"วิษณุ" ปัดตอบ ปม "ธนาธร" ให้อนาคตใหม่กู้เงิน ระบุ อยู่ระหว่างการวินิจฉัย กกต. ไม่ก้าวล่วง หวั่น ถูกด่าชี้นำ บอกเป็นนัย กฎหมายไม่ได้ระบุเรื่องเงินกู้ หากผลออกเป็นร้าย ต้องยกประโยชน์ให้
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้เงินกู้กับพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท ตามหลักกฎหมายสามารถทำได้หรือไม่ ว่า เรื่องนี้ตนไม่ตอบ เพราะขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง กำลังพิจารณาเรื่องดังกล่าวอยู่ หากตนพูดตอนนี้ก็จะเป็นการชี้นำสมกับที่เขามาด่าตน
เมื่อถามว่า กฎหมายไม่ได้ระบุเรื่องการให้พรรคการเมืองกู้ยืมเงิน นายวิษณุ กล่าวย้ำว่า ตนไม่ขอตอบ และเรื่องนี้ กกต.ต้องสืบพยานให้รู้แน่ชัดว่า คืออะไร โดยดุลยพินิจไม่ได้หมายความว่า จะซ้าย หรือขวาก็ได้ แต่ต้องเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ตนไม่รู้ว่า จะเป็นอย่างไหน ซึ่งอาจไม่มีความผิดก็ได้ ส่วนที่ผ่านมามีพรรคการเมืองไปกู้เงินมาใช้จ่ายหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจ และไม่ทราบ เพียงแต่ในสมัยก่อนหากมีถือว่า ไม่มีความผิด เพราะการเงินของพรรคไม่ค่อยรัดกุมเท่ากับในสมัยหลังนี้
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ มองว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีความผิด เพราะให้ข้อมูลกับกกต.ไปแล้ว ว่า รับทราบ นอกจากนี้เงินกู้ถือเป็นรายได้หรือไม่นั้น ตนก็ไม่ขอตอบ เพราะ กกต.กำลังพิจารณาประเด็นนี้อยู่ ส่วนที่ตนเองเคยให้ความเห็นว่า ในทางกฎหมายและในทางบัญชีกำหนดเรื่องเงินกู้และรายได้ต่างกันนั้น ก็ยืนยันเช่นเดิม ซึ่งขึ้นอยู่ใช้อะไรพิจารณา รวมทั้งหลายเรื่องไม่ใช่แค่เรื่องพรรคทั้งในกรณีเงินกู้และรายได้ เช่น การยื่นทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. และการร่วมทุนที่ใช้เงินส่วนตัวหรือใช้เงินกู้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องมีการพิจารณาทั้งหมด
...
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะเป็นบรรทัดฐานหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวย้ำว่า ขอไม่ตอบ เพราะอยู่ระหว่างการวินิจฉัย หาก กกต.วินิจฉัยออกมาเป็นอย่างไร แล้วไม่เชื่อก็สามารถไปสู่กระบวนการของศาลได้อีก ส่วนหากผลการวินิจฉัยออกมาเป็นลบจะเกิดอะไรขึ้นนั้น ตนก็ไม่ทราบ เพราะหากตอบไปสื่อก็จะไปพาดหัวข่าวว่า ตนชี้นำว่าผลออกมาเป็นลบ
เมื่อถามว่า หากผลการวินิจฉัยออมาเป็นลบ จะต้องมีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใหม่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากเหตุเกิดภายใน 1 ปีหลังเลือกตั้ง ต้องคำนวณใหม่ โดยจะเอาคะแนนมาคิด ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใหม่ทั้งหมด ซึ่งอาจจะกระทบบ้าง แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องของการทุจริต เช่น ส.ส.ลาออก ที่เขต 5 จ.นครปฐม หรือ ส.ส.ขาดคุณสมบัติ เพราะต้องคำพิพากษา ไม่ต้องคำนวณใหม่
เมื่อถามว่า เรื่องรายได้พรรคการเมือง ที่กำหนดไว้ในมาตรา 62 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่ได้ระบุเรื่องกู้ยืมเอาไว้ ในทางกฎหมายแล้ว จะต้องยกประโยชน์ให้จำเลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มันได้ทุกทาง ถ้ากฎหมายไม่เขียนไว้แล้วเป็นผลร้ายก็ต้องยกประโยชน์ แต่ถ้าไม่เขียนและเทียบเคียงได้ก็ต้องวินิจฉัย และเมื่อถามย้ำว่า หากต้องยุบพรรคถือเป็นผลร้ายหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า "เป็นผลร้าย ทำไมจะไม่เป็น ร้ายยิ่งกว่าอะไร"