“เพื่อไทย” ชี้ รัฐบาลสอบตก "จริยธรรม" จงใจกระทำผิดกฎหมาย ยกปม "ธรรมนัส" ถาม “วิษณุ” ประเทศไทยใช้กฎหมายเดียวกันหรือไม่ ซัดจงใจทำผิดร้ายแรง
วันที่ 19 ก.ย.นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในกรณีของ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติว่า ก่อนเข้ามารับตำแหน่ง ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลมีการตรวจสอบ หรือไม่
ทั้งกรณีที่ออสเตรเลียและวุฒิการศึกษา ที่ยังคงมีเครื่องหมายคำถามจากประชาชนว่า จบจากสถาบันการศึกษาจริงหรือไม่ ซึ่งในกรณีดังกล่าว นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบฝ่ายกฎหมาย ออกมาบอกว่ากรณีวุฒิการศึกษาไม่สำคัญ และไม่มีผลต่อตำแหน่งรัฐมนตรี
ตนขอถามประโยคเดียวว่า วันที่มีการสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีท่านนี้ใช้คำว่า ด็อกเตอร์นำหน้าในใบสมัคร หรือไม่ ถ้าใช้ยังไงก็ผิด
กรณีที่เคยเกิดขึ้นกับผู้สมัครเป็นผู้บริหารท้องถิ่นท่านหนึ่งสำคัญผิด ใส่วุฒิการศึกษาปริญญาต่างสถาบัน ถือเป็นความผิด โดนศาลตัดสินจำคุก หรือกรณีที่อดีต ส.ส.ท่านหนึ่ง จะลงสมัครนายกเทศมนตรี ในพื้นที่จังหวัดลำพูน ได้ลงชื่อในโฆษณาหาเสียงว่า ขณะนี้กำลังยังสมัครเรียนปริญญาเอก ที่สถาบันหนึ่ง
แต่กระบวนการรับเป็นนักศึกษายังไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้ท่านโดนตรวจสอบและคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ให้ใบเหลือง ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ทั้งๆ ที่ท่านเป็นคนเก่ง ท่านเพียงคิดว่าสมัครเรียนแล้ว ไม่มีเจตนาจะโฆษณาเกินจริงจากกรณีดังกล่าว ทำให้ท่านถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองในที่สุด
นายสงวน กล่าวด้วยว่า ตนขอถามกับไปยังนายวิษณุ ว่า ลำพูนกับประเทศไทยใช้มาตรฐานทางกฎหมายต่างกันหรือไม่ กกต.เมืองไทยใช้มาตรฐานต่างกันหรือไม่ คำพูดของนายวิษณุ มีปัญหาทางข้อกฎหมาย อย่ามาอ้างว่าเข้าใจผิด กูรูทางกฎหมายเช่นท่าน จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้
...
"กรณีของรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องปริญญาบัตร เป็นเรื่องประมวลกฎหมาย จริยธรรม ซึ่งการใช้วุฒิการศึกษา โดยที่ตนไม่มีสิทธิ์ เป็นการทำผิดกฎหมายและผิดจริยธรรมทางการเมือง ในขณะเดียวกัน กกต.ก็ไม่สนใจ เพราะอ้างว่าไม่มีคนไปร้อง เรื่องแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นนายวิษณุ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะปล่อยผ่าน โดยอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้" นายสงวน กล่าว...
นายสงวน กล่าวต่อว่า หากรัฐบาลปล่อยผ่านกรณีที่เกิดขึ้นกับรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลก็ถือว่า รัฐบาลชุดนี้สอบตกด้านประมวลกฎหมายจริยธรรม ถือเป็นการจงใจกระทำผิดข้อกฎหมายที่ร้ายแรง