“จุรินทร์” ลงพื้นที่นครปฐม วันที่ 2 ช่วย “สุรชัย อนุตธโต” ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 หาเสียง โว ผลตอบรับดีมาก มีโอกาสได้รับเลือก

วันที่ 6 ต.ค. 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่ จ.นครปฐม เป็นวันที่ 2 เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ นายสุรชัย อนุตธโต ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีรองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค รวมถึง ส.ส.หลายจังหวัดที่เดินทางมาร่วม อาทิ นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง นางสาวอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ และ พท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม เขต 1 โดยเดินทางมาที่ตลาดนัดวัดนักบุญเปโตร ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างให้กำลังใจพร้อมขอถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก

หลังเสร็จสิ้น นายจุรินทร์ เปิดเผยว่า ในการหาเสียงครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์คาดว่ามีโอกาสที่จะได้ ส.ส. อีก 1 ที่นั่ง อย่างน้อยที่สุดส่วนตัวก็ได้ลงพื้นที่หาเสียงในเขตสามพราน 2 วัน พอจะประเมินได้ในเบื้องต้นจากเสียงตอบรับของพี่น้องประชาชนที่มีต่อผู้สมัครดีมาก จากประสบการณ์ที่เราเคยไปพบประชาชน พอจะดูออกว่าประชาชนมีความรู้สึกอย่างไร กระแสตอบรับมากน้อยเพียงใด จากประสบการณ์ในการลงพื้นที่มา 2 วันนี้ พอจะประเมินได้ว่าผลตอบรับเรียกว่า ดีมาก และมีโอกาสที่ นายสุรชัย จะได้รับเลือกเป็น ส.ส.

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีโอกาสพูดคุยกับพรรคชาติไทยพัฒนาที่มีการส่งผู้สมัครมาชนกันในพื้นที่หรือไม่ นายจุรินทร์ เผยว่า เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค ถึงแม้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแต่ก็ถือว่าเกินหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะไปบอกพรรคไหนควรลงหรือไม่ควรลง แต่การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันก็ต้องเป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำ หรืออย่างน้อยก็เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่จะพูด แต่จะพูดหรือไม่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้ติดใจ เมื่อเราตัดสินใจลงสมัครแล้วควรเดินหน้าหาเสียง คราวที่แล้วในการเลือกตั้งที่ผ่านมาในพื้นที่สามพราน เราก็ได้เป็นลำดับที่ 2 จึงยังถือว่ามีโอกาสชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งใน จ.นครปฐม มีผู้แทนราษฎรที่ชาวบ้านเลือกอยู่แล้วคือ พ.ท.ดร.สินธพ ฉะนั้น โอกาสที่จะปักธงอีก 1 ที่ก็เป็นไปได้สูง

...

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังให้ความเห็นว่า ความจริงแนวทางในการเลือกตั้งที่มาจากอดีตที่ผ่านมา สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันมักจะหลีกทางให้กัน คือหมายความว่าจะไม่แข่งกันเองเพราะเกรงว่าสุดท้ายแล้วจะทำให้ฝ่ายค้านรวมตัวกันก็อาจจะทำให้เพลี่ยงพล้ำได้ แต่ก็แล้วแต่กรณี ในครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ติดใจอะไรและไม่อยากให้เป็นประเด็นโดยไม่จำเป็น เราก้มหน้าก้มตาหาเสียง และทำหน้าที่ของเราในฐานะนักการเมืองพรรคหนึ่งที่ลงสนาม มั่นใจว่าเสียงตอบรับจะดีขึ้น เพราะพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้เป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ อุดมการณ์ทันสมัย เวลาเราสัญญาอะไรกับประชาชนเราจะทำให้ได้ ทำให้ไว ทำได้จริง

ส่วนเรื่องการเลือกตั้งครั้งนี้ที่ดูเหมือนจะมีแรงกดดันมาก นายจุรินทร์ ระบุว่า แน่นอน แต่อยู่กับกลยุทธ์ในการหาเสียงของแต่ละพรรค อย่างที่บอกไปแล้วว่า สุดท้ายผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ก็อาจจะหนีไม่พ้นที่มีคนหยิบยกไปตีความว่า เป็นการแข่งขันกับรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่จะเป็นอย่างนั้นหรือไม่สุดแล้วแต่ พอจะคาดเดาออกว่าหนีไม่พ้นประเด็นนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่หลายเสียงทนลุงไม่ไหวจึงอยากหนีไปเลือกพรรคอนาคตใหม่

นายจุรินทร์ ตอบว่า เรื่องนี้เป็นการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองกับพรรคการเมืองเป็นเรื่องหลัก ลุงไม่ได้มาลงแข่งขันด้วย พรรคของลุงก็ไม่ได้มาลงสมัครด้วย แต่สุดท้ายแล้วก็หนีไม่พ้นที่คนจะตีความ เรื่องของแข่งขันระหว่างรัฐบาลของลุงกับฝ่ายค้าน เป็นเรื่องที่เหนือการควบคุม จากนั้นได้ขอตัวเพื่อไปหาเสียงต่อยังสถานที่อื่นต่อไป.