ตำแหน่งอธิบดี เด็กพปชร.ห้าว! ตั้งโต๊ะ "กล่าวหา" พท.ขอรบ.อย่า "ตีรวน" ซักฟอก

“ชวน” เปิดเวทีให้ฝ่ายค้านถล่มปมถวายสัตย์ฯ 18 ก.ย. วันเดียวถึงเที่ยงคืน ฝ่ายค้านจองกฐินซักฟอกยาว 13 ชั่วโมง ดักคอ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอย่าประท้วงตีรวน “สมพงษ์” ประชดใจกว้างให้ซักถามตั้ง 1 วัน “เจ๊หน่อย” หยัน “บิ๊กตู่” อย่ากลัวสภาฯ ตอกจะอยู่ได้นานขึ้นอยู่ที่ศรัทธาประชาชนไม่ใช่หมอดู “บิ๊กป้อม” โต้ไม่ได้เจ้าเล่ห์มัดมือชก ขอพูดให้จบในสภาฯ “ประยุทธ์” บ่นอะไรกันนัก กันหนา ไม่เข้าใจ ยืนกรานทำสมบูรณ์ถูกต้องตาม รธน. ศาลรัฐธรรมนูญตีตก “ธนาธร” ขอยกเลิกคำสั่งพักงาน รับวินิจฉัยคำร้อง 32 ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านถือหุ้นสื่อ สั่งแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน “วุฒินันท์” รอดไปได้รายเดียว สภาฯชะลอ พ.ร.ก.สถาบันครอบครัว “สุทิน” เฉ่งซ้ำรัฐบาลบกพร่องลุแก่อำนาจ เด็ก พปชร.เปิดศึกพรรคร่วมฯยื่น “ประวิตร” สอบบิ๊กข้าราชการ ทส.งาบงบฯกล้าไม้-ซื้อเก้าอี้ 600 ล้าน “รมต.ท็อป” เดือดจัดจวกไร้สมองท้าลั่นเจอกันที่ศาล

การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนได้ข้อสรุปชัดเจนให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้เพียง 1 วัน ในวันที่ 18 ก.ย. ตั้งแต่ 09.30-24.00 น.ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของฝ่ายค้านว่าฝ่ายรัฐบาลใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาเปรียบ ยืนยันจะระมัดระวังเนื้อหาและไม่อภิปรายซ้ำซากวนเวียน แต่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลต้องไม่ประท้วงตีรวน

...

“ชวน” เปิดเวทีถล่ม “บิ๊กตู่” 14.5 ชั่วโมง

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 4 ก.ย. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี ครม.แสดงความจำนงให้เปิดประชุมอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนว่า ได้รับหนังสือแจ้งจาก ครม.เมื่อช่วงเย็นๆวันที่ 3 ก.ย. ว่า รัฐบาลมีความพร้อมการอภิปรายเรื่องดังกล่าวในวันที่ 18 ก.ย. ก่อนหน้านี้นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เสนอมาเป็นวันที่ 16-18 ก.ย. แต่วันที่ 16 และ 17 ก.ย. เป็นวันประชุม ส.ว.ได้ประสานทางวุฒิสภา แต่วุฒิสภาต้องใช้ห้องประชุมในวันที่ 16-17 ก.ย. ไม่สามารถให้ใช้ห้องประชุมได้ ดังนั้น คาดว่าคงต้องเปิดอภิปรายในวันที่ 18 ก.ย. เพียงแค่วันเดียว จะให้เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30-24.00 น. ไม่สามารถขอขยายเวลาเปิดประชุมวิสามัญต่อในวันที่ 19 ก.ย. ได้จะต้องเลิกภายในเวลา 24.00น. ของวันที่ 18 ก.ย.เท่านั้น

ต้องชะลอ พ.ร.ก.คุ้มครองครอบครัว

นายชวนกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องต่อประธานสภาฯให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาการออก พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว ปี 2562 ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบลายมือชื่อผู้เข้าชื่อเสนอตามขั้นตอน เมื่อมี ส.ส.เข้าชื่อให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วาระพิจารณา พ.ร.ก. ดังกล่าวที่จะเข้าเป็นเรื่องด่วนในการประชุมสภาฯ วันที่ 4 ก.ย. จะต้องชะลอออกไปก่อน

ฝ่ายค้านจองขึงยาวซักฟอก

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า เตรียมหารือกับวิปรัฐบาล เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจเรื่องเวลาและหลักเกณฑ์ในการอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในวันที่ 18 ก.ย.นี้ กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้วน เบื้องต้นกรอบเวลาทั้งหมดร่วม 15 ชั่วโมง ฝ่ายค้านควรได้รับ 12-13 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาลควรได้เวลา 2-3 ชั่วโมง เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยเตรียมผู้อภิปรายไว้ 15 คน พล.อ.ประยุทธ์ควรมาชี้แจงด้วยตนเอง เพราะเป็นเรื่องที่ต้องชี้แจงเอง หากนายกฯไม่มาร่วมประชุมฝ่ายค้านติดใจแน่นอน เพราะแสดงให้เห็นถึงภาวะความรับผิดชอบและสปิริต หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นจริง ฝ่ายค้านจะใช้ช่องทางร้องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป

