่มีชื่อนายอภิสิทธิ์ไม่มีใครขัดข้อง ส่วนนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นประธาน กมธ.ด้วยไม่ทราบ เมื่อถามว่าจำเป็นหรือไม่ที่คนเป็นประธานต้องเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีความเห็น เป็นเรื่องที่ 49 คนไปโหวตกันเองแต่เอาใจช่วยให้เริ่มต้นตั้ง กมธ.ให้ได้เสียก่อน ส่วนรายชื่อจะออกมาเมื่อไหร่ไม่ทราบ แต่จะมีก่อนญัตติเข้าสภาฯ หากเสนอให้ตนไปเป็นที่ปรึกษาไม่ขอเป็น

“วิษณุ” นั่งหัวโต๊ะแก้เกม ปชป.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องหลังการที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ชิงประธาน กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นมติจากการประชุมวงเล็กหลังการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 6 พ.ย. โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธานการประชุม พร้อมแกนนำระดับรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ เป็นต้น จนได้ข้อสรุปว่าต้องเป็นนายสุชาติที่เหมาะสมทุกด้าน นายสุริยะและนายสมศักดิ์จึงต่อสายไปหานายสุชาติ แต่นายสุชาติไม่ต้องการจะรับผิดชอบในตำแหน่งนี้ มองว่างานในรัฐสภามีค่อนข้างมาก และไม่ต้องการเป็นเป้าให้หลายฝ่ายโจมตีความไม่เป็นกลาง ทำให้ท่าทีล่าสุดนายสุชาติยังแบ่งรับแบ่งสู้ แต่พรรคพลังประชารัฐต้องการจะรักษาตำแหน่งประธาน กมธ.ชุดนี้เอาไว้ ไม่ต้องการให้ตกไปอยู่ในมือพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเกรงว่าอาจกระทบต่อหลักการในรัฐธรรมนูญที่ผ่านการลงประชามติ หากนายสุชาติไม่รับตำแหน่งนี้อาจต้องหาบุคคลภายนอกที่มีประสบการณ์และมีความเป็นกลาง เข้ามาแทนเพื่อให้ได้การยอมรับจากทุกฝ่าย แต่ยังไม่มีมติจากพรรค ต้องรอดูว่าในการประชุม ส.ส.พรรคสัปดาห์หน้าจะมีมติอย่างใด

ขวาง “มาร์ค” ไม่มั่นใจจุดยืนไม่เอา “บิ๊กตู่”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐไม่ยอมให้นายอภิสิทธิ์มาดำรงตำแหน่งประธาน กมธ.แน่นอน เพราะท่าทีของนายอภิสิทธิ์ชัดเจนว่าไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตั้งแต่ต้น ประกอบกับไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ จึงเชื่อว่าแนวทางการทำงานร่วมกันคงเป็นไปได้ยาก เป็นเหตุที่พรรคพลังประชารัฐต้องพยายามรบเร้าให้นายสุชาติยอมรับตำแหน่ง หากพรรคประชาธิปัตย์ยังดึงดันจะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นประธาน กมธ.ให้ได้ ทางออกเดียวคือพรรคประชาธิปัตย์ต้องไปรวมเสียงกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ส่วนพรรคพลังประชา–รัฐจะตอบโต้โดยใช้เสียงในสัดส่วนของ ครม.ที่จะทำให้เสียงของรัฐบาลมีมากกว่า เชื่อว่าสุดท้ายแล้วหากแกนนำพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ได้จับเข่าคุยกันถึงความจำเป็นแล้วจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าใจและยอมถอยให้ในที่สุด

ญัตติตั้ง กมธ.แก้ รธน.ส่อถูกดอง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมสภาฯเมื่อวันที่ 7 พ.ย. วาระพิจารณาญัตติด่วนเรื่องตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของ คสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 ที่ประชุมยังไม่สามารถตั้ง กมธ.ได้ทัน เนื่องจากมีวาระรับทราบตกค้างหลายเรื่อง มี ส.ส.อภิปรายจำนวนมาก จึงเลื่อนไปพิจารณาสัปดาห์หน้า ส่วนญัตติด่วนพิจารณาตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ อาจถูกเลื่อนออกไปอีกไม่ทันพิจารณาสัปดาห์หน้าด้วยซ้ำ เนื่องจากมีวาระที่ กมธ.วิสามัญคณะต่างๆ อาทิ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำและ กมธ.วิสามัญยกร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรม ที่พิจารณาแล้วเสร็จเตรียมนำสู่ที่ประชุม ตามข้อบังคับประชุมสภาฯเรื่องที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว จะถูกนำเข้ามาพิจารณาก่อนญัตติเร่งด่วน

“วีระกร” แย้มเลื่อนยาวไปปลาย พ.ย.

นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า กมธ.พิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ที่ตนเป็น ประธานพิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ วันที่ 13 พ.ย. ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ จะถูกบรรจุเข้าพิจารณาก่อนญัตติด่วนที่ค้างไว้ได้ทันที ดังนั้น รายงานเรื่องปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำจะพิจารณาก่อนญัตติด่วนเรื่องการตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 และการตั้ง กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญที่จ่อคิวอยู่ คาดว่าการตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 น่าจะเข้าสู่วาระเร็วสุดวันที่ 14 พ.ย. ส่วนการตั้ง กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญอาจเลื่อนยาวออกไปเป็นช่วงปลายเดือน พ.ย.

“เสรีพิศุทธ์” ฉะ “สิระ”เป็นใครให้ทบทวนมติ

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กมธ.ป.ป.ช.จะเสนอให้ทบทวนมติต่างๆของ กมธ.ว่า เขาจะให้ทบทวนได้อย่างไร เป็นมติของ กมธ. ก่อนออกเป็นมติเราคิดกันรอบคอบแล้ว ถามว่านายสิระเป็นใครจะมาเสนอให้ทบทวน ยืนยันว่าสิ่งที่ กมธ.ทำถูกต้องแล้ว ถ้าผิดตนก็แย่ จะมาดูถูก กันไม่ได้ เพราะไม่ใช่ ส.ส.สมัยแรกอย่างเดียว แต่ เป็น ผบ.ตร.มาก่อน ปราบทุจริตมามาก คนเป็น ส.ส. 10 สมัยเคยทำงานบ้างหรือไม่ หรือหาเสียงเป็นเพียงอย่างเดียว

ซัด “ปารีณา” ขุดซื้อไทเกอร์จะมีปัญหา

เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ตั้งใจจะเข้ามาขุดคุ้ยเรื่องทุจริตจัดซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไทเกอร์สมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็น ผบ.ตร. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เขารู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง รู้หรือไม่ว่าพูดแค่นี้เป็นการหมิ่นประมาทตนแล้ว ดูแล้วเขายังไม่มีความรู้ ด้านกฎหมายเลย เพราะพูดมาก็ผิด และไม่มีกฎหมาย คุ้มครอง การทำงานร่วมกันใน กมธ. ส่วนตัวไม่มีปัญหา แต่เขาจะมีปัญหา เมื่อถามว่า เริ่มมีกระแส พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่ฟัง กมธ.คนอื่น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ไม่ฟังได้อย่างไร แม้แต่ประชุมเมื่อไหร่ จะเชิญใครต้องเป็นมติของ กมธ. ประธานคนเดียว ไม่สามารถทำอะไรได้

“ไพบูลย์” ยื่น “ชวน” เบรก ปธ.กมธ.

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ผ่านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานประธานสภาฯ เพื่อขอให้พิจารณาแจ้งไปยังประธาน กมธ.ป.ป.ช. และประธาน กมธ.อื่นทั้ง 35 คณะ ระงับออกคำสั่งเรียกของ กมธ. โดยนายไพบูลย์ กล่าวว่า พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของ กมธ.ของ ส.ส.และ ส.ว. พ.ศ.2554 มาตรา 5, 8 และ 13 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 129 เดิมรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 135 ให้ กมธ.สภาฯและวุฒิสภามีอำนาจออกคำสั่งเรียกและคำสั่งเรียกมีผลบังคับตามที่กฎหมายบัญญัติ แต่รัฐธรรมนูญ 2560 ได้ยกเลิก อำนาจดังกล่าวแล้ว กมธ.จึงมีอำนาจเพียงเรียกเอกสารหรือบุคคลมาชี้แจง แต่ไม่ใช่การออกคำสั่งเรียก หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีโดย ป.ป.ช.ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กมธ.ไม่ได้มีอำนาจสอบสวนลักษณะเดียวกับองค์กรอิสระ เพียงทำหน้าที่ศึกษาและรายงานต่อสภาฯเท่านั้น

แจงนายกฯไม่ได้ขอเลื่อน กมธ.ป.ป.ช.

