ในการบริหารราชการแผ่นดินตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันมีรูปแบบหนึ่ง ที่ใช้กันมานมนานกาเลเต็มทีคือการบริหารโดยใช้คณะกรรมการซึ่งมีอยู่นับร้อยชุด

คณะกรรมการซึ่งแต่งตั้งโดยรัฐบาลทุกครั้งที่เข้ามาใหม่นั้นมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย และ คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี

โดยคณะกรรมการรูปแบบแรก เป็นคณะกรรมการที่มีพระราชบัญญัติรองรับ กำหนดให้จัดตั้งขึ้น คณะกรรมการเหล่านี้ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลไปสักกี่รัฐบาล คณะกรรมการก็ยังมีอยู่ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างก็เพียงเฉพาะตัว ประธานกรรมการ หรือ รองประธานกรรมการ ที่เป็น รองนายกรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ทำการแทน เพราะคณะกรรมการแทบทุกชุดมักจะกำหนดให้ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานทั้งสิ้น

ตัวอย่างเช่น คณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน คณะกรรมการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ฯลฯ

รูปแบบหลัง เป็นคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี มีสถานะและศักดิ์ศรีเป็นรองกว่าคณะกรรมการในรูปแบบแรกเพราะมีฐานรองรับเพียงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ส่วนใหญ่ก็ระบุให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเช่นกัน พอตั้งรัฐบาลใหม่ทีก็ต้องแบ่งงานกันใหม่อย่างว่า

คณะกรรมการในรูปแบบนี้มีอาทิ คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ คณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ คณะกรรมการเอกลักษณ์ชาติ คณะกรรมการดิจิทัลเพืิ่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฯลฯ

...

พอมาถึงรัฐบาลชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรีคนเก่าคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากผ่านการแถลงนโยบายรัฐบาลแล้วก็มีการประชุม ครม.แบ่งงานมอบหมายให้ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบแทนนายกรัฐมนตรีในการกำกับดูแลและการสั่งและปฏิบัติราชการในส่วนราชการต่างๆไปแล้ว

แต่การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทน นายกรัฐมนตรีนั้นยังไม่ออกมา เพราะมี มติคณะรัฐมนตรี ถึงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 ว่า

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เสนอเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการต่างๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของคณะรัฐมนตรีชุดเดิม โดยให้คณะกรรมการต่างๆที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 และภายหลังจากนั้นให้คณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งทุกคณะเป็นอันสิ้นสุดลง

หากส่วนราชการใดพิจารณาเห็นว่าคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะใด ยังมีภารกิจสำคัญและจำเป็นที่จะต้องคงอยู่ต่อไปเพื่อให้สามารถดำเนินการภารกิจได้อย่างต่อเนื่อง ให้เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการคณะนั้นๆขึ้นใหม่ โดยให้ตรวจสอบและปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน แล้วส่งไปยัง สลค.โดยด่วน ภายในวันที่ 30 กันยายน 2562

ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการพิจารณาการคงอยู่ของคณะกรรมการดังกล่าว โดยยึดหลักเกณฑ์ คือมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับส่วนราชการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง มีนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล และในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2559-2562) มีการจัดประชุมคณะกรรมการอย่างสม่ำเสมอ และหากสามารถกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานและภารกิจสิ้นสุดที่ชัดเจนได้ให้ระบุวันสิ้นสุดของคณะกรรมการนั้นๆไว้ด้วย

การทบทวนที่ว่านี้เข้าใจว่าเป็นเฉพาะคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเท่านั้น.

“ซี.12”