วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ห่วง ผู้ประสบอุทกภัย 32 จังหวัด สั่งที่ปรึกษา รมว.ทส. ติดตามสถานการณ์ รายงานความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด เน้นย้ำ บูรณาการหน่วยงานช่วยเหลือประชาชน

นับจากพายุ “โพดุล” และ พายุ “คาจิกิ” พัดเข้าประเทศไทยตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ก่อให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและทรัพย์สินเสียหายไปเป็นจำนวนมาก โดยมีหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนได้ให้การสนับสนุนและยื่นมือช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานสำคัญที่ได้เตรียมกำลังพลและอุปกรณ์ เครื่องมือในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และได้ลงพื้นที่ประสบภัยอย่างจริงจังนับแต่เกิดเหตุอุทกภัย และสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอดนั้น

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้ นายโสภณ ทองดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทส. ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พร้อมแจกถุงยังชีพ จำนวน 400 ถุง น้ำดื่ม 400 แกลลอน ให้กับประชาชนผู้ประสบภัย ในพื้นที่ บ.หัวตะพาน ต.หัวตะพาน อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ และ บ.โนนหัน บ.คำน้ำสร้าง บ.แจ้งน้อย บ.ท่าเยี่ยม ต.ค้อเหนือ อ.เมือง จ.ยโสธร พร้อมทั้ง ได้ฝากให้กำลังใจแก่พี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าว และพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

...

ในการนี้ นายโสภณ ทองดี โฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดอำนาจเจริญ และ จังหวัดยโสธร ได้ลงพื้นที่ตามข้อสั่งการของ รมว. ทส. โดยในการลงพื้นที่ พบว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่ที่ตรวจเยี่ยมทั้ง 4 จุด โดยรวมมีแนวโน้มลดลงไปในทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง แต่จากรายงานของกรมทรัพยากรน้ำ ทราบว่า ยังมีพื้นที่ที่ยังประสบภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ใน 32 จังหวัด อีกทั้งได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 19 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 25 จังหวัด ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ มีหลายพื้นที่จะยังคงมีฝนตกหนัก และมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานสังกัด ทส. ประสานบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ และให้รายงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทราบทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะยุติ

ด้าน นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวที่ห้องประชุม 201 อาคาร ทส.ว่า"ท่านรัฐมนตรีวราวุธมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย โดยได้กำชับให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดในพื้นที่ประสบภัย จัดอุปกรณ์และสรรพกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เตรียมแผนต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหลังสถานการณ์น้ำท่วมสิ้นสุดด้วย ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอย้ำเพื่อความมั่นใจว่า ทุกหน่วยงานภายใต้สังกัด ทส. มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์และสรรพกำลังในการให้ความช่วยเหลือ และจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนในทุกสถานการณ์และตนจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมราษฎรอีก หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น" นายยุทธพล ที่ปรึกษาฯกระทรวง ทส. กล่าว...