วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยัน รบ.นำความกราบบังคมทูล เลื่อนหมายกำหนดการ ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เหตุกระแสน้ำผันผวน เผย เป็นครั้งแรกใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ ควบคุมระยะห่างระหว่างเรือ เพื่อให้ริ้วขบวนมีความสวยงาม
วันที่ 21 ต.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ควง นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมว.ประจำสำนักนายกฯ ร่วมแถลงผลการประชุมคณะกรรมการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
นายวิษณุ กล่าวว่า ตามที่มีการประกาศ และออกข่าวเชิญชวนไปแล้วถึงการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 24 ต.ค.2562 ไปแล้วนั้น แต่เนื่องจากที่ผ่านมาได้ซ้อมย่อย จำนวน 10 ครั้ง และซ้อมใหญ่เสมือนจริงอีก 2 ครั้ง โดยได้ทดสอบกระแสน้ำ ตั้งแต่การพายเรือตามน้ำและทวนน้ำ รวมถึงจากการประมวลข้อมูลกระแสน้ำ พบว่ากระแสน้ำมีความผันผวนทำให้ไม่สามารถควบคุมริ้วขบวนเรือให้มีความสวยงามตามโบราณราชประเพณีได้
ดังนั้น รัฐบาลจึงนำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อเลื่อนหมายกำหนดการออกไปจากเดิม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยให้เป็นวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2562 เวลา 15.30 น. โดยใช้เรือ 52 ลำ และในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะมีการนำเทคโนโลยีเลเซอร์ เข้าไปใช้ในการคุมระยะห่างระหว่างเรือ เพื่อให้ริ้วขบวนเรือมีความสวยงามตามโบราณราชประเพณี ทั้งนี้ ในการพิจารณาวันจัดงานพระราชพิธี ได้คำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 4 ข้อ คือ 1. ทำให้เกิดความสง่างาม ความสวยงาม 2. การดูแลความปลอดภัย ทั้งความปลอดภัยต่อเรือและผู้ที่เกี่ยวข้อง 3. ทำให้ทุกอย่างมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และ 4. ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมา คาดว่า ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ จะสามารถคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้ พร้อมกันนี้ ขอเชิญชวนให้ประชาชนสวมใส่เสื้อเหลือง ในการรับเสด็จพระราชดําเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เพื่อความสวยงามและแสดงออกถึงความจงรักภักดี
...
โดยหลังจากนี้ จะซ้อมริ้วขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค โดยเป็นการซ้อมย่อย 4 ครั้ง คือ วันที่ 12 พ.ย., 19 พ.ย., 26 พ.ย. และ 3 ธ.ค. และซ้อมใหญ่เสมือนจริง 1 ครั้ง คือวันที่ 9 ธ.ค. อย่างไรก็ตามในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีเสด็จพระราชดําเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ทางรัฐบาลไม่ได้ประกาศเป็นวันหยุดราชการแต่อย่างใด
ขณะที่ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจะเจรจากับบริษัทสายการบิน การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. และบริษัท ขนส่ง จำกัดหรือ บขส. เพื่อเลื่อนวันเดินทางสำหรับประชาชนที่จะเดินทางมาชมพระราชพิธีตามหมายกำหนดการเดิม และได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินตั๋วรถไฟและตั๋วโดยสารรถทัวร์ไว้แล้ว ซึ่งในวันที่ 22 ต.ค. จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าวด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยว้องกับ "พระราชพิธีบรมราชาภิเษก"