ยันไม่มีอภิปรายวนเวียนซ้ำซาก

นายสุทินกล่าวว่า ส่วนที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าหากอภิปรายซ้ำซากอาจขอปิดการอภิปราย ฝ่ายค้านเข้าใจและเห็นชอบด้วยที่หากอภิปรายซ้ำซากขอปิดอภิปรายได้ แต่ฝ่ายค้านยืนยันจะไม่ซ้ำซาก จะใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ การถวายสัตย์ฯไม่ครบไม่มีเหตุผลจะต้องประชุมลับ ยกเว้นรัฐบาลหาเหตุอ้างเป็นเรื่องกระทบสถาบัน ทั้งที่ฝ่ายค้านไม่เคยพูดเลยว่าจะโยงไปถึงเรื่องสถาบัน เรื่องนี้สาเหตุอยู่ที่นายกฯเพียงคนเดียว จึงไม่จำเป็นต้องประชุมลับ การที่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจอภิปรายประเด็นละเอียดอ่อนกระทบต่อสถาบัน ยืนยันว่าไม่มีประเด็นดังกล่าวแน่นอน หาก ครม.จะเสนอเปิดประชุมลับควรคำนึงถึงประชาชนด้วย

ซัดลุแก่อำนาจออก พ.ร.ก.ครอบครัว

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการยื่นเรื่องต่อประธานสภาฯให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความการออก พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว ปี 2562 ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญว่า แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลลุแก่อำนาจ บกพร่องชัดเจน พ.ร.ก.ที่รัฐบาลเสนอมาไม่เข้าหลัก เกณฑ์ตามที่รัฐธรรมนูญระบุ เมื่อฝ่ายค้านส่งเรื่องให้ประธานสภาฯยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ถือเป็นอำนาจของประธานสภาฯจะสั่งให้ชะลอการพิจารณา พ.ร.ก.ในที่ประชุมสภาฯหรือไม่ วิปรัฐบาลไม่มีอำนาจจะขอถอน พ.ร.ก.ออกจากการพิจารณาเองได้

ถ้า ส.ส.รัฐบาลไม่ตีรวนวันเดียวพอ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯจะให้เวลาอภิปรายโดยไม่ลงคะแนนตามมาตรา 152 วันที่ 18 ก.ย. ตั้งแต่ 09.30-24.00 น. ว่า เวลาอภิปราย 14 ชั่วโมงครึ่ง คงเพียงพอในการซักถามและให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาล หาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ประท้วงตีรวนการอภิปรายของฝ่ายค้าน และเราไม่อยากให้เกิดกรณีเช่นนั้น เพราะเรื่องที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ยืนยันเรายึดมั่นอยู่ในกติกา จะระมัดระวังคำพูด จึงไม่จำเป็นต้องขอให้เป็นการประชุมลับ ส่วนการอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เราได้ให้ ส.ส.ยื่นความจำนงเสนอชื่ออภิปรายแล้ว 7 พรรคฝ่ายค้านจะอภิปรายเป็นทีมให้เนื้อหาต่อเนื่องสอดคล้องกัน ทั้ง 2 ประเด็นที่เราได้ยื่นญัตติไปไม่ว่าจะเป็นประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณ และการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ได้ระบุที่มาของเงินงบประมาณในการดำเนินนโยบาย พรรคเพื่อไทยจะมีผู้อภิปรายประมาณ 15 คน โดยเป็นคนที่มีประสบการณ์ อาทิ นายสุทิน คลังแสง นายชวลิต วิชยสุทธิ์ และตน เป็นต้น

“สมพงษ์” เปิดตัวคณะทำงาน

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่รัฐสภา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงเปิดตัวคณะทำงานผู้นำฝ่ายค้านว่า กฎหมายให้ผู้นำฝ่ายค้านแต่งตั้งคณะทำงานได้ 4 ตำแหน่ง เพื่อมาช่วยงานผู้นำฝ่ายค้าน คณะทำงานทั้ง 4 คน ล้วนมีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ในสภาฯ ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ เลขานุการผู้นำฝ่ายค้าน นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้ช่วยเลขานุการผู้นำฝ่ายค้าน และนายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้าน

