ตีปี๊บ เชิดฉิ่ง โหมโรง ราวกับศึกเดิมพันเลือกตั้งใหญ่ ทั้งๆที่มันก็แค่ศึกชิง “หนึ่งแต้ม” ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐม เขต 5 แทนคนของพรรคอนาคตใหม่ที่ไขก๊อกออกไปเพราะมีปัญหาสุขภาพจากการประสบอุบัติเหตุ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนฯได้
แน่นอนตามรูปมวย แชมป์เก่าย่อมเป็นต่อเพราะชนะมา
และนั่นก็อ่านไต๋กันง่ายๆ กับลีลาของ “ไพร่ห้าพันล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เริ่มนำทีมหางเครื่องสตาร์ตออกตัวหาเสียงก่อนใคร
ในเหลี่ยมเคลม “แต้มต่อ” ปั่นเดิมพันเลือกตั้งซ่อมนครปฐม เป็น “โดมิโน” พลิกขั้วรัฐบาล
ส่งไม้รับมุกกับทีมงาน “นายใหญ่” ดูไบ ที่กระพือข่าว ป่าวประกาศ การเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดนครปฐมจะเป็นการชี้วัดคะแนนนิยมระหว่างรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่นำโดยทีมเพื่อไทยกับค่ายอนาคตใหม่
สะท้อนอาการฮึกเหิมของฝ่ายที่ถือไพ่ได้เปรียบ
แต่สังเกตว่า ยี่ห้ออนาคตใหม่ เพื่อไทย ทีมงานฝ่ายค้าน ไม่ได้โวยวายปม “ฮั้ว” เลือกตั้ง ตามฟอร์มของฝั่งตรงข้ามรัฐบาลจะดักคอตีกัน นั่นก็เพราะนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส่งสัญญาณก่อนใคร “เต็มใจ” หลบทางให้พรรคอนาคตใหม่
“ธนาธร” กับทีมดูไบ ผูกมือมัดข้าวต้มกันแน่นไม่ให้เสียงแตก
ตรงกันข้ามกับทีมรัฐบาลที่ “ฮั้วแตก” ในเหลี่ยมเขี้ยวที่พรรคประชาธิปัตย์ชิงเคลมเป็นเจ้าของสิทธิ์เพราะผู้สมัครของพรรคได้คะแนนลำดับ 2 ในการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา พรรคร่วมรัฐบาลจึงต้องหลีกทางให้
...
ใช้วาทกรรม “มารยาททางการเมือง” กลบคำว่า “ฮั้ว” แบบเนียนๆ
แต่ในวงการเซียนเลือกตั้งอาชีพด้วยกัน บางทีมันก็มีเงื่อนไขมากกว่าการเดิมพันแต้มรัฐบาล อารมณ์แบบที่ “เดอะท็อป” นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ หัวแถวพรรคชาติไทยพัฒนา ยืนกรานเสียงแข็ง พรรคต้องส่งนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ลงสมัครแก้ตัวนัดล้างตา
กู้ศักดิ์ศรี “บ้านใหญ่” นครปฐม ชิงพื้นที่ยืนตระกูล “สะสมทรัพย์”
รอบที่แล้วประมาท ประเมินยี่ห้อ “อนาคตใหม่” ต่ำไป รอบนี้นายเผดิมชัยพร้อมใส่หมดหน้าตัก
เรื่องของเรื่องมันก็แค่ “หนึ่งแต้ม” ไม่ได้เดิมพันพลิกคว่ำพลิกหงายแบบที่โหมโรง
ปั่นกระแสกัน ในส่วนของรัฐบาลถึงแพ้ก็เท่าทุน เพราะมันเป็นคะแนนเดิมของฝ่ายค้าน
เพียงแต่มันจะเป็น “กำไร” ของยี่ห้อประชาธิปัตย์ หากพลิกได้แต้มเพิ่มในการเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐม ในอารมณ์ของพรรคตัวแปรที่จับมือค่ายภูมิใจไทย “ขี่คอ” พล.อ.ประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐ
ก็จะยิ่งได้เหลี่ยมกดดันต่อรองหนักขึ้นไปอีก
บวกลบคูณหาร โดยเงื่อนไขสถานการณ์ “หนึ่งแต้ม” บวกของ ปชป.จะส่งผลลบกับ “บิ๊กตู่” มากกว่า
เว้นแต่จะเป็น “หนึ่งแต้มบวก” ของพรรคชาติไทยพัฒนา นั่นจะทำให้พรรค “ต่ำเอี่ยว” ที่กำลังแท็กทีม เล่นบทเฮี้ยวรวมหัวไล่บี้ทวงโควตารัฐมนตรี โดยเทียบกับพรรคชาติไทยพัฒนาที่มีเศษ 3 เก้าอี้จากอัตราส่วน 1 ต่อ 7 ถ้าชาติไทยพัฒนาได้แต้มเพิ่มจะกลายเป็นเศษ 4 จบข่าวโควตารัฐมนตรี
นี่คือเดิมพันระหว่างอนาคตใหม่ ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา
แน่นอน วงการพนันต่อรอง ต้องวาง “เต็ง” พรรคสีส้มเป็นต่อเกือบช่วงตัว ประกอบกับความเหนือชั้น ในเหลี่ยมโคตรเซียนการตลาดยุคมโนโซเชียลมีเดีย นายธนาธรรีบตีปี๊บโหมโรงเป็นสงคราม “โดมิโน” เดิมพันพลิกขั้วรัฐบาล
เร้าสถานการณ์หมั่นไส้ “บิ๊กตู่” ต้องการเปลี่ยนนายกฯ
โดยไม่ได้มองลึกในรายละเอียด การพลิกขั้วรัฐบาลไม่ได้ทำกันง่ายๆ อาศัยแค่ ส.ส. 1-2 เสียง
แต่ในมุมตรงกันข้าม กับวิบากกรรมที่จ่อคอหอย “ไพร่ห้าพันล้าน” สถานการณ์ชะตากรรมพรรคอนาคตใหม่ที่จ่ออยู่ปากเหวจากปมกู้เงินส่วนตัวของ “ธนาธร” กว่า 191 ล้านในการเลือกตั้งที่ผ่านมา
อาการร้อนๆหนาวๆแบบที่ทีมฝ่ายค้านต้องปล่อยข่าวดักคอ ดักทาง ตีกันฝ่ายคุมเกมอำนาจไม่กล้า “ยุบพรรค” อนาคตใหม่ เพราะแหยงแรงสะท้อนกลับต่างๆนานา
โดยลืมไปว่า อำนาจมันอยู่ที่ศาล กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย
มันเป็นอะไรที่เห็นตัวอย่างมาแล้ว จากพรรคไทยรักไทยถึงพรรคพลังประชาชน พลังอำนาจ “ทักษิณ” มากมายมหาศาลกว่า “ธนาธร” หลายเท่านัก ยังโดนหัก ล้มกระดาน 2-3 ช็อตติดๆกัน
ไม่มีอำนาจใดจะทลาย “ขื่อแป” ของบ้านเมือง
ตามท้องเรื่อง มันก็เข้าเหลี่ยมที่คู่แข่งในสนามจะหยิบเอามาเบิ้ลตัดแต้มต่อทีมสีส้ม ตอกย้ำชะตากรรมพรรคอนาคตใหม่เสี่ยงย่ำตามรอยยี่ห้อไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน
กระตุกคนที่ไม่อยากเลือก ส.ส.ไปเสี่ยง “เสียของ”.
ทีมข่าวการเมือง