เว็บไซต์ Airvisual ทำหน้าที่ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศทั่วโลก ก่อนหน้าที่จะเป็นข่าวครึกโครมในตอนนี้ด้วยซ้ำ แจ้งเตือนว่า ประเทศไทย ติด 1 ใน 10 ของ คุณภาพอากาศที่อยู่ในเกณฑ์กระทบต่อสุขภาพ ตอนนั้นอยู่ที่ระดับ 6 รองจาก อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย ที่ได้รับผลกระทบจาก ไฟป่าในอินโดนีเซีย แต่รัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบยังนิ่ง อ้างเป็นเรื่องของธรรมชาติเกิดจากความกดอากาศต่ำ

วันนี้ที่เป็นเรื่องใหญ่ก็เพราะ คุณภาพอากาศใน กทม. ขยับขึ้นมาเป็น อันดับ 2 ของโลก ก็ยังมีคำตอบจากภาครัฐเดิมๆ คือ เป็นเพราะเรื่องของความกดอากาศ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้สื่อออนไลน์โพสต์ข้อความเป็นห่วงประชาชน สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข และแถมท้ายว่า เลิกใช้น้ำมันดีเซล เลยดีไหม

พูดง่ายแต่ทำยาก

คุณภาพอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สูงที่สุดที่ กรุงฮานอย เมืองหลวงของ เวียดนาม อยู่ที่ 275 AQI ใน กทม.เขตทวีวัฒนา สูงที่สุด 204 บางนา, พระโขนง 199 ตลิ่งชัน 198 สายไหม 196 มีผลต่อสุขภาพประชาชนแน่นอนโดยเฉพาะถ้า ดัชนีคุณภาพอากาศ ถึง 201 ต้องงดกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อหลีกเลี่ยงมลพิษในอากาศ

ส่วน ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ใน กทม. อยู่ที่ 108 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่เริ่มจะมีผลกระทบต่อสุขภาพเช่นกัน ต้องยอมรับว่าการเกิดฝุ่นละอองพิษในอากาศเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงเพราะการใช้ยวดยานพาหนะที่เพิ่มมากขึ้น การแออัด ของเมือง ของการจราจร การไม่เข้มงวดต่อรถยนต์ที่ปล่อยควันดำ

...

บ้านเราไม่มีมาตรฐานเลย มีเรื่องทีเข้มงวดกันที การก่อสร้างรถไฟฟ้า คอนโด เต็มทุกพื้นที่ แต่ไม่มีการเตรียมการป้องกัน ไม่มีการแจ้งเตือนและคำแนะนำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานคุณภาพชีวิตของคนไทยต่ำมาก

รัฐบาลอาจจะภูมิใจมีคนสนใจนโยบายลดแลกแจกแถมมากมาย เช่น นโยบาย ชิมช้อปใช้ แต่วัตถุประสงค์เพื่ออะไร ถ้าจะบอกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า ก็ต้องตอบคำถามว่า คนส่วนใหญ่ที่ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ เป็นใครใช่คนรากหญ้าหรือไม่ นโยบายที่จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเมืองรอง ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นว่าจะเอาเงิน 1,000 บาท ที่ได้รับมาฟรีๆไปซื้ออะไรก็ได้

คนก็เลยแห่ไปซื้อของในห้างสะดวกซื้อ ห้างขายปลีก ขายส่งกันหมด แล้วเมืองรองได้อะไร แล้วธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมได้อะไร คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้นหรือไม่

นอกจากเอาเงินงบประมาณไปกระตุ้นธุรกิจทุนผูกขาด

โดยอาศัยช่องทางผ่านมือประชาชน รวบรัดชัดเจน ไร้รอยต่อ ไม่พ้นข้อครหาอุ้มคนรวยไม่ช่วยคนจน คิดเล่นๆโครงการประชารัฐที่ทุ่มงบประมาณลงไปมหาศาลแต่ชาวบ้านยิ่งจนลงทุกที ผิดกับทุนผูกขาด

ติดอันดับความร่ำรวยเสมอต้นเสมอปลาย.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th