วัดอุณหภูมิการเมือง

ประเดิมเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตพื้นที่นัดแรกของสมาชิกสภาผู้แทนฯที่เขต 5 นครปฐม ซึ่งล่าสุด กกต.ได้ประกาศวันรับสมัครวันที่ 30 ก.ย.-4 ต.ค.62 กำหนดวันกาบัตร 23 ต.ค.62

เหตุมาจากนางจุมพิตา จันทรขจร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้ประกาศลาออกจาก ส.ส. เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ เพราะนับแต่เริ่มประชุมสภานัดแรกยังไม่เคยปรากฏตัวที่สภาแต่อย่างใด

จึงไม่มีเหตุจำเป็นอย่างอื่นนอกจากเลือกซ่อมกันใหม่

เท่าที่ประเมินล่าสุด ปรากฏว่ามี 3 พรรคการเมือง คือ อนาคตใหม่ ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา ที่ประสงค์จะส่งผู้สมัคร

อีก 2 พรรคใหญ่บายไม่ส่งผู้สมัคร คือเพื่อไทยเปิดทางให้อนาคตใหม่ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน พลังประชารัฐก็เปิดทางให้ประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน

นอกจากจะเป็นเรื่องของไมตรีจิตแล้วยังเป็นการที่จะไม่ต้องมาห้ำหั่นกันเอง หมายถึงตัดคะแนนฝ่ายเดียวกัน

“อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งขัน แม้จะเป็นพรรคใหญ่บอกว่า “เป็นเรื่องของมารยาท”

ดังนั้น ทุกเสียงจึงมีผลต่อความเป็นไปทางการเมืองในเรื่องเสียงสนับสนุนทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลมีเสียงก้ำกึ่งกันมาคือเสียง
ปริ่มน้ำ

ทุกเสียงมีความสำคัญต่อ “ฝ่ามือ” ในสภาอย่างแยกไม่ออก

เผอิญที่ว่าชาติไทยพัฒนานั้นต้องการที่รักษาพื้นที่เดิม เพราะเคยได้ ส.ส.เขตนี้มาก่อนในอดีต แต่มาแพ้ให้กับอนาคตใหม่ เมื่อการเลือกตั้งที่ผ่านมา

“เผดิมชัย สะสมทรัพย์” อดีต ส.ส.และอดีตรัฐมนตรีที่ถอนสมอจากเพื่อไทยมาลงสังกัดใหม่ คือชาติไทยพัฒนา

...

ว่าไปแล้วนายเผดิมชัยยืนระยะการเป็น ส.ส.ในพื้นที่นี้ มาตลอดไม่ว่าจะสังกัดพรรคไหนก็ตาม เมื่อมาพ่ายแพ้ผู้สมัคร
อนาคตใหม่ถึงกับ “มึนงง” เลยทีเดียว

เพราะเคยทำงานการเมืองร่วมกันมาในสังกัดเดียวกันมาก่อนในฐานะทีมงาน แต่จู่ๆมาลงสมัครแข่งกัน

ที่สำคัญก็คือชนะ “ลูกพี่เก่า” ก็เลยพูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปเหมือนกัน

เหตุผลที่ชาติไทยพัฒนาจำเป็นที่จะส่งผู้สมัครก็คงมาด้วยปัจจัย 2 ประการ อย่างที่ว่ามานั่นแหละ ไม่มีเหตุผลอย่างอื่น

“สุรชัย อนุตธโต” อดีตผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์เขต 5 นครปฐม แต่คะแนนมาอันดับ 2 จึงสอบตก พรรคจึงตัดสินใจส่งเป็นผู้สมัครในนามพรรค

“ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร” สามีของนางจุมพิตา พรรคอนาคตใหม่ให้เป็นตัวแทนพรรคลงชิงชัยในสนามแห่งนี้

การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 นครปฐมครั้งนี้น่าจะมีความเป็นไปได้ว่าคงจะสู้กันอย่างเต็มที่ด้วยปัจจัยและวัตถุประสงค์หลักที่ต่างกัน ไม่ใช่แค่เรื่องได้ ส.ส.เพิ่มเพียงอย่างเดียว

ต้องไม่ลืมว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมานั้น มีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นองค์ประกอบจนทำให้ผลการเลือกตั้งเกิดความเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

“อนาคตใหม่” เป็นตัวแปรสำคัญอย่างชัดเจน

คือมีกระแสสนับสนุนด้วยคลื่นลูกใหม่และการที่พรรคไทยรักษาชาติต้องถูกยุบพรรคและเพื่อไทยไม่ได้ส่งผู้สมัคร คะแนนสนับสนุนจึงเทไปสู่อนาคตใหม่โดยปริยาย

แม้จะเป็นแค่การเลือกตั้งซ่อม ผลการเลือกตั้งที่จะออกมาจึงน่าสนใจยิ่ง คงไม่ต่างไปจากการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน

พอจะวัดกระแสความนิยมเบื้องต้นที่น่าสนใจยิ่ง.

“สายล่อฟ้า”