ประชด รบ.ใจกว้างให้ซักฟอก 1 วัน

นายสมพงษ์กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายนายกฯโดยไม่ลงมติกรณีนายกฯถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนว่า ก่อนหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านประสานฝ่ายรัฐบาลตกลงว่าจะให้เวลาฝ่ายค้าน 2 วัน แต่พอกำหนดออกมากลับให้อภิปรายวันที่ 18 ก.ย. รัฐบาลก็ทราบดีว่าเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุมเท่ากับว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะได้เวลาอภิปราย แค่วันเดียว ไม่รู้ว่าประเด็นนี้คือความใจกว้างของรัฐบาลลักษณะหนึ่งหรือไม่ เราคงไม่ไปต่อล้อต่อเถียงอะไรด้วย การอภิปรายวันที่ 18 ก.ย. พรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรคจะใช้เวลาตามที่มี เนื้อหาอภิปรายกระฉับ เมื่อถามว่าหากนายกฯไม่มาสภาฯจะทำอย่างไร นายสมพงษ์กล่าวว่า แหม่ อันนี้ก็ตอบไม่ได้ พรรคฝ่ายค้านอยากให้ท่านเดินทางมาชี้แจงวันที่ 18 ก.ย. แม้เวทีสภาฯจากการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภาฯ อาจไม่เป็นที่ถูกอกถูกใจท่าน แต่รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ท่านต้องมาสู้ความจริง เราคงได้แต่ขอร้องให้ท่านมาชี้แจง

“อดิศร” จวกใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาเปรียบ

ด้านนายอดิศรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านพยายามยื่นกระทู้ถามนายกฯเรื่องถวายสัตย์ฯแต่ พล.อ.ประยุทธ์หลีกเลี่ยงไม่มา ตอนนี้เกิดกรณีวันอภิปราย เดิมฝ่ายค้านขอไป 2 วัน แต่ด้วยเล่ห์เหลี่ยมเอาเปรียบ พอถูกจับได้ว่ามีความผิดก็ปิดโอกาสฝ่ายค้าน ชี้ให้เห็นถึงความไม่จริงใจจากรัฐบาล ไม่ให้ฝ่ายค้านทำงานได้เต็มที่

อัดนายกฯตั้งใจกระทำขัด รธน.

นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์ใช้อำนาจเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม เลือกใช้อำนาจเป็นกฎหมาย ไม่ได้ใช้อำนาจตามกฎหมาย ทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองได้ประโยชน์ ทำลายหลักการกฎหมายสิ้นเชิง การกระทำของนายกฯยังทำลายและไม่เคารพหลักการของรัฐธรรมนูญ สิ่งที่นายกฯกล่าวในการถวายสัตย์ฯมีการตัดต่อแต่งเติมถ้อยความในรัฐธรรมนูญ จงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่มีอำนาจ เป็นการกระทำขัดรัฐธรรมนูญโดยความตั้งใจ พรรคฝ่ายค้านไม่ได้เอาเป็นเอาตาย แต่ต้องการเสนอแนะทางแก้ไขกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะเข้ามาตอบหรือจะไม่มาเป็นเรื่องของท่าน ประโยชน์ของท่านเอง

“เจ๊หน่อย” เย้ย “บิ๊กตู่” อย่ากลัวสภาฯ

ที่พรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะช่วยแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ตกอยู่ในสภาพลูกผีลูกคน นายกฯไม่ควรกลัวการอภิปรายในสภาฯ ขอให้เข้าใจระบบ ส่วนซินแสที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมืองในรัฐบาล และทำนายว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ถึง 2 วาระหรือ 8 ปี ว่า ไม่ขอวิจารณ์เพราะเป็นความเชื่อของผู้มีอำนาจ แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกในยุคนี้ มีทั้งเครือญาติหมอดูและหมอดูมีตำแหน่งหน้าที่ในรัฐบาล จะอยู่ 8 ปีหรือไม่นั้นตอบให้ไม่ได้เพราะไม่ใช่หมอดู แต่รัฐบาลจะอยู่ได้นานหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหมอดู ขึ้นอยู่กับความศรัทธาเชื่อมั่นของประชาชน

“วัฒนา” จวกขี้โกงเสียชาติเกิด

นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจทุกตัวส่งสัญญาณอันตรายให้เห็นแล้ว คนสิ้นหวังไม่ว่าจะกู้เงิน สั่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเอาเงินสะสมที่มีประมาณ 600,000 ล้านบาท ออกมาใช้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทำถึงขั้นแจกเงินแล้วแต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ยาที่ให้ไปไม่ได้ผล หากไม่เปลี่ยนวิธีรักษาหรือเปลี่ยนหมอก็จองวัดรอสวด จึงขอเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ให้ยอมรับว่าปัญหาของประเทศโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจเกินกำลังสติปัญญาของท่านแล้ว หากรักชาติอย่างที่ปากพูด ควรถอยยอมให้ประชาชนได้เลือกคนเก่งเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เปิดทางให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เลิกเอาเปรียบทางการเมืองจนคนตราหน้าว่าทหารไทยในชีวิตไม่เคยสู้กับใครบนกติกาที่เป็นธรรม เอาชนะมาได้ด้วยการโกงหรือเอาเปรียบ เสียชาติเกิด

