มท.1 คาดภายใน 2-4 วันนี้ พื้นที่น้ำท่วมอุบลฯ จะเข้าสู่ภาวะปกติ เตรียมการฟื้นฟู สำรวจ และจ่ายเงินเยียวยาครอบครัวละ 5,000 บาท ให้เสร็จภายในเดือนตุลาคม

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นทั้งหมด 32 จังหวัด ว่า ขณะนี้เหลือเพียง จ.อุบลราชธานี จังหวัดเดียวในพื้นที่ อ.วารินชำราบ และ อ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งยังมีประชาชนที่อยู่ในพื้นที่พักพิง 23 จุด จำนวน 1 พันกว่าครอบครัว 3 พันกว่าคน และมีแนวโน้มลดลง โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายใน 2-4 วันนี้พื้นที่ จ.อุบลราชธานี จะเข้าสู่ภาวะปกติทั้งหมด

ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่อื่นๆ อยู่ในขั้นเตรียมการฟื้นฟู และมีการฟื้นฟูไปแล้วบางส่วน จากนี้จะมีการสำรวจเพื่อจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ประสบภัย ซึ่งการสำรวจจะต้องมีการทำประชาคมให้ประชาชนรับรองกันเอง เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเป็นผู้เสียหายและได้รับผลกระทบจริง เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น และจะมีคณะกรรมการระดับอำเภอ ระดับจังหวัด เป็นผู้ดำเนินการสำรวจ สำหรับเรื่องการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยที่มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 410,000 ครอบครัว ตรวจสอบแล้วมีบ้านเรือนเสียหายประมาณ 20,000 หลัง และเสียหายทั้งหลัง 86 หลัง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการซ่อมแซมบ้างแล้ว โดยมีองค์กรปกครองส่วนส่วนท้องถิ่นร่วมกับจิตอาสาเข้าไปช่วยซ่อมแซม และอีกส่วนจากหน่วยทหาร ตำรวจ รวมถึงอาชีวศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการเข้าไปช่วย

ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ระบุว่า รัฐบาลมีโครงการที่จะลงไปในพื้นที่และมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นครอบครัวละ 5,000 บาท โดยขณะนี้เงินได้สั่งจ่ายไปแล้ว ยืนยันว่าทุกอย่างจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนตัวอยากให้เสร็จภายในเดือนตุลาคม 2562 ทั้งหมด ทั้งการสำรวจและการจ่ายเงิน ขณะที่เงินอีกจำนวนหนึ่งจะมอบให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสบอุทกภัย แห่งละ 5 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินการช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาทั้งหมดอยู่ในวงเงิน 7,000 ล้านบาท

...

ทางด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้จะรายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงผลสรุปมาตรการเยียวยาฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย เบื้องต้นจากการสำรวจมีจำนวน 418,480 ครัวเรือน ยังไม่รวมในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ยโสธร เนื่องจากยังมีน้ำท่วมขังและยังไม่ได้มีการสำรวจความเสียหาย ขณะเดียวกัน มาตรการเยียวยาของกระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อครัวเรือน โดยใช้งบประมาณกว่า 7,500 ล้านบาท ทางนี้ก็จะดำเนินการติดชื่อผู้ได้รับความเสียหายที่หมู่บ้าน เพื่อใช้ประชาคมหมู่บ้านในการตรวจสอบว่าได้รับความเสียหายจริงหรือไม่ และขั้นตอนนี้ดำเนินการโดยเร่งด่วน.