มติกกต.ไม่กล้าฟันธง สมาชิกภาพ ส.ส. ‘นวัธ’ โยนศาลรธน.วินิจฉัย เสรีพิศุทธ์-ธรรมนัส ยังตอบโต้กันไม่จบ!
กกต.ลงมติเสียงข้างมาก ส่งศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด “นวัธ” พ้น ส.ส. แจงเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม 23 ต.ค. ตามกรอบ 45 วัน ใช้วันหยุดอื่นขัด รธน. ร่อนหนังสือขอหน่วยงานรัฐ-นายจ้างไฟเขียวผู้ใช้สิทธิ อนค.หวั่นติดวันสำคัญคนลงคะแนนน้อย “ธรรมนัส” ตอกกลับ กมธ.ป.ป.ช.คนปูดเรื่องเท็จเตรียมรับผลกรรม หาติดคุกออสเตรเลีย 8 เดือน ปี 2531 ยังเรียน จปร.อยู่เลย สั่งทีมทนายดำเนินคดี “ธีรชัย” จ่อส่งเรื่องผ่าน กต.-สถานทูตออสซี่ลุยขอข้อมูลศาลรัฐนิวเซาท์เวลส์-กรมราชทัณฑ์-อัยการ บินเก็บหลักฐานพิสูจน์ถูกจำคุกปีไหนแน่ “เสรีพิศุทธ์” บอกเวลาอาจขาดเกินเล็กน้อย แต่มั่นใจข้อมูลเชื่อถือได้ แย้ง “ผู้กองมนัส” ชี้แจงสภาฯไม่ตรงกับข้อเท็จจริง “บิ๊กตู่” โอดถูกสร้างภาพนายกฯเลือกปฏิบัติ ขู่ พ.ร.บ.งบฯ ปี 63 ไม่ผ่านสภาฯเดือดร้อนกันทั้งประเทศ
จากกรณีที่ยังไม่มีความชัดเจนว่านายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.เขต 7 ขอนแก่น พรรคเพื่อไทยที่ต้องคำพิพากษาให้ประหารชีวิต และถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาลว่าพ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส.แล้วหรือไม่ ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)มีมติเสียงข้างมากให้ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
...
มติ กกต.ส่งศาล รธน.ชี้สถานภาพ “นวัธ”
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ต.ค. ที่สำนักงาน กกต. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.เป็นประธานการประชุม มี กกต.เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง มีวาระการพิจารณาสถานภาพของนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.เขต 7 ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ต้องคำพิพากษาให้ประหารชีวิตและถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาล จากนั้นสำนักงาน กกต.เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า กกต.มีมติเสียงข้างมากให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้พิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพของ ส.ส.สิ้นสุดลง ตามมาตรา 82 วรรคสี่ของรัฐธรรมนูญ กรณีความปรากฏหรือมีเหตุอันควรสงสัยต่อ กกต.ว่านายนวัธมีเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา98(6)
เริ่มนับหนึ่งวันสั่งหยุดทำหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสองกำหนดไว้ว่าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้นั้นสิ้นสุดลงให้ถือว่า ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ การนับระยะเวลา 45 วันที่ต้องจัดการเลือกตั้งจะนับหนึ่งจากวันที่ศาลฯสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
แจง ลต.นครปฐมวันหยุดอื่นขัด รธน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน กกต.ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีที่ กกต.จัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เขต5 นครปฐม ในวันพุธที่ 23 ต.ค. ซึ่งเป็นหยุดนักขัตฤกษ์ ระบุว่า วันพุธที่ 23 ต.ค. เป็นวันหยุดที่ กกต.จัดการเลือกตั้งได้ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงตามรัฐธรรมนูญกำหนด เพราะ กกต.ต้องจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งของแต่ละหน่วยเลือกตั้ง และปิดประกาศไว้ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่ที่ประชาชนสะดวกในการตรวจสอบก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 25 วันตามมาตรา 36 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ถ้าจัดให้มีการเลือกตั้งในวันหยุดอื่นภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงจะทำให้การจัดการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามเงื่อนเวลาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ส่งหนังสือขอหน่วยงานร่วมมือแล้ว
ส่วนการให้ความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นลูกจ้างของสถานประกอบการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐออกมาใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนในวันเลือกตั้ง สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดนครปฐมมีหนังสือเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความร่วมมือผู้ประกอบการหรือนายจ้างของสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 5 ให้ความสะดวกและอนุญาตให้ผู้ใช้แรงงานหรือลูกจ้างผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามกฎหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรม จ.นครปฐม สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.นครปฐม ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.นครปฐม ประธานหอการค้า จ.นครปฐม และมีหนังสือประสานงานขอความร่วมมือไปยังหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน เขตเลือกตั้งที่ 5 จังหวัดนครปฐม เพื่อแจ้งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนในวันเลือกตั้ง
ติวเข้มปิดจุดบอด ลต.ซ่อมนครปฐม