“บิ๊กป้อม” โต้มัดมือชก-พูดในสภาฯให้จบ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านระบุว่ารัฐบาลใจแคบเปิดโอกาสให้อภิปราย 1 วันน้อยเกินไปว่า ยืนยันว่า 1 วันเพียงพอแล้ว และไม่ได้มัดมือชกฝ่ายค้านเพื่อไม่ให้ต่อเวลา ต้องจบอยู่แล้วภายในวันที่ 18 ก.ย. เพราะหมดสมัยประชุมสภาฯ เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นละเอียดอ่อนอะไร อภิปรายวันเดียวก็เพียงพอ ส่วนจะประชุมแบบเปิดหรือแบบลับแล้วแต่สภาฯเป็นผู้พิจารณา ถ้าจะประชุมเปิดเผยไม่เป็นอะไร แต่ต้องระมัดระวังคำพูดจะไปเกี่ยวข้องกับสถาบัน ไม่อยากให้การเมืองออกมาเล่นนอกสภาฯอยากให้พูดกันในสภาฯให้จบ

“บิ๊กตู่” ขอยิ้มไว้ก่อนต่อให้เจองานหนัก

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องคริสตัล เอ ชั้น 3 โรงแรม ดิ แอทธินี กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง มีรัฐมนตรีพลังงานประเทศสมาชิกอาเซียน คู่เจรจา รองเลขาธิการอาเซียนและตัวแทนต่างๆเข้าร่วม โดยนายกฯกล่าวว่าสิ่งสำคัญคือการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับภูมิภาค ร่วมกันผลักดันพลังงานทดแทนให้ถึงร้อยละ 23 ในปี 2025 หวังทุกท่านจะมีความสุขระหว่างพำนักที่ไทย ยินดีต้อนรับทุกท่านเสมอ ขอให้จดจำรอยยิ้มสยามของตนไว้ด้วย คนไทยชอบยิ้ม ต่อให้งานหนักแค่ไหนก็ยิ้มไปก่อน จะได้มีกำลังใจในการทำงาน

กล่อมรุ่นใหม่อย่าฟังคนพูดเลอะเทอะ

เมื่อเวลา 12.50 น. ที่ศาลากลาง จ.พิษณุโลก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งกับกลุ่มนักเรียนวิทยาลัยอาชีวะ สาขาอาหารและโภชนาการ จ.พิษณุโลก ที่มาทำอาหารว่างต้อนรับคณะนายกฯ และ ผวจ.17 จังหวัดภาคเหนือ ระหว่างลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และสถานการณ์อุทกภัยว่า ดีใจที่ได้มาพบ ขอให้ทุกคน ในฐานะคนรุ่นใหม่ช่วยกัน นายกฯต้องทำงานให้คนทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ขอทุกคนอย่าทิ้งอัตลักษณ์ความเป็นไทย หากมีใครบอกว่ารื้อและทำใหม่ทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ อย่าไปฟังใครเขาพูดเลอะเทอะพร้อมถามเด็กนักเรียนด้วยว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาไปใช้สิทธิ์กันหรือเปล่า เด็กนักเรียนตอบว่าเพิ่งอายุ 18 เลยไม่ได้ไปใช้สิทธิ

ยืนกรานถวายสัตย์ฯถูกต้องตาม รธน.

ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่วัดดงพลวงศรีวนาราม ต.วังพิกุล อ.วังทอง พล.อ.ประยุทธ์เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านดงพลวง โดยกล่าวตอนหนึ่งถึงเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณว่าขอให้ทุกคนหาความรู้จากโทรศัพท์ให้มากขึ้น แต่ข่าวที่ทะเลาะกันอย่าไปฟังมากนักเอานายกฯ ไปตอบเติบอะไรปล่อยไปเถอะ แล้วทำไมต้องเริ่มต้นใหม่ในเมื่อเราทำมาถึงเวลานี้ตามขั้นตอน ทุกอย่างเดินมาตามขั้นตอน ไม่ต้องกลัว ตนไม่กลัวเพราะมีจิตใจบริสุทธิ์ที่จะทำทุกอย่างเพื่อพวกเรา ที่อยู่มาถึงวันนี้อยู่เพื่อต้องการทำงาน ไม่ใช่อยู่เพื่อหาอำนาจอยากเป็นใหญ่ อยากเป็นนายกฯ ไม่เคยคิด แต่ชะตากำหนดมาให้ถึงวันนี้ เข้าใจระบอบประชาธิปไตย ไม่มีผิดจากรัฐธรรมนูญ เถียงกันจังเลยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ตนปฏิบัติตามทุกอย่าง รัฐธรรมนูญเป็นของปวงชนชาวไทย แล้วใครลงพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จบแล้วใช่ไหม ปวงชนชาวไทยและพระองค์ท่านทรง รับสั่งว่าอย่างไร มีพระปฐมบรมราชโองการ ว่าเราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งประชาชนใช่ไหม มันสมบูรณ์แล้ว ตนถวายสัตย์ฯสมบูรณ์ ไหม ไปบอกให้หน่อย อะไรกันนักกันหนาไม่เข้าใจ

