เนื่องในโอกาสสำคัญ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
คณะกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทอง หลังพระ ที่มี ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เป็นประธานกรรมการได้ร่วมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานในระยะที่ 3 มีสาระสำคัญคือ การนำแนวพระราชดำริไปช่วยแก้ไขปัญหาความมั่นคง พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การแก้ไขปัญหายาเสพติดและการแก้ไขปัญหาในภาคใต้
โดยเฉพาะ ปัญหาในภาคใต้ มีมาต่อเนื่องยาวนานและทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ซึ่งหลังจากรวบรวมปัญหาของประชาชนพบว่า การแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ชาวบ้านมีความต้องการในการพัฒนาการทำมาหากิน ในขณะที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือมี ปัญหาเรื่องของยาเสพติด ทั้งนี้ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เศรษฐกิจปากท้องได้รับการแก้ไข
โครงการปิดทองหลังพระได้มีการร่วมมือกับชุมชนในการวิเคราะห์ปัญหา วางแนวทางแก้ไขและพัฒนา จนเป็นที่มาของเกษตรแนวใหม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนางานหัตถกรรม ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของชาวบ้านดีขึ้นตามลำดับ
ยกตัวอย่างในพื้นที่ภาคใต้ มีปัญหาเรื่องสินค้าการเกษตรราคาตกต่ำ พื้นที่ประสบความแห้งแล้ง ชาวบ้านไม่มีความรู้ในการแก้ไขและการบริหารจัดการ หลังจากที่มีการอบรมและให้ความรู้ทำให้มีการพัฒนาแก้ปัญหา สินค้าการเกษตรมีคุณภาพดีขายได้ราคา ซึ่งปัจจุบัน โครงการปิดทองหลังพระ มีกิจกรรมอยู่ในภาคใต้ใน 7 หมู่บ้าน ส่วนในภาคเหนือได้มีการอบรมและให้ความรู้กับผู้นำชุมชน พัฒนาพื้นที่ตามแนวพระราชดำริ มีการส่งเสริมพื้นที่ต้นแบบใน 6 จังหวัด ได้แก่ น่าน อุทัยธานี เพชรบุรี อุดรธานี ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ มีการส่งเสริมการเรียนรู้และประสบการณ์อย่างกว้างขวาง
...
ปัจจุบันโครงการได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นสมาคม องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ช่วยกันพัฒนาแหล่งน้ำในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีจำนวนกว่า 1 พันแห่งและเป็น แหล่งน้ำขนาดเล็กที่ กรมชลประทานโอนให้ท้องถิ่นดูแลอีกเกือบ 2 หมื่นแห่ง ที่จะต้องร่วมมือในการพัฒนาต่อไป
การพัฒนาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้สร้างพื้นที่รับน้ำจำนวน 2.7 แสนไร่ ประชาชนประมาณ 8 แสนครัวเรือน มีน้ำพอเพียงในการทำการเกษตรสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็น 2.4 เท่าจากงบที่นำมาใช้ในการพัฒนาการเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ผ่านมานอกจากจะรับฟังปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ซึ่งมีการก่อความรุนแรงถี่ขึ้นและขยายวงมากขึ้น เป็นการรับทราบปัญหาเฉพาะหน้าแต่ปัญหาใหญ่คือ การกินดีอยู่ดีของประชาชน การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและราคาพืชผลการเกษตรในพื้นที่ภาคใต้
จึงจะเป็นการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในระยะยาวและยั่งยืน.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th