แม้ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนเรื่องกำหนดเลือกตั้งท้องถิ่น แต่หลายๆ พรรคการเมืองเริ่มมีความเคลื่อนไหวแล้วในการส่งตัวผู้สมัคร โดยเฉพาะสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เป็นที่จับตา ใครจะเป็นแคนดิเดตในการลงชิงชัย ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อาจเป็น 1 ในนั้น กระโดดจากสนามการเมืองใหญ่ มาเล่นการเมืองท้องถิ่น

ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ ต้องติดตาม หรือเป็นเพียงการโยนหินถามทางเพื่อเช็กกระแส เพราะยังมีอีกหลายปมปัญหาที่ต้องเผชิญ และสุ่มเสี่ยงถูกยุบพรรค พร้อมกับคำเตือนจาก ”สดศรี สัตยธรรม” อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการพรรคการเมือง แสดงความเห็นส่วนตัวผ่าน ”ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ว่า จากสถานการณ์ขณะนี้พรรคอนาคตใหม่ไม่ควรพูดอะไร ยิ่งพูด ยิ่งจะทำให้กระสุนตกมาที่พรรคมากขึ้น เพราะใครๆ ก็รู้ดี ว่าพรรคอนาคตใหม่มีความก้าวหน้ามาก มีประชาชนเริ่มเห็นใจและเข้าใจ การจะไปบอกว่าจะทำโน่นทำนี่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มันอันตราย
“ไม่ควรพูดอะไร จนกว่าคดีต่างๆ จะผ่านไป เพราะมีหลายเรื่องในศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการพูดอะไรจะเป็นผลลบต่อธนาธร เพราะมีคนอยากสกัดดาวรุ่ง ซึ่งในทางการเมืองมีมากมายจะทำอะไรก็ได้ เหมือนสุภาษิตจงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน ดังนั้นน่าจะเคลียร์ปัญหาต่างๆ ภายในพรรคจะดีกว่า เพราะกรรมการบริหารพรรคมีบทบาท เมื่อถูกยุบพรรคก็จะโดนก่อน ทั้งโดนตัดสิทธิ์เลือกตั้งสนามใหญ่ รวมถึงสนามเลือกตั้งเล็ก ยิ่งพูดออกมา เหมือนล่อให้กระสุนตกใส่ จากโอกาสดีๆ มีคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าชื่นชอบพรรคนี้มาก กลับเป็นไม่ดี เพราะฉะนั้นเรื่องพรรษาทางการเมือง เป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีเขี้ยวเล็บ ดูจังหวะ เรื่องไหนไม่ควรพูด ก็ไม่พูด ถ้าพรรคนี้โดนคดี ไม่ทราบว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น”
...

สดศรี ยังย้อนไปถึงกรณี ธนาธร ออกมาพูดถึงเงินกองทุนพรรค ได้กลายเป็นคำพูดมาฆ่าตัวเอง ดังนั้นควรรอโอกาส รอจังหวะ ในขณะที่มีคนจ้องมอง จ้องจองกฐินพรรคตัวเองมากมาย ก็ควรยับยั้งควรคิดก่อนพูดให้มาก เนื่องจากธนาธรยังมีอนาคตทางการเมืองอีกไกลมาก อยากให้คนรุ่นใหม่มาบริหารประเทศ แต่ต้องก้าวเดินอย่างระมัดระวัง อย่าให้มาเผาตัวเอง อีกอย่างตัวธนาธรอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีในหลายคดี ซึ่งยิ่งไม่มีทางเดิน ยิ่งทำให้คนเห็นใจพรรคอนาคตใหม่มากขึ้น แต่เหตุการณ์ต่างๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่มีใครทราบ อาจมีการยุบพรรค จึงไม่ควรออกมาเคลื่อนไหวมาก หรือพูดในช่วงลูกผีลูกคน
“คิดว่าการจะลงเล่นการเมืองต้องพูดให้น้อยที่สุด อย่าพูดมากไป ต้องทำอย่างพรรคการเมืองอื่นจะไม่แสดงอะไรมากไป ทำให้อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ แม้สนามการเมืองระดับ กทม. เป็นระดับเล็กก็ตาม แต่ก็สำคัญมาก มีงบต่างๆ มากมาย เชื่อว่าหลายๆ พรรคการเมืองคงต้องส่งผู้สมัครลงชิงชัยเช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่”.