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ชี้แจงถึงกรณีมีข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ส่งหนังสือขอเลื่อนการเข้าชี้แจงต่อ กมธ.ป.ป.ช. สภาฯว่า สำนักเลขาธิการนายกฯไม่ได้ส่งหนังสือขอเลื่อนการชี้แจง แต่ได้ทำหนังสือแจ้งไปว่านายกฯติดภารกิจประชุม ครม. เกรงจะเข้าใจไม่ตรงกัน ยืนยันว่าไม่ใช่ส่งหนังสือ ขอเลื่อน คำว่าเลื่อนเท่ากับว่านายกฯจะไปคราวหน้า แต่การแจ้งไปว่าติดภารกิจ ทาง กมธ.อาจเชิญมาอีก ส่วนนายกฯจะไปหรือไม่ ยังไม่ทราบ

“บิ๊กตู่” ควง ส.ว.ลงพื้นที่ราษีไศล

เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ นั่งเครื่องบินเอบัส ACJ-319 ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 21 อ.เมือง จ.อุบลราชธานี แล้วขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปลงพื้นที่เปิดอาคารโรงคลุมชุดตู้อบข้าวเปลือก ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าว ชุมชนบ้านอุ่มแสง ต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ มีคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา นำโดย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธาน กมธ. พล.อ.ดนัย มีชูเวท รองประธาน กมธ. นายลักษณ์ วจนานวัช รองประธาน กมธ. นายสมชาย ชาญณรงค์กุล เลขานุการ กมธ.รอต้อนรับในพื้นที่

เปลี่ยนจุดลงจอด ฮ.หนีม็อบดักรอ

ขณะที่บริเวณถนนหน้าโรงเรียนราษีไศล ที่จะใช้สนามของโรงเรียนเป็นสนามลงจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวของนายกฯ ได้มีกลุ่มสมัชชาคนจนและม็อบอื่นรวม 15 กลุ่ม กว่า 500 คน จาก จ.สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษและอุบลราชธานี เดินขบวนใช้เครื่องขยาย เสียง ชูป้ายเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน แก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนหัวนาและเขื่อนราษีไศลที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชย แกนนำอ้างว่าจะมารอต้อนรับนายกฯที่ถนนหน้าโรงเรียนราษีไศลเท่านั้น ไม่ต้องการเข้าไปภายในโรงเรียนหรือก่อเหตุวุ่นวาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 2 กองร้อยสกัดกั้นปิดเส้นทางจนเกิดการปะทะคารมผลักดันกันนานกว่า 20 นาที มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งวิ่งฝ่าด่านตำรวจไป โดยแกนนำปฏิเสธว่าไม่ใช่กลุ่มสมัชชาคนจน ทั้งนี้ นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ได้มาพบกับกลุ่มสมัชชาคนจน รับเรื่องร้องเรียน ส่วน พล.อ.ประยุทธ์และคณะต้องเปลี่ยนจุดนำเฮลิคอปเตอร์ไปลงที่โรงเรียนหวายคำวิทยา ต.ดู่ อ.ราษีไศล