“กัญจนา” ติงควรจบได้ตั้งนานแล้ว

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า รัฐบาลคงดูความพร้อมของนายกฯ และ ครม. เพราะนายกฯ มีภารกิจมากยังต้องเตรียมเดินทางไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อีก เรื่องนี้ควรจบได้ตั้งนานแล้ว แต่เมื่อฝ่ายค้านเห็นว่านายกฯ ควรต้องมาชี้แจงเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน อภิปรายวันเดียวน่าจะพอพูดกันให้หมดให้สภาฯ วันเดียว เกรงประชาชนจะเบื่อหน่าย อยากฝากให้ฝ่ายค้านใช้เวลาตรวจสอบเสนอแนะงานที่เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชน

“ระวี” เตือนอย่าแตะเรื่องอ่อนไหว

นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวการให้ฝ่ายค้านอภิปรายในวันที่ 18 ก.ย. ตามที่ ครม.เสนอมา 1 วัน เพียงพอแล้ว ไม่น้อยเกินไปเหมือนที่ฝ่ายค้านพยายามทำให้สังคมเข้าใจผิด มีเพียง 2 ประเด็นคือ กรณีนายกฯถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ และการแถลงนโยบายที่ไม่ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ หากเริ่มประชุมช่วงเช้าจนถึงเที่ยงคืนจะมีเวลาอภิปรายญัตติราว 14 ชั่วโมง หากฝ่ายค้านอยู่ในประเด็น ไม่มีการก้าวล่วงถึงสถาบันหรืออภิปรายเรื่องที่อ่อนไหว เชื่อว่าจะไม่มีการประท้วงมาก

ศาล รธน.ตีตก “ธนาธร” ขอยกเลิกพักงาน

อีกเรื่อง เมื่อเวลา 15.45 น. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ โดยที่ประชุมได้พิจารณาคำร้องของผู้ถูกร้องที่ขอให้ศาลพิจารณาคำร้องขอให้ยกเลิกคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยหรือคำสั่ง โดยเร่งด่วนแล้วเห็นว่ายังไม่ปรากฏพฤติการณ์อันเป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เดิม จึงให้ยกคำร้องขอและต่อจากนั้นศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยว่าจะมีการไต่สวนพยานบุคคล จะมีหมายเรียกพยานบุคคลใดและพยานเอกสารฉบับใดบ้าง กำหนดนัดอภิปรายต่อในวันพุธที่ 11 ก.ย.

“วุฒินันท์” รอดไม่เข้าข่ายถือหุ้นสื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังได้ประชุมพิจารณาคดีที่ประธานสภาฯส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐ– ธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพของ ส.ส. 33 คน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญประชุมแล้วเห็นว่ากรณีนายวุฒินันท์ บุญชู ผู้ถูกร้องที่ 29 ที่ถูกกล่าวอ้างว่าถือหุ้นในบริษัท รุ่งเรืองสยาม ซูมิคอน จำกัด แต่เมื่อพิจารณาจากหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์แล้วปรากฏว่ามีข้อความไม่ตรงกันกับคำกล่าวอ้างของผู้ร้อง และเป็นวัตถุ– ประสงค์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ จึงสั่งไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย จึงไม่เป็นลักษณะเข้าข่ายอันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายวุฒินันท์ต้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ

32 รายระทึก–ให้ยื่นแจงข้อกล่าวหา

สำหรับคำร้องของผู้ร้องในส่วนของผู้ถูกร้องที่เหลือ 32 คนเห็นว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่งประกอบ พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7 (5) แล้วศาลฯจึงสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้ง 32 คนเพื่อยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง สำหรับคำขอให้ผู้ถูกร้องทั้ง 32 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น เห็นว่ายังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้ง 32 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง

พรรคร่วมฝ่ายค้านติดบ่วงระนาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ส.ส. 32 ราย ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ประกอบด้วย ส.ส.33 รายที่พรรคพลังประชารัฐยื่นคำร้องเป็น ส.ส.ในส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งสิ้น ได้แก่ พรรคอนาคตใหม่ 20 คน คือ 1.พล.ท.พงศกร รอดชมภู 2.นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ 3.นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ 4.นายสุรชัย ศรีสารคาม 5.นายชำนาญ จันทร์เรือง 6.นายวินท์ สุธีรชัย 7.นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ 8.นายคารม พลพรกลาง 9.นายวาโย อัศวรุ่งเรือง 10.นางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล 11.นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล 12.นายวิภพ วิริยะโรจน์ 13.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ 14.นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ซึ่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด 15.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. 16.น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี 17.น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม 18.นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา 19.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และ 20.น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม.