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า กกต.เตรียมความพร้อมเพื่อจัดการเลือกตั้งไว้หมดแล้ว แต่จากการถอดบทเรียนการเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค. พบว่ามีปัญหาโดยเฉพาะในหน่วยเลือกตั้งตั้งแต่การรายงานตัว แจกบัตรเลือกตั้ง แนะนำการใช้สิทธิให้ถูกต้องป้องกันบัตรเสีย การนับคะแนน การวินิจฉัยบัตรดีบัตรเสีย การรวมคะแนน การปิดประกาศผล คะแนนหน้าหน่วย กลุ่มงานภารกิจเลือกตั้งสำนักงาน กกต.จะจัดชุดลงพื้นที่ให้ความรู้แก่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งโดยละเอียด โดยเฉพาะจำนวนผู้มาใช้สิทธิกับจำนวนบัตรไม่ตรงกัน ต้องกำชับกรรมการประจำหน่วยเกี่ยวกับกระบวนการแจกบัตร ดูว่าผู้มาใช้สิทธิหย่อนบัตรเลือกตั้งลงในหีบหรือไม่
อนค.หวั่นคนไปใช้สิทธิน้อย
ขณะที่ น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล นางวรรณวิภา ไม้สน และนายทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.เรียกร้องมาตรการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการจัดการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 จ.นครปฐมในวันที่ 23 ต.ค. โดย น.ส.อมรัตน์ กล่าวว่า 23 ต.ค. เป็นวันสำคัญวันปิยมหาราช ข้าราชการและประชาชนต้องเข้าร่วมทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ถ้าทำงานจะได้ค่าแรง 2 เท่า จึงเกรงว่าผู้มาใช้สิทธิจากภาคแรงงานจะไม่ออกไปใช้สิทธิ แม้ กกต.จะทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังอุตสาหกรรมจังหวัด แต่ยังไม่ชัดเจนว่านายจ้างจะบังคับให้เป็นวันหยุด ขอเรียกร้องให้ กกต.วางมาตรการรองรับ โดยเฉพาะนักศึกษาที่อาจต้องไปเรียนนอกพื้นที่ อ.สามพราน ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ จึงขอให้ กกต.ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.สั่งให้ข้าราชการหรือลูกจ้างของหน่วยงานรัฐ ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการเอกชนอนุญาตให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 จ.นครปฐม ไปใช้สิทธิเลือกตั้งวันที่ 23 ต.ค. โดยได้รับค่าจ้างและไม่ถือเป็นวันลา
“วราวุธ” มั่นใจ “เผดิมชัย” เข้าวิน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า วันที่ 5 ต.ค.ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา จะไปช่วยหาเสียงให้นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม เขต 5 มั่นใจวันเลือกตั้งที่ 23 ต.ค. จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเขต 5 เพิ่มเสียงให้รัฐบาล ส่วนการพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ส่งผู้ลงสมัครลงด้วย ตามมารยาทแล้วต้องพูดคุยกับคณะไม่ใช่แค่ตนคนเดียว พรรคชาติไทยพัฒนามีหัวหน้าและ ผู้ใหญ่คนอื่นๆอีก
“วิษณุ” ชี้นายจ้างต้องให้ไป ลต.ซ่อม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ ไม่เห็นด้วยกับการจัดเลือกตั้งซ่อมเขต 5 จ.นครปฐม ในวันพุธที่ 23 ต.ค. ว่าเลือกตั้งซ่อมไม่เหมือนเลือกตั้งทั่วประเทศ ที่ต้องอาศัยความสะดวกทั้งประเทศ ส่วนใหญ่จึงเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ แต่เลือกตั้งซ่อมจะเจาะเอาวันใดวันหนึ่งไม่ได้ เพราะต้องทำภายในกรอบเวลา 45 วัน หลังตำแหน่ง ส.ส.ว่างลง ในอดีตเคยมีแบบนี้แล้ว ที่พรรคอนาคตใหม่กังวลว่าเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์โรงงานบางแห่งไม่ได้หยุด พนักงานอาจไม่ได้ออกมาใช้สิทธิ สามารถขอความร่วมมือกับทางโรงงานได้ตามกฎหมายเลือกตั้ง นายจ้างต้องให้ลูกจ้างไปเลือกตั้งอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นนายจ้างมีความผิด
ฉะไร้เหตุผลชงร่าง พ.ร.ฎ.ซ่อมขอนแก่น
เมื่อถามถึงร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งซ่อม จ.ขอนแก่น เขต 7 นายวิษณุตอบว่า เป็นปัญหาที่ กกต.ไม่ได้ชี้ลงไปว่าตำแหน่งว่างลงเพราะอะไร รัฐบาลจึงยังไป ทูลเกล้าฯ ถวายไม่ได้ แต่ กกต.ไม่กล้าชี้ ต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ได้คำตอบออกมา อยู่ดีๆจะมาบอกว่าให้เลือกตั้งซ่อมไม่ได้ มันต้องมีเหตุ เท่าที่เลขาธิการ ครม.มารายงานคือ มีการส่งร่าง พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น เขต 7 โดยไม่ได้บอกว่าเพราะอะไร สลค.มาเติมเองก็ไม่ได้ ที่จริงถ้า กกต.กล้าฟันมันก็หมดเรื่อง ถ้าไม่กล้าฟันต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ
“วิทยา” ทวงคืบหน้าคำร้องคัดค้าน
ขณะที่เวลา 11.20 น. นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นครศรีธรรมราช เดินทางมายื่นหนังสือถึงเลขาธิการ กกต.ขอทราบความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 2 นครศรีธรรมราช นายวิทยากล่าวว่า 4 เดือนก่อนได้มายื่นร้องคัดค้านการเลือกตั้งเขต 2 นครศรีธรรมราชกับ กกต.กลางและ กกต.จังหวัด โดย กกต.จังหวัดแจ้งว่าได้ส่งสำนวนมายัง กกต.กลางแล้ว แต่จนขณะนี้ กกต.ไม่เคยแจ้งความคืบหน้าว่าไปถึงขั้นไหนแล้ว จะยกคำร้องหรือไม่ยกคำร้องควรแจ้งให้ทราบ การทำงานของ กกต.ต้องโปร่งใส เท่าที่ตรวจสอบพบว่ามี 581 คำร้องแต่ทั้งหมดไม่มีใครทราบข้อเท็จจริงว่ามีผลการพิจารณาอย่างไร สื่อมวลชนเองยังไม่ทราบ ขอให้ กกต.ตอบความชัดเจนภายใน 7 วัน ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร หากไม่ดำเนินการจะใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูล ขอเรียกร้องให้ผู้ยื่นคำร้องกับ กกต.มาติดตามความคืบหน้าคำร้องด้วย
“ธรรมนัส” ตอก กมธ.ปี 31 ยังเรียน จปร.
