นายกฯ พูดคุยกับประชาชน ผ่านโซเชียล เทป 2 แจง "ชิมช็อปใช้" ไม่ได้เอื้อประโยชน์ใคร บอกข่าวดีกำลังคิดมาตรการใหม่ขึ้นมา บอกแก้ PM2.5 ต้องใช้ความเข้าใจอย่าตระหนก ย้ำ ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ช่วงเช้า โดยไม่มีวาระงานหรือประชุมทางการแต่อย่างใด จากนั้นเวลา 15.00 น.เพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ได้เผยแพร่เทปบันทึก นายกฯพูดคุยกับประชาชน ผ่านรายการ Government weekly ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ความยาว 15 นาที โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินรายการ และถือเป็นครั้งที่ 2 ที่นายกฯสื่อสารกับประชาชนโดยใช้โซเชียลมีเดีย

...


โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” จะมีการขยายมาตรการออกไปอีกหรือไม่ว่า ที่ผ่านมากำหนดลงทะเบียน วันละ 1 ล้านคน รู้สึกว่าบางวันลงทะเบียนแล้วมีคนไม่ผ่านประมาณ 2 แสนคน วันนี้เราใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในการตรวจสอบ บางครั้งการสแกนหน้าไม่ตรงกับบัตรประชาชนหรือไม่เหมือนบ้าง ก็มีการเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ ส่วนนี้ต้องปรับปรุงกันต่อไป ตอนนี้ก็เปิดให้ลงทะเบียนใหม่ได้ ส่วนในระยะที่ 2 คงต้องปรับมาตรการให้สะดวกรวดเร็วขึ้น วัตถุประสงค์โครงการนี้ คือ การใช้เงินจำนวนหนึ่ง ให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของร้านค้าประชารัฐ ร้านค้าที่ลงทะเบียน โรงแรม ห้องอาหาร รวมถึงโฮมสเตย์ ร้านโอทอป ไม่ใช้เพื่อเอื้อประโยชน์ใคร เงิน 1,000 บาท ที่ให้ไป ประชาชนใช้อะไรได้ไม่มาก แต่เพื่อให้เกิดการใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่เคยทดลองใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (G-Wallet) เพราะไม่ได้ลงทะเบียน ตนไม่ได้ไปไหน ไม่เคยได้ไปไหนซักที เวลาจะใช้เงินก็ให้ลูกน้องจัดการ ลูกน้องตนคงไม่มีใครไปลงทะเบียนในโครงการดังกล่าว นายกฯ ไม่ไปไหนพวกเราก็ไม่ไปไหน เพราะเขาอยู่กับตนตลอด


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า โครงการดังกล่าวจะมีข่าวดีขยายมาตรการนี้หรือไม่นั้น จากการวิเคราะห์เห็นว่ามีความก้าวหน้ามีการใช้จ่ายในระบบมากขึ้น คิดว่ากระทรวงการคลังคงชี้แจงได้อยู่แล้ว ขณะนี้เห็นว่ากำลังคิดมาตรการใหม่ขึ้นมา ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดการหมุนเงินเหล่านี้ในวงจร ซึ่งงบประมาณที่ใส่ไปในโครงการนี้จะทำให้เงินหมุนเวียนมากขึ้น 2-3 เท่า ถ้าดีอาจจะถึง 5 เท่า เพราะประชาชนไม่ได้ใช้เฉพาะเงินตรงนี้ แต่ใช้เงินของเขาด้วยเพราะเงิน 1,000 บาท บางครั้งมันไม่พอ แต่สามารถทำให้ร้านค้าขนาดเล็กเดินต่อไปได้ ถ้าหยุดกันหมดมันก็แย่ จึงต้องพึ่งการหมุนเวียนในระบบในประเทศให้มากขึ้น ขณะที่การส่งออกก็มีปัญหาอยู่พอสมควร

พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังถึงข้อห่วงใยประชาชนว่า ตนเป็นห่วงทุกเรื่อง เช่น ความปลอดภัย การใช้รถใช้ถนน ที่สถิติอุบัติเหตุยังสูงอยู่ กฎหมายเราก็มีแต่ทุกคนก็ทราบกันดี รัฐบาลต้องเข้มงวดเรื่องนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ขณะที่การขนส่งสาธารณะผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบชีวิตประชาชน โดยเฉพาะผู้ขับรถ เรือ ต้องมีใบอนุญาต บางครั้งเมื่อไปตรวจสอบบางคนก็ไม่มี ทุกคนมีความสามารถแต่ถ้าไม่มีใบอนุญาต หากเกิดอะไรขึ้นเราจะตอบสังคมไม่ได้ ดังนั้น รัฐ ผู้ประกอบการ และผู้ขับรถ ต้องรับผิดชอบ ประชาชนต้องช่วยกันดู หากเห็นอาการไม่ดีอย่าไปขึ้นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ อย่าให้ต้องใช้กฎหมายกันนักเลย นอกจากนี้ ยังมีความเป็นห่วงเกษตรกร เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ไปพบสภาเกษตรกรแห่งชาติ มีการหารือกันเป็นอย่างดีทั้งการลดการเผาวัชพืช การจัดโซนนิ่งพื้นที่เกษตรกรรม เกษตรกรยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือในทุกเรื่อง ขณะที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ให้ความร่วมมือในการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยนวัตกรรม ซึ่งตรงกับแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานไว้ว่า ขอให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งมีผลงานวิจัยให้มากและตรงจุด เพื่อมอบให้กับคนในกลุ่มที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ ตั้งอยู่

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวในช่วง PM TALK โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ว่า รัฐบาลให้ความสนใจในเรื่อง PM 2.5 มาโดยตลอด ช่วงเวลาหลายๆ ปีที่ผ่านมา ค่อนข้างเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง อาทิ หมอกควันจากต่างประเทศ สาเหตุจากภายใน ปัญหาจราจร ปัญหาจากการเผาวัชพืช เราต้องมาดูก่อนว่า PM 2.5 มีอันตรายอย่างไร ทุกคนทราบดีว่า เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก มีอันตรายสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็ก ทารก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ เพราะภูมิต้านทานค่อนข้างน้อย และการแก้ปัญหานี้ คงไม่ได้แก้ด้วยความตื่นตระหนก อยากให้แก้ด้วยความเข้าใจว่า จะลดปัญหานี้ได้อย่างไร เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้อนุมัติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องแผนปฏิบัติการลดฝุ่นละอองระดับ 1, 2, 3 และ 4 มีรายละเอียดอยู่แล้ว ถ้าถึงระดับ 4 เมื่อไหร่ เป็นมาตรการที่เราต้องเต็มที่ วันนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดี หลังจากประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ชี้แจงทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ อาจต้องขอความร่วมมือ ประชาชนอาจจะมีผลกระทบเรื่องการจราจร เพราะเราจำเป็นต้องเข้มงวด เรื่องรถควันดำ มีการตรวจ คงเป็นเรื่องของคนขับ ผู้ประกอบการ และผู้โดยสารต้องช่วยกันแจ้งและชี้แจงไป ต้องถูกดำเนินคดี หรือไม่ก็ต้องถูกหยุดการใช้งาน


นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ทำทุกอย่างให้ประชาชนมีความสุข ปลอดภัย แต่ต้องร่วมกัน เพราะรัฐมีกฎหมาย มีเจ้าหน้าที่ ถ้าเราร่วมมือกันทั้งหมดมันก็ไปได้ เพราะกฎหมายทุกตัวมีอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าปฏิบัติเข้มงวดขึ้นมาประชาชนหลายคนที่เขาไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เป็นสาเหตุ เขาก็เดือดร้อน เสร็จแล้วก็กลับมาที่เจ้าหน้าที่อีก นี่เป็นเรื่องธรรมดาตนเข้าใจ จึงบอกไปแล้วให้ใช้มาตรการที่ละมุนละม่อม สิ่งสำคัญคือเราคงประมาทไม่ได้ เหมือนทุกปีประมาณเดือน ธ.ค. หน้าหนาว อากาศเย็นก็กดลงมา ฝุ่นละอองต่างๆ ก็ไม่ค่อยฟุ้งไปที่อื่น ไม่ค่อยสลายตัวนั่นคือปัญหาที่เรียกว่าโดมครอบอยู่ ก็ต้องเตรียมการรับเดือน ธ.ค.ทุกปี ทุกประเทศในโลกเมืองใหญ่ๆ มีปัญหาหมด