พท.–พช.โดนพรรคละ 4 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย 4 คน ได้แก่ 1.นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย 2.นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก 3.นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และ 4.นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ 4 คน เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด ได้แก่ 1.นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ 2.นางลินดา เชิดชัย 3.น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช และ 4.นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล พรรคเสรีรวมไทย จำนวน 3 คน เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด ได้แก่ 1.พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส 2.น.ส.ธนพร โสมทองแดง และ 3.น.ส.พัชนี เพ็ชรจินดา อีก 1 รายคือ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ

หัวหน้า อนค.พร้อมสู้คดีต่อไป

ช่วงเย็น ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงว่า พรรคเคารพ ความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญที่ยกคำร้องของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ต่อไปนั้น และพร้อมจะต่อสู้คดีตามกระบวนการกฎหมาย จากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญระบุจะนัดอภิปรายต่อไปในวันที่ 11 ก.ย. ตนมีความเห็น ว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการเปิดศาลเพื่อไต่สวนคดีหรือไม่ แต่ยืนยันจุดยืนเดิมว่าคดีการถือหุ้น วี-ลัค มีเดียของนายธนาธร ควรต้องเปิดการไต่สวนนำพยานหลักฐานมาสู้คดีในชั้นศาล เพราะคดีมีปัญหาทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงเป็นจำนวนมาก

ยื่นส่งศาลตีความ “ไพบูลย์” พ้น ส.ส.

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน กกต.นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อประธาน กกต.ขอให้ตรวจสอบกรณีที่พรรคประชาชนปฏิรูปของนายไพบูลย์ นิติตะวัน มีมติยุบเลิกพรรคตัวเองและ กกต.มีมติให้สิ้นสภาพ ยังมีปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และรัฐธรรมนูญ นายศรีสุวรรณกล่าวว่า กรณีนี้จะส่งผลให้ลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อเปลี่ยนแปลง ประกอบกับพรรคประชาชน–ปฏิรูปได้คะแนนต่ำกว่าเกณฑ์ ส.ส.พึงมี การยุบเลิกพรรคในช่วงยังไม่ครบ 1 ปีอาจขัดต่อกฎหมายเนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (4) ประกอบมาตรา 93 ระบุเหตุการสิ้นสภาพ ส.ส.ไว้ว่ากรณีมีการเลือกตั้งซ่อมหรือรวมคะแนนใหม่ภายใน 1 ปีนับแต่วันเลือกตั้ง แต่มายุบเลิกในขณะนี้ไม่เป็นไปตามกฎหมาย เป็นรูปแบบที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง น่าจะเป็นเล่ห์กลเป็นโมเดลที่ไม่ถูกต้อง ขอให้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายไพบูลย์ยังมีสถานะเป็น ส.ส.หรือไม่ การยุบพรรคก่อน 1 ปีคะแนนของพรรคที่ยุบเลิกควรกลายเป็นศูนย์ หรือนำคะแนนไปรวมกับพรรคใหม่

อัดเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า การยุบพรรคก่อน 1 ปีเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามมาตรา 92 (1) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งพรรคการเมือง เพื่อสร้างบรรทัดฐานไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ดูถูกคะแนนเสียงประชาชนที่เลือกมา

ให้การสัมมนา พปชร.–หุ้นสื่อ อนค.

นายศรีสุวรรณยังกล่าวด้วยว่า คณะกรรมการไต่สวนของสำนักงาน กกต. ยังให้ตนมาให้ถ้อยคำยืนยันการยื่นคำร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบใน 2 เรื่อง คือกรณีที่ตนได้ยื่นร้องขอให้ตรวจสอบนายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้นสื่ออาจเข้าข่ายทำให้สิ้นสภาพการเป็น ส.ส.และกรณีที่ได้ยื่นร้องให้ตรวจสอบกรณีพรรคพลังประชารัฐ จัดสัมมนาสมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรคที่ อ.วังน้ำเขียว รีสอร์ตที่จัดสัมมนาอยู่ระหว่างการ พิจารณาของศาลว่าบุกรุกพื้นที่อุทยานหรือไม่ การจัดสัมมนาในรีสอร์ตดังกล่าวจึงน่าจะเข้าข่ายสนับสนุน ส่งเสริมการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ที่กฎหมายพรรคการเมืองระบุห้ามพรรคการเมืองกระทำการดังกล่าว และหากเรื่องนี้ผิดจริง กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งยุบพรรคได้

ร้อง “ป้อม” สอบ ขรก.งาบงบฯกล้าไม้

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา น.สพ.ธีทัชฐ์ เกียรติลดารมย์ ประธานสมาพันธ์รักผืนป่าแห่งประเทศไทย และอดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ผ่านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้าราชการระดับสูงในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตคอร์รัปชัน น.สพ.