อีกเรื่อง วันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีนายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษก กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ให้ข่าวพบปี 2531 เคยต้องคดียาเสพติด ตามความผิดกฎหมายคดีสอดส่องเพื่อนบ้านของออสเตรเลีย อ้างเป็นเพียงคำให้การของผู้สื่อข่าวไทยที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะเมื่อปี 2531 ตนยังเรียนอยู่เป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 36 เรื่องแบบนี้ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะเผยแพร่สาธารณชน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้ทีมกฎหมายแจ้งความดำเนินคดีในกรณีที่มีการบิดเบือน ทีมกฎหมายได้ดำเนินการแล้ว เคยบอกแล้วไม่มีปัญหาเรื่องของกระบวนการตรวจสอบ แต่อะไรที่ไม่ถูกต้องตนมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ
ลั่นคนปูดเรื่องเท็จเตรียมรับผลกรรม
ช่วงเย็น ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเชิญไปให้ข้อมูลชี้แจงกรณีที่มีผู้ร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติและวุฒิการศึกษา รวมถึงจะทำหนังสือไปสอบถามศาลออสเตรเลียว่าคดีความของ ร.อ.ธรรมนัส มีทั้งปี 2531 และปี 2536 ตามที่มีผู้ร้องเรียนหรือไม่ว่า ยังไม่ได้รับแจ้งหรือมีหนังสือจากสภาฯแจ้งให้ไปชี้แจงข้อมูล หากแจ้งมาก็ตอบไปไม่มีปัญหาติดขัดอะไร เพราะเห็นว่าเป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบตามกลไกของสภาฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปทำหน้าที่ชี้แจง ตนจะใช้เวลาไปทำหน้าที่ฝ่ายบริหารช่วยเหลือประชาชนจะดีกว่า ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลอ้างว่าตนมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อปี 2531 ขอย้ำปี 2531 ยังเป็นนักเรียนนายร้อยชั้นปี 4 อยู่เลยไม่รู้ว่าคนที่ระบุเอามาจากไหน ไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาก่อนแล้วนำเอาไปเผยแพร่ต่อสาธารณะทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง ขอให้คนที่ทำเตรียมตัวรอรับหมายได้เลย ให้รอรับผลการกระทำเรื่องต่างๆ ได้มอบหมายให้ทีมทนายไปดำเนินการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
กมธ.ขอข้อมูล 3 หน่วยงานออสเตรเลีย
ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการตรวจสอบคดียาเสพติดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ในการประชุมอนุ กมธ. วันที่ 3 ต.ค. ที่ประชุมวางกรอบแนวทางตรวจสอบคดี ร.อ.ธรรมนัส สัปดาห์หน้าจะส่งหนังสือไปถึงกระทรวงต่างประเทศและสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยให้ประสานขอข้อมูลคดียาเสพติดของ ร.อ.ธรรมนัสจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศออสเตรเลีย เมื่อได้รับการตอบรับยืนยันแล้ว กมธ.จะเดินทางไปออสเตรเลียเพื่อขอข้อมูลจาก 3 หน่วยงานได้แก่ 1.ศาลแขวงและศาลอุทธรณ์รัฐนิวเซาท์เวลล์ เพื่อขอคำพิพากษา 2.กรมราชทัณฑ์ เพื่อดูว่า ร.อ.ธรรมนัสเคยติดคุกจริงหรือไม่ 3.อัยการดูเรื่องการพรีบาร์เกนนิ่งหรือการกันไว้เป็นพยาน ทั้งสามหน่วยงานจะไปขอข้อมูลคดียาเสพติดของ ร.อ.ธรรมนัส ปี 2538
หาหลักฐานเพิ่มจำคุก 8 เดือนปีไหนแน่
นายธีรัจชัยกล่าวอีกว่า ส่วนที่ กมธ.ตรวจสอบพบล่าสุดว่า ร.อ.ธรรมนัสเคยถูกจำคุก 8 เดือน ในปี 2531 ตามความผิดกฎหมายคดีสอดส่องเพื่อนบ้านของออสเตรเลีย ที่ไม่แจ้งข้อมูลยาเสพติดในละแวกที่พักอาศัยให้ทางการออสเตรเลียนั้น ขณะนี้ยังเป็นคำบอกเล่าของอดีตผู้สื่อข่าวที่เคยอยู่ร่วมในเหตุการณ์ ขอเวลารวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมก่อน แต่จากการดูข้อเท็จจริง ความสอดคล้องของเหตุการณ์แล้ว เบื้องต้นเชื่อว่าคดีมีมูล โดยมีนายตำรวจยศนายพล 3 คนลงนามรับทราบว่ามีการให้ข้อมูลดังกล่าวจริง ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้มาอย่างเลื่อนลอย จากการรวบรวมข้อมูลขณะนี้เชื่อว่าคดีของ ร.อ.ธรรมนัสในปี 2531 กับปี 2536 เป็นคนละคดีกัน แต่ ร.อ.ธรรมนัสพยายามจะพูดรวมทั้งสองคดีเป็นเรื่องเดียวกัน เป็นไปได้ว่า ร.อ.ธรรมนัสเคยติดคุกที่ออสเตรเลีย 8 เดือนปี 2531 แต่ดูแล้วอาจขัดกับที่ ร.อ.ธรรมนัสบอกว่าติดคุก 8 เดือนในปี 2538 จึงต้องตรวจสอบว่าติดคุก 8 เดือนในช่วงปีใดแน่ ยืนยันว่าการตรวจสอบครั้งนี้ เพื่อวางบรรทัดฐานของประเทศ ไม่ใช่ไปจ้องจับผิดใครคนใดคนหนึ่ง
