ได้หายใจหายคอคล่องขึ้นเยอะ หลังรูดม่านเสร็จศึกอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ปมซักฟอก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ

“ลุงตู่” มีเวลาพักรบศึกในสภาอย่างน้อยเกือบ 1 เดือนครึ่ง ในห้วงปิดสมัยประชุมรัฐสภาสมัยสามัญได้โล่งหู ไม่ต้องทนคำเสียดสีแดกดันเรื่องหนีสภา คลายแรงกดดันทางการเมืองได้ส่วนหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ยังได้ปลดล็อกข้อกฎหมาย ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ชี้ขาดตำแหน่งหัวหน้า คสช.ไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐตามที่ถูกยื่นตรวจสอบ

เนื่องจากเห็นว่า ตำแหน่งหัวหน้า คสช.เป็นรัฏฐาธิปัตย์ มีอำนาจเป็นการเฉพาะชั่วคราวในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เพื่อให้มีอำนาจรักษาความสงบเรียบร้อย

และไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ ไม่ได้รับการแต่งตั้งโดยกฎหมาย และไม่มีกระบวนการได้มาซึ่งการเข้าสู่ตำแหน่ง ถือว่าไม่เข้าข่ายคุณสมบัติต้องห้ามที่ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง

“ลุงตู่” ยังได้ไปต่อในสถานะผู้นำประเทศ ไม่ถูกสอยร่วงกลางอากาศจากอุบัติเหตุการเมือง

ผ่าน 2 ด่านสำคัญในวันเดียว ไม่มีปัญหาเทคนิคข้อกฎหมายคอยกวนใจอีกต่อไป

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่เจอโรยตะปูเรือใบเจาะยางระหว่างทางอีก ตามทิศทางที่ฝ่ายค้านยังอารมณ์ค้าง คาใจในประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่เลิก

แท็กทีมเรียกร้อง “บิ๊กตู่” โชว์สปิริตลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ

พร้อมจ่อล่าชื่อสมาชิกรัฐสภา 1 ใน 5 เสนอต่อประธานรัฐสภา ยื่นต่อ ป.ป.ช.ให้ส่งต่อเรื่องไปยังศาลฎีกา เล่นงาน “บิ๊กตู่” ทำผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน

...

ตามที่ “นายกฯลุงตู่” ยังออกลีลาเด้งเชือกในเวทีซักฟอก ร่ายยาวแจงเฉพาะเรื่องการไม่แจ้งที่มาของแหล่งรายได้ในการทำนโยบายรัฐบาล ชิ่งตอบประเด็นถวายสัตย์ปฏิญาณ โดยใช้สแตนด์อิน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กูรูกฎหมายตอบคำถามแทน

“ลุงตู่” เลี่ยงตอบชนวนร้อนด้วยตัวเอง ฝ่ายค้านยังล็อกเป้าถล่มไม่สำเร็จ

จบได้แค่พิธีกรรมซักฟอก แต่ยังปิดจ๊อบไม่สำเร็จ ต้องพลิกแพลงหาช่องกฎหมายตามขยี้กันต่อไป

เรือเหล็กยังโคลงเคลง ไม่สามารถเดินเครื่องบริหารราชการแผ่นดินได้เต็มสตรีม สารพันโจทย์รุมเร้าให้ “บิ๊กตู่” แก้ตลอดเวลา

ที่ดูหนักหนาสาหัสสุดขณะนี้คือ สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือและอีสาน โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี ถูกลากเป็นปมดราม่าถล่มนายกฯแก้ปัญหาล่าช้า ไม่ใส่ใจแก้ปัญหาในพื้นที่ไม่ใช่ฐานเสียงของตัวเอง

เทียบกันให้เห็นๆถึงกรณีพระเอกดัง “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ที่ระดมเงินบริจาคเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างรวดเร็วทันท่วงทีมากกว่ารัฐบาล

ในข้อเท็จจริงก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลที่ได้ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องไม้เครื่องมือลงพื้นที่ประสบอุทกภัย เร่งแก้ปัญหากันอย่างเต็มที่ไม่แพ้กัน

แต่ติดอยู่แค่อารมณ์ปากไวของ “ลุงตู่” ที่ออกลูกหงุดหงิดเวลาถูกโจมตีหนักๆเรื่องการช่วยเหลือล่าช้า จึงให้สัมภาษณ์ในเชิงกระทบกระเทียบ ก็ยิ่งฉุดให้สังคมไม่สบอารมณ์ยิ่งขึ้น

บริหารแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมว่ายากแล้ว แต่บริหารอารมณ์ความรู้สึกชาวบ้านดันยากยิ่งกว่า

ทำไปทำมาปัญหาน้ำท่วมทำท่าลามไปสะเทือนเครดิตรัฐบาล

ยังไม่นับรวมกรณีคุณสมบัติของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ถูกขย่มต่อเนื่องทั้งเรื่องเกี่ยวโยงคดียาเสพติด วุฒิการศึกษา และวิทยานิพนธ์ ต้องไล่ชี้แจงกันวุ่นวาย

ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะแฉลบไปเข้าเนื้อ “บิ๊กตู่” ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่ฟอร์มทีม ครม.

เรื่องวุ่นๆประดังเข้ามาให้เคลียร์ จนพลิกตำรารับไม่ทัน เล่นงาน “กัปตันตู่” จนเสียการทรงตัว

ที่ต้องเฝ้าระวังตัวกันเป็นพิเศษคือ ช่วงกลางเดือน ต.ค.นี้ ที่จะเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563

แนวโน้มรัฐบาลเรือเหล็กยังเผชิญมรสุมไม่หยุดหย่อน

เพิ่งปิดฟลอร์ประชุมสภาฯสมัยสามัญ หยุดพักหายใจได้ไม่ทันไร ต้องลุยต่อในเวทีเฉพาะกิจที่ฝ่ายค้านสามารถอภิปรายการใช้จ่ายงบประมาณลากโยงไปถล่มได้ทุกกระทรวง

และยังไม่รู้จะมีใครถูกเปิดแผลเรื่องอะไรขึ้นมาอีก

ถ้าเพลี่ยงพล้ำโดนบอมบ์อยู่อีก ก็ยิ่งเสียทรงหนักกันไปใหญ่!!!

ทีมข่าวการเมือง