ธีทัชฐ์กล่าวว่า ข้าราชการระดับสูงคนดังกล่าวขณะดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ เจตนาทำเรื่องโอนเปลี่ยนแปลงงบฯไปเพาะชำกล้าไม้ในช่วงเดือน ส.ค.2552 ถึง 2 ครั้ง เป็นเงิน 109,313,100 บาท ทั้งที่ทราบข้อเท็จจริงว่าไม่สามารถเพาะกล้าไม้ได้ตามวัตถุประสงค์เพราะจะให้กล้าไม้โตถึง 50 ซม.ในเวลา 30 วัน เป็นไปไม่ได้ มีเพียงถั่วงอกที่จะโตได้เร็วขนาดนั้น

อ้างมีตกเขียวซื้อตำแหน่ง 600 ล้าน

น.สพ.ธีทัชฐ์กล่าวอีกว่า ข้าราชการคนดังกล่าวยังมีการอนุมัติเพิ่มเงินเดือนให้ภรรยาตนเอง 6% และบุคคลใกล้ชิดสูงเกินความเป็นจริงมากกว่า 10 ราย แต่ผู้ได้รับคัดเลือกเป็นผู้ปฏิบัติงานดีเด่นได้รับการเลื่อนปรับเงินเดือนขึ้นเพียง 3-4% นอกจากนี้ ยังมีข่าวการซื้อขายตำแหน่งระดับอธิบดีกรมหนึ่งในกระทรวงเป็นเงิน 600 ล้านบาทอีกด้วย มีการจ่ายเงินให้กันแล้วครึ่งหนึ่งอีกครึ่งหนึ่งจะให้กันในเดือน ก.พ.2563 หาก รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯไม่จัดการเรื่องนี้จะขอตั้งฉายาว่า “รัฐมนตรีถั่วงอก” ข้าราชการคนนั้นเส้นใหญ่มากจะขอตั้งฉายาว่า “อธิบดีเส้นใหญ่” จากนั้นนายธีทัชฐ์ได้เปิดคลิปเสียงอ้างว่าเป็นเสียงสนทนาของ ผอ.กองกับ ผอ.สำนักถกเถียงกันเนื่องจากได้ส่วนแบ่งการทำงานไม่เท่ากัน พร้อมอ้างว่ารองปลัดกระทรวงเป็นผู้ร้องเรียนมาที่ตนเอง จำเป็นต้องเปิดเผยเรื่องนี้เพราะนายกฯบอกไว้ชัดเจนในรัฐบาลนี้ต้องไม่มีคอร์รัปชัน

“วราวุธ” ลั่นไปเจอกันที่ศาล

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐคงว่างงานมาก จะพูดอะไรขอให้คิดถึงความเป็นจริงว่าข้าราชการระดับอธิบดีจะมีเงินถึง 600 ล้านบาทหรือ สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นความจริง มาแถลงข่าวอะไรต้องใช้วิจารณญาณและวุฒิภาวะให้มากกว่านี้ ไม่ใช่สักแต่พูดหรือไปรับข้อมูลจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้วนำมาพูด ควรใช้สมองให้มาก กว่านี้หน่อย คลิปเสียงตนได้มาเหมือนกัน แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นคลิปเสียงของ ผอ.โรงเรียนไหนคุยกับนักการภารโรงหรือไม่ หรือเป็น ผอ.สวนสาธารณะคุยกับผู้บริหารบริษัทอะไรรึเปล่า หากมีหลักฐานอะไรนำมาตนจะได้นำไปเป็นหลักฐานฟ้องหมิ่นประมาท ทั้งหมดที่พูดมานั้นไม่มีความจริงเลย น่าแปลกใจตนแต่งตั้งอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรน้ำ อธิบดีกรมน้ำบาดาลไม่เป็นข่าวเลย แต่กลับมาเป็นข่าวในกรมที่ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง ผู้ร้องเรียนมีเป้าหมายอะไรหรือข้อบาดหมางใจกับผู้บริหารในกรมนั้นหรือเปล่า มาพาดพิงรัฐมนตรีคงต้องไปเจอกันที่ศาล หัวไม่ได้มีไว้กั้นหูแต่มีไว้ให้คิด จะพูดอะไรต่อสาธารณะให้ผู้ร้องคิดไตร่ตรองให้ดี