“เสรีพิศุทธ์” ชี้แจงสภาฯไม่ตรงข้อเท็จจริง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี กมธ.ปราบทุจริตฯตรวจสอบพบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯมีคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มเติมอีกหนึ่งคดีในปี 2531 ว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ ร.อ.ธรรมนัสเดินทางเป็นคณะไปประเทศออสเตรเลีย และไปพักที่โรงแรม ปรากฏว่าผู้ที่ร่วมคณะไปด้วยกันที่พักอยู่ห้องข้างๆ ร.อ.ธรรมนัสถูกตำรวจค้นเจอยาเสพติดในห้องพัก ทำให้ ร.อ.ธรรมนัสมีความผิดไปด้วยตามกฎหมายออสเตรเลียในข้อหาไม่แจ้งเบาะแสยาเสพติดในฐานะเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ ร.อ.ธรรมนัส ติดคุกอยู่ 8 เดือน เมื่อพ้นโทษออกมาจะต้องถูกส่งตัวกลับประเทศไทย แต่ ร.อ.ธรรมนัสขออยู่ต่อ โดยวางเงินประกันไว้ แต่พอถึงเวลา ร.อ.ธรรมนัสกลับหนีจนถูกจับตัวได้ และส่งตัวกลับประเทศไทย จากนั้นพอปี 2536 ร.อ.ธรรมนัสเดินทางไปประเทศออสเตรเลียอีกครั้งจึงถูกทางการออสเตรเลียจับตามองเพราะมีประวัติอยู่ในที่สุดจึงถูกจับอีกครั้ง และติดคุก 4 ปี ตามกระบวนการพรีบาร์เกนนิ่ง ถ้าไม่เข้าสู่กระบวนการดังกล่าวอาจติดคุกนานกว่านั้น เท่ากับว่า ร.อ.ธรรมนัสติดคุกที่ออสเตรเลีย 2 ครั้ง แต่เวลาที่มาชี้แจงในสภาฯ ร.อ.ธรรมนัสพยายามโยงทั้งสองกรณีให้มาเป็นเรื่องเดียวกัน
มั่นใจข้อมูลมีน้ำหนักเชื่อถือได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.อ.ธรรมนัสระบุว่าช่วงปี 2531 ยังเรียนอยู่เป็น จปร.รุ่น 36 จะถูกจับได้อย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า เวลาอาจจะขาดๆ เกินๆ เล็กน้อย แต่ยืนยันได้ว่า ร.อ.ธรรมนัสติดคุกที่ออสเตรเลียจริง และข้อมูลดังกล่าวที่มีอดีตผู้สื่อข่าวแจ้งข้อมูลต่อ กมธ.เป็นข้อมูลที่มีน้ำหนักหนักแน่นเชื่อถือได้แน่นอน เพียงแต่ กมธ.จะต้องไปเอาหลักฐานเพิ่มเติมจากศาล อัยการ กรมราชทัณฑ์ของออสเตรเลียมาประกอบให้มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้ถ้า ร.อ.ธรรมนัสลาออกถือว่าจบ เพราะถือว่าขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีเนื่องจากเคยติดคุก เรื่องจะไม่ลามไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล แต่ถ้าปล่อยให้กระบวนการพิจารณาของกมธ.ดำเนินการไปจนแล้วเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ให้คนขัดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี
ย้ำ “ผู้กองมนัส” ไม่ได้เรียน ป.เอก
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัสระบุถูกหลอกลวงเรื่องวุฒิการศึกษาปริญญาเอก ปลอม เหมือนที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ตั้งข้อสังเกตเชื่อว่านายสมชัยคงไม่กล้าพูดตรงๆ แต่ในฐานะเป็นตำรวจดูแล้วเชื่อว่า ร.อ.ธรรมนัสเป็นตัวการ เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่ได้เรียนปริญญาเอก ไม่ได้ทำวิทยานิพนธ์จริงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด แต่กลับนำวุฒิปริญญาเอกมาแสดงต่อ กกต.และหาเสียงว่าจบ “ดร.” รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้เรียน แล้วอย่างนี้ไม่ใช่ ตัวการหรือ ส่วนปริญญาเอกมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่นำมาโชว์ ถ้าแปลตามตัวอักษรแล้วไม่ใช่ปริญญาเอก แต่เป็นเพียงใบรับรองว่าหลักฐานที่ผู้จบการศึกษาส่งไปเทียบเคียงเป็นปริญญาอะไรได้บ้าง
“บิ๊กตู่” ปลื้มสิงคโปร์ชื่นชม ปธ.อาเซียน
