การชุมนุมประท้วงใน ฮ่องกง เป็นโมเดลการเมืองที่กำลังจะถอดแบบไปยังประเทศต่างๆ และได้เกิดขึ้นกับ ประเทศไทย มาจนถึงปัจจุบัน ไม่มีหนทางเยียวยา เพราะกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีน กลายเป็นปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียว ที่คนฮ่องกงขยายวงเป็นประเด็น ต้องการคืนความเป็นเอกราชให้กับฮ่องกงจากจีน ลึกๆเพราะคนฮ่องกงเคยอยู่อย่างอิสระเสรี และกลัวว่าในอนาคตการปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่จะเข้าครอบงำการปกครองใน เขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง อย่างเต็มรูปแบบ
คนฮ่องกงส่วนหนึ่งอพยพจากฮ่องกงไปหาที่อยู่ใหม่เพราะคาดว่าจะเป็นหนังเรื่องยาว และจะทำให้เศรษฐกิจและการปกครองในฮ่องกงเสื่อมถอย แม้ปัจจุบันจะคาดการณ์ว่า การประท้วงที่ผ่านมาประมาณสามเดือน ทำให้ฮ่องกงเสียหายไปนับพันล้านเหรียญ แต่ถ้ายืดเยื้อต่อไปจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจฮ่องกงมหาศาลขนาดไหน
และท้ายที่สุดแล้วจะเป็นเหตุให้จีนเข้ามาปกครองฮ่องกงเต็มรูปแบบหรือไม่
นั่นคือที่ฮ่องกง ส่วนประเทศไทย นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา เราช่วยกันขับไล่รัฐบาลทักษิณ รัฐบาลสมชาย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ในการขับไล่แต่ละครั้งเราต้องเดิมพันด้วยรัฐธรรมนูญ ฉีกแล้วก็ฉีกอีก ส่งผลให้บุคลากรและทรัพยากรบุคคลของประเทศถูกดองไปด้วย เศรษฐกิจย่อยยับ สังคมแตกแยก เสียหายขนาดไหนประเมินค่าไม่ได้
เราเริ่มติดกระดุมผิดเม็ดตั้งแต่นั้นมา
เพราะอีกฝ่าย อ้างความชอบธรรม อ้างความเป็นประชาธิปไตย ขอคืนความเป็นธรรม อีกฝ่าย อ้างการทุจริต คอร์รัปชัน อ้างถึงสถาบันขั้นสูง อ้างถึงความเป็นเผด็จการในระบอบประชาธิปไตย
แต่ละครั้งที่ฉีกรัฐธรรมนูญและร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ก็เพื่อสร้างชัยชนะให้กับฝ่ายหนึ่งและต้องการให้อีกฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ ไม่ได้ร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาตามเจตนารมณ์ของประชาธิปไตยในระบบสากลเป็นของประชาชนเพื่อประชาชนและโดยประชาชน การเลือกตั้ง ถูกควบคุมอย่างเข้มข้น สนับสนุนคนที่มาจากการแต่งตั้งมากกว่า
...
เป็นการติดกระดุมผิดเม็ดที่สอง
การติดกระดุมผิดเม็ดที่สาม การใช้กติกาบิดเบือน เพื่อให้ได้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้ามาบริหารโดยให้อำนาจเหนือจากกติกาประชาธิปไตยในระบบสากล แต่เขียนกติกาของประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่
และเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ไม่มีการกลั่นกรองและคำนึงถึงความผิดชอบชั่วดีในการได้มาซึ่งอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรหรือโครงสร้างของระบอบการเมืองการปกครองก็ดี แม้จะให้อำนาจรัฐ อำนาจองค์กรอิสระในการฟอกตัวและฟอกความผิด แต่ในทางปฏิบัติล้มเหลวเพราะฟันเฟืองที่กำหนดขึ้นใหม่กับเจตนารมณ์ของประชาธิปไตยขัดกัน
เม็ดสุดท้ายลงเอยด้วยการเป็นนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไม่สง่างาม รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ที่อยู่กันด้วยความหวาดระแวง การต่อรองผลประโยชน์และอำนาจทางการเมือง ความไม่มีเสถียรภาพของสภาและรัฐบาลบนความล้มเหลวของประเทศไทยตลอดไป.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th