สภาฯชะลอ พ.ร.ก.ครอบครัว

เมื่อเวลา 17.30 น. ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภาฯที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แจ้งให้สมาชิกทราบถึงกรณี ส.ส.ฝ่ายค้านเข้าชื่อยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามที่รัฐบาลตรา พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว ปี 2562 ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 วรรคหนึ่ง เมื่อประธานสภาฯรับเรื่องไว้แล้ว ดังนั้น สภาฯต้องรอการพิจารณา พ.ร.ก.ดังกล่าวไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยแล้วเสร็จ

วิป 2 ฝ่ายแบ่งเค้ก ปธ.กมธ.ไม่ลงตัว

ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการหารือกับวิปรัฐบาลเพื่อจัดสรรตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญคณะต่างๆในสภาฯ 35 คณะว่า ยังไม่สามารถหาข้อสรุปกับฝ่ายวิปรัฐบาลได้ วิปสองฝ่ายจะหารือกันอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปโควตาประธาน กมธ.ภายในสัปดาห์นี้ สัปดาห์ถัดไปจะให้แต่ละพรรคกำหนดตัวบุคคลมาดำรงตำแหน่งเพื่อส่งให้ที่ประชุมสภาฯเห็นชอบก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯวันที่ 18 ก.ย. เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะได้โควตาประธาน กมธ. 10 คณะ ในฐานะฝ่ายค้านควรได้ตรวจสอบกระทรวงใหญ่ๆที่รัฐบาลกำกับดูแล อาทิ กมธ. การเกษตรและสหกรณ์ กมธ.คมนาคม กมธ.พาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา กมธ.พลังงาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นต้น โควตาของพรรคจะแบ่งเป็นภาคอีสาน 6 ที่นั่ง ภาคเหนือ 2 ที่นั่ง ภาคกลาง 1 ที่นั่ง และ กทม.1 ที่นั่ง ใช้หลักเกณฑ์ความอาวุโส ความถนัดและความเชี่ยวชาญเป็นหลักสัปดาห์หน้าจะชัดเจนมากขึ้น

ทึ้งวุ่น กมธ.ทหาร–ตร.–องค์กรอิสระ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมร่วมกันของวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน เพื่อจัดสรรโควตาประธาน กมธ. ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากพรรคใหญ่ต่างช่วงชิงตำแหน่งประธาน กมธ.คณะสำคัญ โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ต้องการโควตาประธาน กมธ.ทหาร ประธาน กมธ.ตำรวจ และประธาน กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ อัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน เป็น กมธ. ที่พรรครัฐบาลต้องการดูแลเอง ทำให้ยังไม่มีข้อยุติ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯจึงขอหารือประชุมกับหัวหน้าพรรคหรือตัวแทนพรรคทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านเพื่อยุติปัญหาวันที่ 6 ก.ย. เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า มีข่าวจากสื่อมวลชนทำนองว่าพรรคอนาคตใหม่ประสงค์ตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญบางคณะ จนทำให้ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง พรรคมีสิทธิได้รับจัดสรรประธานคณะ กมธ. 6 คณะ แต่ยังไม่ได้แสดงความประสงค์ดูคณะใด เพราะต้องสอดรับและตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ กระบวนการจัดสรรประธาน กมธ.วิปสองฝ่ายจะหาข้อสรุปอีกครั้ง

กรมราชทัณฑ์ปล่อยตัว “สนธิ”

เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณหน้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่า หลังมีกระแสข่าวการปล่อยตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 72 ปี ผู้ต้องหาชั้นเยี่ยมออกจากเรือนจำ มีนักข่าวมาเฝ้าติดตามจำนวนหนึ่ง โดยไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดให้ข้อมูล กระทั่งเวลา 15.20 น. มีรถพยาบาลของกรมราชทัณฑ์มาจอดที่บริเวณทางเข้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อนมีชายสูงวัยคนหนึ่งลักษณะคล้ายนายสนธิ เดินลงมาจากรถคันดังกล่าว สวมชุดนุ่งขาวห่มขาว สวมแว่นตา เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ไม่มีใครยืนยันว่าใช่นายสนธิหรือไม่ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าวันที่ 4 ก.ย. กรมราชทัณฑ์มีหนังสือชี้แจงการปล่อยตัวนายสนธิ ใจความสรุปว่า นายสนธิเป็นผู้ต้องหาชั้นเยี่ยมที่ต้องความผิดเกี่ยวกับกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประกอบกับมีความประพฤติดี มีอายุเกิน 70 ปี และมีโรครุมเร้าหลายอย่างจึงเข้าข่ายได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2562