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องสีงาช้างตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้การต้อนรับนายเควิน ฉ็อก เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยม คารวะ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลไทย พร้อมสนับสนุนการทำงานของสิงคโปร์ทุกด้าน ฝากชื่นชมที่อดีตนายกฯสิงคโปร์ได้รับรางวัลรัฐบุรุษโลกประจำปี 2019 พร้อมขอบคุณสิงคโปร์ที่เป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทยมาตลอด เชิญชวนให้มาลงทุนในเขต EEC และเขตนวัตกรรม EECi รวมทั้งด้านการบิน EECA ขอให้หารือเพิ่มเติมแนวทางการร่วมมือกันต่อไป ด้านนายเควินกล่าวชื่นชมนายกฯในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน สิงคโปร์พร้อมทำงานกับไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อกระชับความร่วมมือทุกมิติ ยินดีแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลที่สิงคโปร์เชี่ยวชาญ รวมถึงสนับสนุนบทบาทไทยในฐานะประธานอาเซียน
งบฯปี 63 ไม่ผ่านเดือดร้อนทั้งประเทศ
ต่อมาเวลา 14.10 น. ที่ห้องมิราเคิล แกรนด์ บอลรูมเอ ชั้น 4 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีมอบนโยบายแก่สภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ต้อนรับและกล่าวรายงาน ก่อนเริ่มงานนายกฯได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานของสภาเกษตรกรแห่งชาติ 4 ภาค บริเวณหน้างาน จากนั้นนายกฯกล่าวมอบนโยบายว่า การทำงานต้องมีมิตรเพิ่ม แต่ศัตรูย่อมมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เพราะคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ แต่ในฐานะนายกฯต้องทำทุกอย่างให้คนทุกภาคส่วนอยู่ดีกินดี คนอ่อนแอต้องดูแลมากหน่อย แต่คงไม่ใช่เอางบฯทั้งหมดมาทุ่มในทางเดียวอย่างนั้นจะพังกันหมด ต้องใช้งบฯถูกวิธี ไม่เติมเลยทีเดียว วันนี้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ยังไม่ได้พิจารณา ต้องรอนำเข้าวาระพิจารณาภายในเดือน ต.ค.หวังว่าคงผ่าน ถ้าไม่ผ่านคนเดือดร้อนกันทั้งประเทศ เกษตรกรก็เดือดร้อน คงไม่ใช่ตนคนเดียว ต้องอาศัยความร่วมมือกัน
ฉุนถูกสร้างภาพนายกฯเลือกปฏิบัติ
นายกฯกล่าวว่า สำคัญที่สุดคือประชาชนตนก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง แต่เป็นนายกฯมีหน้าที่ความรับผิดชอบมากกว่าคนอื่น ต้องดูแลคนกว่า 67 ล้านคน ซึ่งมีความคิดที่แตกต่างกัน แต่ถ้าเรามีสภาฯ ผู้นำ การเมืองที่เข้มแข็ง รับรองประเทศไทยอีกไม่กี่ปี ต้องดีกว่านี้แน่ ถ้าเราทุกคนร่วมมือกับรัฐบาลทำให้บ้านเมืองปลอดภัย เจริญเข้มแข็ง อย่าสิ้นศรัทธา ถ้ามีศรัทธาสำเร็จทุกอย่าง ขอโทษที่พูดเร็วคิดอาจเข้าใจยาก และมีหลายคนไม่อยากจะเข้าใจ ไม่รู้เป็นใคร แปลกดี เดินมาด้วยกัน 5 ปี ปีนี้เริ่มต้นการเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง มีหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป ตนต้องปรับตัวเหมือนกัน และยังไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้นยังทำงานได้อยู่ ทุกอย่างเปลี่ยนไปทีเดียวไม่ได้ อย่างนั้นคำว่าชาติมันไม่เหลือ ทุกอย่างที่ตามมาล้มหมด การแก้ไขปัญหาต่างๆทุกอย่างจะโทษตนหมดก็ไม่ไหวเหมือนกัน ทำตรงนี้ แต่ตรงโน้นไม่รู้ กลายเป็นว่าไม่มีอะไรเลย เขาพยายามสร้างภาพตรงนี้อยู่ อย่าลืมว่าตรงนั้นเขาได้ แต่เราไม่ได้ แต่เดี๋ยวก็ได้เหมือนกัน เพราะถ้าทำทีเดียวก็ไม่มีเงิน ต้องทยอยดำเนินการ อะไรเป็นโครงสร้างดำเนินการไปก่อน
ก่อนตายอยากเห็น ปชช.รักชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายนายกฯชี้ไปยังนายประพัฒน์ที่เคยร่วมในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 และได้รับฉายา “ไอ้ก้านยาว” พร้อมพูดว่า “พี่ประพัฒน์ ทำให้ผมออกนอกโรงเรียนไม่ได้ เพราะเขาประท้วงกันอยู่บนถนน จำได้ว่าถือไม้ก้านยาวอยู่ ตอนนั้นผมเรียนนายร้อยปี 3 แต่ลืมไปหมดแล้ว อย่าให้เกิดขึ้นอีกเลย เราควรช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศให้มีความสงบสุข มั่นคง สันติ อย่าไปเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง กับสิ่งที่มีคนพยายามทำให้ไม่เกิดประโยชน์กับเรา ต้องแก้ปัญหาที่ใกล้ตัว ปัญหาไกลตัวก็เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใช่ปัดปัญหาไปมาแล้วก็โกรธ ทำให้ไม่ได้แก้ปัญหาตัวเอง นี่คือสิ่งที่เป็นอันตราย ถ้ารักกันแบบนี้ประเทศเดินหน้าไปได้ ขอให้ประชาชนรักตัวเอง รักครอบครัว รักสังคม รักประเทศชาติ นี่คือสิ่งที่หวังก่อนตายขอทำหน้าที่นี้เท่านั้นเอง นั่นคือหัวใจของอดีตชายชาติทหาร 40 ปีในชีวิตข้าราชการทหารไม่เคยลืมความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาเป็นนายกฯมีคำว่าประชาชนเพิ่มมา
