"นายกฯ" นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าตักบาตรพระสงฆ์ 488 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 ส.ค.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2562 ที่บริเวณท้องสนามหลวง

โดยมีพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยองคมนตรี ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ส่วนราชการในพระองค์ ประธานองค์กรอิสระ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ภาคเอกชน ประชาชน ร่วมพิธีกว่า 3,000 คน ทั้งนี้ นายกฯ ได้ย้ำขอข้าราชการช่วยกันเผยแพร่ความรู้ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

...

ขณะที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะกรรมการป่ารอยต่อ 5 จังหวัดถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา

ขณะที่คำ่คืนนี้ เวลา 19.30 น. รัฐบาลขอเชิญหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างพร้อมเพรียงกัน ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร ส่วนภูมิภาคตามสถานที่ที่แต่ละจังหวัดกำหนด ให้แสงเทียนแห่งการถวายพระพรชัยมงคลสว่างไสวพร้อมกันทั่วประเทศ

และตลอดเดือนสิงหาคมนี้ รัฐบาลขอเชิญประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมกิจกรรมจิตอาสาฯ ในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เช่น การขุดลอกคูคลอง เก็บขยะ การเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ด้อยโอกาส คนชรา ตามความเหมาะสม เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลในโอกาสสำคัญนี้ ซึ่งวันที่ 14 สิงหาคมนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี จะร่วมกิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา ณ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ถนนราชวิถี โดยมีการจัดทำสมุดเยี่ยมอักษรเบรลล์ จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบสิ่งของใช้ส่วนตัว และกิจกรรมการแข่งขันชักเย่อ และฟุตบอล ระหว่างคณะรัฐมนตรีร่วมกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6.