หยุดขัดแย้งเป็นพรรคประเทศไทย

ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง มีชาวบ้านกว่า 3 พันคนมาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มาในนามลูกอีสาน ความทุกข์ของชาวบ้านรัฐบาลพยายามแก้อยู่ หลายอย่างดีขึ้นไม่ใช่ไม่ดีสักอย่าง ภาคเกษตรต้องดีกว่าเดิม ต้องปรับตัว ส.ส.และ ส.ว.ต้องช่วยกัน รัฐบาลต้องช่วยนักการเมืองไม่ว่าพรรคไหน ต้องเป็นพรรคประเทศไทย เรื่องการเมืองเป็นประชาธิปไตยว่ากันไป ลดความขัดแย้งระหว่างกันให้ได้ หยุดเกลียดกันไว้ก่อนบ้าง จะได้มีเวลาได้คิดอะไรใหม่ๆเพื่อคนไทย ต้องดูแลพี่น้องเราก่อน เรื่องอื่นอย่าเพิ่งมาทะเลาะกันเลย ตนบังคับใครมารักทั้งหมดไม่ได้ แต่ขอให้ดูความตั้งใจของตนและรัฐบาล สิ่งไม่ดีมีอยู่ทุกแห่งในโลก ถ้าเราไปจ้องแต่ตรงนั้นลืมไปว่าต้องมาทำอะไรตรงนี้ ไปเสียเวลาโพสต์กันไปมา บางทีไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย อย่าไปอ่านมากนักเจ็บตา จากนั้นนายกฯทำพิธีเปิดโรงอบเมล็ดพันธุ์ข้าวและทดสอบระบบการคัดคุณภาพข้าว และเยี่ยมชมการดำเนินการของวิสาหกิจ นิทรรศการส่งเสริมทำเกษตรแปลงใหญ่ จ.ศรีสะเกษและจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลองชิมจิ้งหรีดทอด แวะทักทายถ่ายเซลฟี่ร่วมกับครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนหวายคำวิทยา อ.ราษีไศลแล้วเดินทางกลับ กทม.

“คารม” แซะนายกฯ รังเกียจม็อบ

นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษของ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วมีสมัชชาคนจนราว 500 คน มารอยื่นหนังสือขอให้แก้ปัญหาเขื่อนจนต้องเปลี่ยนจุดลงเฮลิคอปเตอร์ นายกฯควรลงไปชนกับปัญหาด้วยตนเอง แต่ยังถือประเพณีเดิมๆจากสมัยเป็น คสช.ไปไหนมีทีมรักษาความปลอดภัยเต็มไปหมด การไม่รับหนังสือเองอาจทำให้กลุ่มสมัชชาคนจนเดินทางเข้ากรุงเทพอีกครั้ง ตนคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้กลัวเรื่องความปลอดภัยแต่ไม่อยากเจอ ไม่อยากตอบคำถามหรือมีข้อมูลไม่พอ ทำแบบนี้จะไม่รู้จริงยิ่งแก้ปัญหาไม่ออก ทั้งที่เป็นโอกาสที่ดีจะได้เข้าใจปัญหาโดยตรง แค่นี้ยังหลบแล้วปัญหาใหญ่จะหนีไปเรื่อยๆหรือไม่

“เต้” แจง ป.ป.ช.ตั้งเองราคาพระเครื่อง

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ เข้าชี้แจงต่อ ป.ป.ช.กรณีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินรายการพระเครื่องราคาสูงเกินจริง มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานการไต่สวน ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นนายมงคล–กิตติ์กล่าวว่า ป.ป.ช.สอบถามถึงความมีอยู่จริงและที่มาของพระเครื่องที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. โดยเฉพาะซักไซ้ราคา ได้ชี้แจงว่าเป็นคนประเมินเองทั้งหมด เช่น พระกริ่งปวเรศทองคำ 50 ล้านบาท ราคาประเมินในตลาดพระเครื่องเนื้อนวโลหะอยู่ที่ 35 ล้านบาท ของตนเป็นทองคำจึงคิดว่ามีมูลค่าสูงกว่า ยืนยันพระกริ่งปวเรศเนื้อทองคำมีอยู่จริง ไม่ใช่ไม่มีตามที่เซียนพระวิจารณ์กัน ล่าสุดมีคนมาให้ราคา 40 ล้านบาทไม่ปล่อย ช่วงใกล้เลือกตั้งมาให้ 60-70 ล้านบาทจะพิจารณาดู พระเครื่องอีก 200 องค์ชี้แจงได้หมด แต่ ป.ป.ช.ขอให้ส่งรูปถ่ายเพิ่มเติมมาให้

นายกฯร่วมชมโขนตอนสืบมรรคา

เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานชมการแสดงโขนโดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตอน สืบมรรคา โดยมีภริยานางนราพร จันทร์โอชา พร้อมรัฐมนตรี ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมชมการแสดงโขนครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ การแสดงโขนดังกล่าวเป็นความร่วมมือกันของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถและกระทรวงวัฒนธรรม โดยเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.จัดแสดงไปจนถึงวันที่ 5 ธ.ค.