ไทย-จีน เจรจาชื่นมื่น พร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านนวัตกรรม-ค้าข้าว-รถไฟความเร็วสูง “หลี่ เค่อเฉียง” หยอดคำหวานลงเรือใหญ่ลำเดียวกัน พร้อมวิ่งเร็วเหมือนเรือหางยาว ขณะที่ “บิ๊กตู่” ยกสุภาษิตไทย "แม้เป็นมดก็ช่วยพญาราชสีห์-พญาคชสาร" ได้
วันที่ 5 พ.ย. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล โดยทั้ง 2 ประเทศ ได้ลงนามข้อตกลงในบันทึกความร่วมมือ 3 ฉบับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความร่วมมือ ด้านวิทยาศาสตร์ วิชาการ และนวัตกรรม รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกรมประชาสัมพันธ์กับสำนักงานซินหัว

โดย พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับ นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ในการเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ซึ่งเป็นการเยือนที่เกิดขึ้นในปีที่มีความสำคัญ เป็นปีที่ไทยได้จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง รวมถึงเป็นประธานอาเซียน ขณะที่จีนก็เฉลิมฉลองการครบรอบ 70 ปี แห่งการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา
...
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในสภาวะความผันแปรของสภาวะเศรษฐกิจโลก ตัวและนายกรัฐมนตรีจีน ได้หารือกันอย่างกว้างขวางทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองและความมั่นคง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และสังคมและวัฒนธรรม ตลอดจนสถานการณ์ในภูมิภาคและในโลก ไม่ว่า จะเป็นแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ. 2025 เรายังเห็นพ้องที่จะเชื่อมโยงกันระหว่างเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ของไทยกับกรอบความร่วมมือเขตอ่าวกวางตุ้ง-มาเก๊า-ฮ่องกง หรือ GBA ของจีนผ่านโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมต่อไป

พลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและเมืองอัจฉริยะ เพื่อสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหา หมอกควันและฝุ่น PM 2.5 ในด้านการเมืองและความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันให้ส่งเสริมความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญกรรมข้ามชาติ และจะสนับสนุนการดำเนินความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งการหารือของทั้งสองประเทศสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทย-จีน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศ ประชาชนและภูมิภาคโดยรวม
ซึ่งในช่วงท้าย พลเอกประยุทธ์ กล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีจีน ที่มีงานอดิเรกที่ชอบเล่นหมากล้อม และบาสเกตบอล และตัวเองจะต้องหัดเล่นบ้างแล้ว นอกจากนั้นยังเป็นนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ด้วย จึงขอฝากสุภาษิตไทยให้กับนายกรัฐมนตรีจีนด้วยว่า "มดน้อยบางครั้งก็สามารถช่วยพญาราชสีห์และพญาคชสารได้" ซึ่งนี่คือสุภาษิตไทยที่ขอฝากไว้ และอยากฟังสุภาษิตจีนบ้าง ซึ่งนายหลี่ เค่อ เฉียง บอกว่า จีนกับไทยได้นั่งเรือลำเดียวกัน ซึ่งทั้งจีนและไทยมีความเหมือนกัน ซึ่งถ้าดูจากประชากร และสภาพทางการเมือง การต่างประเทศ ก็ตรงกันต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ เราจึงต้องมุ่งไปข้างหน้าเพื่อให้มีอนาคตที่กว้างไกลมากยิ่งขึ้น เราต้องอาศัยหลักการความเสมอภาคต่อกัน เอื้อประโยชน์ต่อกัน เป็นหุ้นส่วนที่ดี และมีความเจริญก้าวหน้าด้วยกัน แม่น้ำเจ้าพระยา ก็สามารถเชื่อมต่อไปถึงประเทศจีนได้ ซึ่งทั้งสองประเทศก็จะเจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน ทำให้ พลเอกประยุทธ์ ตอบกลับทันทีว่า “จะเป็นเรือเหล็กหรือเรือหางยาวเราก็จะไปด้วยกัน”

ด้านนายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวขอบคุณ ที่ทางการไทยให้การต้อนรับอย่างมีน้ำใจ ซึ่งวันนี้ได้หารือกันหลายประเด็นจนประสบความสำเร็จ ตามที่นายกรัฐมนตรีไทยได้แจ้งให้ทุกคนทราบแล้ว พวกเราได้บรรลุการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจด้านการเมือง โดยจีนพร้อมผลักดันไทยทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการอีอีซี รวมถึงส่งเสริมเสริมความร่วมมือด้านการค้าข้าว อีคอมเมิร์ซ รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจีนมีศักยภาพในการส่งเสริมการพัฒนาของไทยเป็นอย่างมาก โดยช่วงที่มาเยือนประเทศไทย ได้เห็นเรือพาณิชย์ วิ่งอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวนมาก ทำให้คิดว่า หากทางการไทย-จีน ร่วมมือกัน จะเปรียบเสมือนเป็นเรือใหญ่ วิ่งเร็ว วิ่งไกลอย่างมั่นคง ซึ่งในอนาคตจะต้องวิ่งให้เร็วเหมือนเรือหางยาวอีกด้วย
นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวด้วยว่า ขอแสดงความยินดีกับไทยอีกครั้งที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ขณะที่เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมผู้นำ 15 ประเทศ ผ่านเวที RCEP และได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน จะเห็นได้ว่า ในภูมิภาคนี้เรามีประชากรมากที่สุด มีศักยภาพในการพัฒนามากที่สุด และมีความพร้อมในการสร้างเขตการค้าเสรีในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่เราจะร่วมมือกันในการรักษาความมั่นคงเพื่อพัฒนาภูมิภาค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนต่อไป ซึ่งการหาแสวงหาความร่วมมือในเวที RCEP ต้องใช้ความขยันหมั่นเพียรและอดทน การเจรจาระหว่างกันก็เหมือนการเตะบอลเข้าประตู ซึ่งขณะนี้บอลกำลังจะเข้าประตูแล้ว ตัวเองจึงได้ย้ำกับพลเอกประยุทธ์ไปว่า เราต้องใช้ความพยายามต่อไป ต้องผลักดันให้ลูกบอลตกลงสู่พื้นเพื่อเข้าประตูไปในเร็ววัน และเรามั่นใจว่าปีหน้า RCEP จะประกาศข้อตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการ และคิดว่าบอลที่เตะเข้าประตูไปแล้วจะเปิดกว้างไปสู่ทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงเรื่องอื่นๆด้วย