ศรีสุวรรณ ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยกรณี "บิ๊กตู่" ถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบ มีประโยคสำคัญยิ่งที่ขาดหายไป ถึงขนาดอาจทำให้รัฐบาลชุดนี้เป็นโมฆะ


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ส.ค.62 ที่หัอง 502 ชั้น 5 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ถ.แจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมคณะ เดินทางมายื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยมีนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นผู้รับเรื่อง กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.62 ที่ผ่านมา โดยกล่าวถ้อยคำไม่ครบถ้วน บางถ้อยคำขาดหายแต่กลับมีบางถ้อยคำเพิ่มขึ้นมา ซึ่งไม่ตรงกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ม.161 ซึ่งขาดหายไปเป็นสาระสำคัญในประโยคที่ว่า...

"ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

ในเรื่องนี้ ได้เป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกันอย่างมากว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ปัญหาที่ตามมาจึงเกิดการถกเถียงกันอย่างมากจากกระแสสังคมนักวิชาการและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายและมีผลสมบูรณ์หรือไม่ และมีผลกระทบทางการเมืองทำให้คณะรัฐมนตรีเข้ารับทำหน้าที่โดยถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

ถ้อยคำที่คณะรัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ให้ครบ เป็นบทบัญญัติที่กำหนดไว้ตายตัวตามรัฐธรรมนูญ เพราะถือว่าเป็นสาระสำคัญอันเป็นองค์ประกอบของการถวายสัตย์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี กลับกล่าวคำถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน อาจมีผลกระทบทางการเมืองอย่างรุนแรง ถึงขนาดอาจทำให้รัฐบาลชุดนี้เป็นโมฆะ ไม่สามารถทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ต่อไป อีกทั้งถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ ตามบทบัญญัติ ม.53 ในหมวดว่าด้วยหน้าที่ของรัฐด้วย

...

จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องไปยังศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการวินิจฉัยชี้ขาดโดยเร็วต่อไป"