นายกฯ สั่งทุกฝ่ายช่วยเหลือ สำรวจความเสียหายพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือน รวมทั้งดูแลฟื้นฟูผู้ประสบภัยพายุโพดุลหลังน้ำลด มั่นใจรัฐบาลเข้าคลี่คลายสถานการณ์ทันเวลา

เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2562 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยฉับพลัน จากพายุ โพดุล อย่างใกล้ชิด รวมทั้งกำกับดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั้ง 16 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา จนขณะนี้ ได้รับรายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำได้ลดลงในเกือบทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจากนี้จะต้องเร่งสำรวจความเสียหายทั้งอาคาร บ้านเรือน และพื้นที่เกษตรกรรม โดยได้กำชับให้ทุกหน่วยงาน บูรณาการร่วมกัน ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเสียหายและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึง และทันเวลา 

นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไปและขอประชาชนที่ได้รับความเสียหาย และยังไม่ได้รับความช่วยเหลือติดต่อได้ที่ สายด่วน 1784 ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง 

...

ด้านน.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่นายกฯ ได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโพดุลให้รวดเร็ว นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กรมชลประทานเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังทั้งในพื้นที่เกษตร พื้นที่ชุมชน และพื้นที่เศรษฐกิจ และได้รับรายงานจากนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานว่า จากพื้นที่ประสบอุทกภัย 19 จังหวัด จังหวัดนครราชสีมา เข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว ทั้งนี้ยังคงระดมเครื่องจักร-เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถขุด พร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนมากเข้าไปคลี่คลายปัญหาโดยเร่งด่วน

พร้อมกันนี้ นายเฉลิมชัยได้สั่งการกรมส่งเสริมการเกษตรให้เตรียมเข้าสำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตรทันทีหลังน้ำลด โดยนายสำราญ สารบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรรายงานว่า มอบหมายให้เกษตรจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากพายุโพดุล โดยเฉพาะพื้นที่ได้รับผลกระทบ 44 จังหวัด เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ขณะนี้เกษตรอำเภอและเกษตรจังหวัดได้ออกเตือนเกษตรกรเฝ้าระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตร ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในการดูแลข้าว พืชไร่ ไม้ผล เพราะช่วงนี้ บางพื้นที่เป็นช่วงที่บางพืชเก็บเกี่ยวจึงต้องเตรียมช่วยเหลือเกษตรกร นอกจากนี้ยังได้เตรียมการให้ผลิตชีวภัณฑ์เช่น ไตรโคเดอร์ มาเพื่อเตรียมแจกจ่ายช่วยเหลือเกษตรกรหลังน้ำลดทันที หลังน้ำลดสารชีวภัณฑ์จะสามารถช่วยลดผลกระทบจากโรคพืชที่มากับน้ำได้

สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ จะจ่ายให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย จ่ายเงินช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่จริงที่ได้รับความเสียหาย รายละไม่เกิน 30 ไร่ ซึ่งกำหนดให้นาข้าวได้รับอัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ได้รับอัตราไร่ละ 1,148 บาท และพืชสวนและอื่นๆ ได้รับอัตราไร่ละ 1,690 บาท ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556.