“เทวัญ” โยนแก้ รธน.ไปพูดในสภาฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณี 7 พรรคฝ่ายค้านเดินสายรณรงค์ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้รัฐบาลเป็นผู้ถือธงนำว่า ในส่วนของพรรคชาติพัฒนาหากเสียงส่วนใหญ่เอาอย่างไรเอาอย่างนั้น แต่ในพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ได้หารือกันอย่างเป็นทางการ เพียงแต่มีการพูดคุยกันเป็นการภายในจะเป็นอย่างไรยังไม่รู้ รวมถึงวิปรัฐบาลยังไม่ได้หารือกัน ขณะนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ คาดว่าสัปดาห์หน้าหากมีการหยิบยกขึ้นมาจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป เรื่องนี้ไม่มีผลกระทบอะไรกับรัฐบาล เพราะรัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหาให้ประชาชนเรื่องเศรษฐกิจอยู่ ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ไปพูดกันในสภาฯ
โบ้ยร่าง พ.ร.บ.งบไม่ได้ช้าที่ ครม.
นายเทวัญกล่าวถึงการหารือของวิปรัฐบาล เรื่องร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ที่จะมีการเปิด ประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ วันที่ 17 ต.ค.ว่า อยู่ระหว่างหารือกับพรรคฝ่ายค้านเรื่องเวลาอภิปรายว่าจะใช้กี่วัน อาจได้ข้อสรุปว่าเป็นวันที่ 17-18 ต.ค. หรือวันที่ 17-19 ต.ค.ต้องขอคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล หารือในวิปรัฐบาลและคุยกับวิปฝ่ายค้าน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์นี้ อย่างช้าภายในสัปดาห์หน้า ตอนนี้ได้เวลาที่เหมาะสมคงเป็น 2 วัน แต่ฝ่ายค้านอาจขอเพิ่มเติม ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณจะแจกจ่ายให้ฝ่ายค้าน หรือ ส.ส.ได้ช่วงก่อนการประชุมอีกสักระยะคิดว่าคงไม่ช้า สมาชิกทุกท่านคงอยากศึกษารายละเอียดร่าง พ.ร.บ.งบฯเป็นหน้าที่สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ต้องทำส่งไปยังสภาฯเพื่อแจกจ่าย ที่ฝ่ายค้านอยากได้ไปศึกษาก่อน บางทีงบประมาณมันเยอะต้องรอเวลานิดนึง แต่ความจริงไม่ได้ช้าที่ ครม.ติดอยู่ที่สำนักงบประมาณ ถ้าทำเสร็จจะส่งมาให้เรา เมื่อถามว่าพิมพ์เขียวดังกล่าวจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ภายในวันที่ 8 ต.ค.หรือไม่ นายเทวัญกล่าวว่าเห็นว่ามีวาระการพิจารณาดังกล่าวในที่ประชุมอยู่
พท.ไม่แปลกใจ “บิ๊กตู่” เมินแก้ รธน.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายกฯไม่ตอบรับข้อเสนอพรรคฝ่ายค้านถือธงนำการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า นายกฯเรียกร้องให้ทุกฝ่ายพิทักษ์รัฐธรรมนูญทั้งที่เป็นคนฉีกรัฐธรรมนูญฉบับก่อนหน้านี้ด้วยตัวเอง ยังไม่มีคำตอบว่าจะรับผิดชอบอย่างไร การตำหนิฝ่ายเรียกร้องให้ดูตัวอย่างประเทศที่เจริญแล้วใช้สติปัญญาแก้ปัญหาทุกเรื่องไม่ใช่ชวนแต่แก้ไขกฎหมาย ประชาชนคิดได้ว่าประเทศเจริญแล้วคงไม่ทำรัฐประหารมากขนาดนี้ ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การแก้กฎหมาย แต่คือการทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ นี่คือสิ่งบ่งชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์มีทัศนคติอย่างไร พูดและทำแต่เรื่องที่ตัวเองได้ประโยชน์เท่านั้นหรือไม่ จึงไม่แปลกที่แม้วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในนโยบายเร่งด่วนที่แถลงต่อรัฐสภาแล้วจะเบี้ยว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์คือผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แล้วพรรคที่มีนโยบายหลักในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างพรรคประชาธิปัตย์จะอยู่ในรัฐบาลอย่างไร จะเผชิญแรงกดดันนี้อย่างไร
“คึก” เข้าใจ “บิ๊กตู่” ไม่อยากลบด้วยเท้า
ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนชัดเจนแต่ต้นไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ไม่มีความเป็นประชาธิปไตยเพียงพอ มีจุดอ่อนต้องแก้อีกหลายจุด เป้าหมายพรรคชัดเจนต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ ผลจะออกมาอย่างไรเป็นเรื่องอนาคต เชื่อว่าเมื่อถึงตอนนั้นนายกฯจะเห็นข้อบกพร่อง อาจเปลี่ยนใจแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ได้ ต้องเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หาก พล.อ.ประยุทธ์ออกมาเป็นผู้นำแก้ไขรัฐธรรมนูญของตัวเองเหมือนเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า จึงไม่ติดใจท่าทีบทบาทนายกฯ สิ่งที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กังวลไม่ต้องกังวล พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรค การเมืองมาได้ 73 ปี มีจุดยืนอุดมการณ์ประชาธิปไตยและรักษาคำพูดตามคำขวัญของพรรคคือ สัจจังเว อมตวาจา ไม่ต้องห่วงเรา อยากให้ไปห่วงพรรคอนาคตใหม่ มากกว่าเพราะจะรอดปีนี้หรือไม่ก็ไม่ทราบ
“ธนกร” สับ “ช่อ” โทสาคติพูดไปเรื่อย
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิชโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้ 2 จากคะแนนเต็ม 100 ต่อมาตรการชิม ช้อป ใช้ และเชื่อว่าไม่กระตุ้นเศรษฐกิจว่ารู้สึกผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับพฤติกรรมของโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่ตรงข้อเท็จจริงมีโทสาคติพูดไปเรื่อย ไม่ทราบว่าใช้ส่วนไหนคิดมาตรการดังกล่าวกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมท่องเที่ยว ประชาชนได้ประโยชน์ออกมาใช้จ่ายกันอย่างคึกคักจนมีการเรียกร้องให้เปิดเฟส 2 ด้วยซ้ำ เป้าหมายกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเน้นไปที่เศรษฐกิจฐานราก อีกส่วนหนึ่งเงินหมุนไปเป็นค่าแรงคนงาน จึงเกิดการกระตุ้นการบริโภค ก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนและส่งผลด้านจิตวิทยา จับจ่ายใช้สอยคึกคัก โดยเฉพาะร้านค้าท้องถิ่น ไม่มีการเอื้อนายทุน มีการใช้จ่ายในร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีหลายสาขาเพียงร้อยละ 22 ของทั้งหมดเท่านั้น
หยัน “ชิมช้อปใช้”สะท้อน ศก.ซบหนัก
ที่พรรคอนาคตใหม่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและ ผอ.ด้านนโยบายพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงโครงการ ชิมช้อปใช้ว่าต้องรอให้ประเมินผลโครงการก่อนหากรัฐบาลจะต่อเฟส 2 ยังเร็วไปที่จะบอกว่าประสบความสำเร็จ รัฐบาลตั้งเป้าชัดก่อนว่านี่คือการกระตุ้นการท่องเที่ยวหรือกระตุ้นการใช้จ่าย จะกระตุ้นไปที่ใครให้เศรษฐกิจโตแค่ไหน ระหว่างนี้ควรนำงบฯที่มีจำกัดไปทำอย่างอื่นที่สำคัญกว่า เพราะ พ.ร.บ.งบฯที่ล่าช้า ทำให้งบกลาง รายการรายจ่ายสำรองฉุกเฉินที่รัฐบาลนำมาใช้ได้เพียง 46,000ล้านบาท การที่ประชาชนให้ความสนใจโครงการนี้จำนวนมาก สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาเดิมจูงใจให้คนเอาเงินออมออกไปเที่ยวในต่างจังหวัดหวังกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศที่ซบเซา แต่พอโครงการเกิดขึ้นจริงกลับกลายเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายบริโภคทั่วไป รัฐบาลอาจคาดหวังกับโครงการนี้สูงเกินไป สำนักงานเศรษฐกิจการคลังคาดว่าโครงการนี้ จะดันเศรษฐกิจให้โตได้ 0.2-0.3% แต่นักวิชาการหลายสำนักคาดการว่าจะเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจแค่ 0.01-0.02% เท่านั้น
เตือน รบ.จัดลำดับสำคัญใช้งบฯให้ดี
น.ส.ศิริกัญญากล่าวอีกว่า การใช้จ่ายน้อยกว่าที่รัฐบาลคาดหวังไว้อาจเกิดจากกระบวนการยุ่งยาก อาจกีดกันคนจำนวนหนึ่งไม่ให้เข้าถึงสิทธิได้ เช่น ผู้มีรายได้น้อยหรือผู้สูงอายุ ขั้นตอนการใช้เงินมีปัญหาหลายกรณี เช่น ไม่สามารถจ่ายเงินได้ จ่ายเงินแล้วเงินไม่โอนเข้าร้านค้าทันที หมายความว่ารัฐบาลไม่มีการเตรียมความพร้อมให้ข้อมูลการเข้าร่วมโครงการแก่ร้านค้าดีพอ พรรคอยากตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่าควรจัดลำดับความสำคัญการใช้งบประมาณที่มีจำกัดเนื่องจากร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 63 ยังไม่ผ่าน ขณะที่น้ำท่วมต้องการงบฯฟื้นฟู เกษตรกรรอรับการเยียวยา ครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวนมากไม่สามารถต่อสัญญาเข้าทำงานได้ รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากกว่ากัน
“เรืองไกร” ยื่น “ชวน” งบฯ 63ผิดรธน.
