“วันนอร์” ชี้ รัฐบาล ชิงปิดซักฟอกก่อนหมดประเด็นไม่ได้ ยันมีอภิปรายไม่ไว้วางใจภายในปีนี้แน่ รอฝ่ายค้านหารือวันใด 5 พ.ย.นี้ ด้าน “สุทิน” ฟุ้ง มีข้อมูลทำรัฐบาลช็อก ชี้ เปิดแผลในสภา แต่รัฐบาลจะมาเน่านอกสภา
วันที่ 2 พ.ย. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์กรณีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ออกมาระบุว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ใช้เวลาแค่ 1-2 วัน ก็เพียงพอว่า ส่วนตัวมองว่า เวลาการอภิปรายขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ถูกยื่น อภิปรายไม่ไว้วางใจ และประเด็นสาระในการอภิปราย ถ้ามีการอื่นอภิปรายรัฐมนตรี 4-5 คน ต้องใช้อย่างน้อย 2 วัน ถ้ายื่นอภิปรายนายกฯ คนเดียว เวลา 1 วัน ก็อาจไม่เพียงพอ อาจต้องใช้เวลาถึง 2 วัน อยู่ดี ที่ผ่านมา ไม่เคยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งใดน้อยกว่า 3 วัน ถ้าจะไปจำกัดเรื่องวันโดยไม่ดูจำนวนผู้ถูกอภิปรายและเนื้อหาสาระก่อนไม่ได้ และในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ประธานในที่ประชุมสามารถเร่งเวลาอภิปรายได้ หากเห็นว่า เนื้อหาซ้ำประเด็นตามข้อบังคับ แต่ตราบใดที่ยังอภิปรายผู้ถูกยื่นอภิปรายไม่ครบถ้วน และประเด็นยังไม่จบฝ่ายรัฐบาลจะเสนอปิดการอภิปรายไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคประชาชาติ ตนและสมาชิกจะอภิปรายเน้นเนื้อหาการด้อยประสิทธิภาพของการบริหาร โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ เพราะการทำงานที่ผ่านมา ไม่เห็นถึงความก้าวหน้า บุคลากรที่เข้ามาทำงานก็ไร้ความรู้ ความสามารถ ที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายของประเทศ และให้พูดโดยสรุปตอนนี้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในปีนี้แน่นอน ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่ ให้วิปฝ่ายค้าน หารือกันในวันที่ 5 พ.ค.
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณี นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ออกมาระบุว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ใช้เวลาแค่ 1-2 วัน ก็เพียงพอว่า การจะออกมาพูดว่า ให้เวลาอภิปรายกี่วันพอหรือไม่พอ พูดตอนนี้ไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือเป็นคณะ หากยื่นเป็นรายบุคคล จะยื่นอภิปรายกี่คน กี่ข้อหา เพราะฉะนั้นวันนี้ยังห่างใกล้ที่จะมาสรุปว่า จะให้เวลาอภิปรายกี่วัน จึงมองเห็นเจตนาของรัฐบาลว่า การออกมาพูดเช่นนี้ เป็นการใช้เทคนิคเรื่องเวลามาบีบการทำงานของฝ่ายค้าน และรัฐบาลทำเช่นนี้มาตลอด ยิ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยิ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลเองวิตกเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย เพราะรู้ดีว่า รัฐบาลล้มเหลวในการบริหารบ้านเมือง ส่วนจะยื่นอภิปรายใครบ้างนั้นอยู่ระหว่างการประมวลข้อหาและหลักฐานว่าเรื่องใดบุคคลใดข้อหาใดที่จะมีน้ำหนักเพียงพอในการอภิปราย ยืนยันว่ามีข้อมูลความผิดที่เหนือความคาดหมายของรัฐบาลทำให้ถึงกับช็อกแน่ และเราไม่หวังว่า มือในสภาฯจะล้มรัฐบาลได้ แต่มือนอกสภาฯต่างหากที่รัฐบาลไม่ควรมองข้าม แต่บอกเลยว่า มือนอกสภาฯ ไม่ใช้ม็อบอย่างแน่นอน และการอภิปรายในสภาครั้งนี้ อาจะเป็นแค่การเปิดแผล แต่แผลจะมาเน่าข้างนอกสภาฯ จนติดเชื้อ
...