รัฐสภา คุมเข้มประสาน ตร.ท้องที่ เกษตรกรยาสูบเพชรบูรณ์ บุกสภาฯ จี้ให้ช่วยเหลือ หลังรัฐ ขึ้นภาษี ยาเส้น 2 พันเปอร์เซ็นต์ ด้านเจ้าหน้าที่ ไล่ม็อบไปนั่งตากแดด บริเวณหน้าบริษัทเบียร์ยี่ห้อดัง 

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศโดยรอบอาคารรัฐสภา ด้านนอก ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อน 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยอย่างเข้มข้น โดยนำแผงเหล็กกั้นตลอดแนวบริเวณทางเท้าฟุตปาทด้านหน้าของพื้นที่รัฐสภา ทั้ง 2 ฝั่งถนน พร้อมมีการตรวจค้นรถที่จะผ่านเข้าออก ถ้าไม่มีสติกเกอร์เข้าพื้นที่ และให้ประชาชนที่ไม่มีบัตรผ่านเข้าออกที่รัฐสภาออกให้ ต้องแลกบัตรก่อนเข้าพื้นที่ ทั้งนี้การรักษาความปลอดภัยดังกล่าวเพื่อเตรียมพร้อมการเข้าสภาฯ ครั้งที่สามของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยมีตำรวจ สน.เตาปูน ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นายคุมด้านหน้าแผงกั้นเหล็กหน้าอาคารรัฐสภา

ต่อมาเวลา 09.30 น. มีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ จ.เพชรบูรณ์ กว่า 150 คน นำโดย น.ส.อรวรรณ พิมพ์นาค เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์เพื่อขอให้ความช่วยเหลือผู้ปลูกใบยาสูบ กรณีรัฐบาลขึ้นภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บจากการซื้อขายยาเส้นที่สูงขึ้นกว่า 2,000% โดยมีนายอนุชา น้อยวงศ์ กรรมาธิการ นายคำพอง เทพาคำ โฆษกกรรมาธิการฯเป็นผู้แทนรับเรื่องไว้เพื่อพิจารณาในกรรมาธิการการเกษตรฯ โดย น.ส.อรวรรณ พิมพ์นาค กล่าวว่า การขึ้นภาษียาเส้น 2,000% ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบเดือดร้อนมาก ผ่านมา 6 เดือน รัฐบาลไม่ดูแลเยียวยา และบ่ายเบี่ยงไม่ช่วยเหลือ การขึ้นภาษีแต่ละครั้งของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด ไม่เคยขึ้นถึง 2,000% ถามว่า ทำไมรัฐบาลถึงขึ้นภาษียาเส้นสูงขนาดนี้ ถ้าเกษตรกรไม่สามารถขายผลผลิตได้ รัฐบาลจะรับซื้อ หรือรับผิดชอบดูแล ช่วยเหลืออย่างไร ในการทำลายอาชีพที่ทำมาหลายชั่วอายุของคนพื้นที่

...

ขณะที่ด้านหน้าถนนสามเสน กลุ่มม็อบเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบจำนวนกว่า 150 คนปักหลักชุมนุม โดยตำรวจขอให้ไปนั่งชุมนุมพร้อมป้ายข้อความเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ดูแลช่วยเหลือ อาทิ “อาชีพปลูกยาเส้นเป็นวิถีชุมชนและรากเหง้าของบรรพบุรุษ” “ถ้าขายยาเส้นไม่ได้ จะเอาเงินที่ไหนส่งลูกเรียน” “หยุดเถอะ อย่าทำร้ายประชาชนด้วยการรีดภาษี” ที่หน้าบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ ที่อยู่ติดกับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่