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อท้วงติงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท มีปัญหาไม่ทำตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ นายเรืองไกรกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2563ที่จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญวันที่ 17 ต.ค.ไม่ทำตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ เพราะร่าง พ.ร.บ.งบฯดังกล่าวจัดทำขึ้นก่อนการแถลงนโยบายรัฐบาล ผอ.สำนักงบประมาณลงนามเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2562 และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯลงนามเห็นชอบวันที่ 26 ก.ค.2562 แต่การแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จสิ้นวันที่ 27 ก.ค. ดังนั้น คำของบฯของหน่วยงานต่างๆจึงไม่ได้ทำขึ้นใหม่ แต่นำคำของบฯต่อรัฐบาลชุดก่อนมาปรับปรุงตัวเลขพอเป็นพิธี และยังพบว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ที่สำนักงบประมาณจัดทำไว้วันที่ 7 ม.ค.2562 ระบุไว้ที่ 18.36 ล้านล้านบาท ต่อมาวันที่ 2 ก.ย.2562 ปรับลดจีดีพีเหลืออยู่ที่ 17.83 ล้านล้านบาท แต่ปรากฏว่าวงเงินงบฯปี 2563 ยังอยู่เท่าเดิมคือ 3.2 ล้านล้านบาท ไม่ได้ถูกปรับลดลงไปด้วยทั้งที่จีดีพีถูกปรับลดลง
“ปลอด” ชี้ พท.ไม่มอง “ชัชชาติ” เป็นศัตรู
ส่วนกรณีที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ยอมรับเตรียมจะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ เมื่อเวลา 11.00 น. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ดีใจที่นายชัชชาติตั้งใจลงแข่งชิงผู้ว่าฯ กทม. เพราะเป็นคนดีตั้งใจทำประโยชน์เพื่อชาว กทม. พรรคเพื่อไทยจะไม่มีวันที่จะมองนายชัชชาติเป็นศัตรู เพราะให้เกียรติร่วมงานกับพรรคมาโดยตลอด ถ้าสมมติพรรคมีคนที่ดีเสมอหรือดีกว่านายชัชชาติพร้อมส่งลงชิงตำแหน่ง หากนายชัชชาติได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. เชื่อว่าจะยินดีนำแนวทางของพรรคเพื่อไทยไปพัฒนากรุงเทพฯ เหตุผลการตัดสินใจของนายชัชชาติที่จะไม่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยไม่ทราบ เป็นเหตุผลส่วนตัวของนายชัชชาติ ขณะที่แคนดิเดตของพรรคที่จะส่งลงชิงผู้ว่าฯ กทม. ยังไม่ทราบตอนนี้ยังไม่ได้เปิดรับสมัครภายใน
ภาค กทม.ยันต้องมีผู้สมัครของพรรค
นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภาค กทม.ยังไม่ได้หารือกัน อย่างเป็นทางการ แต่ได้พูดคุยกันนอกรอบ เพราะต้องทำความเห็นเสนอกรรมการบริหารพรรคเพื่อ ตัดสินใจ ส่วนใหญ่เห็นว่าพรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันมีหน้าที่รับผิดชอบต่อประชาชน เราควรยืนยันหาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ลงในนามพรรคเพื่อไทย เพราะเรามีนโยบายแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนชาวกรุงเทพฯอยู่ คงไม่ปล่อยสนามเลือกตั้งนี้ไป
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน โพสต์เฟซบุ๊ก “หนึ่งเสียงจากใจ...ให้ชัชชาติ” เนื้อหาสรุปว่า “เข้าใจ เห็นใจและเสียดาย” แต่ถ้าคิดว่าการทำงานการเมืองในทางอุดมคติคือการก่อประโยชน์สูงสุดให้ชาติบ้านเมือง การตัดสินใจครั้งนี้ “ถูกจังหวะ ถูกที่ ถูกเวลา” ในภาวะที่กรุงเทพฯมีปัญหาสั่งสม หยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย ได้เวลาของกรุงเทพฯต้องดีขึ้นกว่าเดิม 1 เสียงของตนมอบให้นายชัชชาติจากใจ
“ธนาธร” ลุยบึงกาฬชูปฏิรูปราชการ
ที่ จ.บึงกาฬ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่และพบปะทีมผู้สมัครองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพรรค นายธนาธรกล่าวว่า ศักยภาพของพรรคยังจำกัดจะส่งผู้สมัครชิงนายก อบจ.ประมาณ 20 จังหวัด จึงเลือก จ.บึงกาฬ นำร่อง เน้นแก้ปัญหาความสัมพันธ์การบริหารระหว่างท้องถิ่นกับส่วนกลาง กฎกติกา นโยบาย การออกแบบทุกอย่างถูกส่งมาจากกรุงเทพฯ ทำให้เหลื่อมล้ำมหาศาล โครงการต่างจังหวัดไม่ได้รับการสนับสนุนเอาใจใส่เพียงพอ ภาษีถูกเอาไปรวมกันที่กรุงเทพฯแล้วปล่อยให้รัฐราชการที่ไม่รู้ความต้องการของประชาชนเป็นคนตัดสินใจ ต้องปฏิรูประบบราชการเอาอำนาจคืนอำนาจให้ประชาชน