อนาคตใหม่ จัดเสวนาที่เชียงใหม่ “กษิต ภิรมย์” รับไม่ได้ทหารนั่งการเมือง ด้าน “โคทม” ชี้ ต้องหาฉันทามติก้าวข้ามความขัดแย้งการเมือง ขณะ “สมชัย” เผย แก้รัฐธรรมนูญเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวทีสานเสวนา เรื่อง “จินตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่ : ประเทศไทยแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน” ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความเห็นแก้รัฐธรรมนูญเวทีแรก จัดที่ จ.เชียงใหม่ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่สนใจประเด็นดังกล่าวเข้าร่วมเต็มห้องประชุม พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อของพรรค
ทางด้าน นายกษิต ภิรมย์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ที่เข้าร่วมงานกล่าวถึงความพยายามในการที่จะพาสังคมไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยว่ามีข้อจำกัด เริ่มต้นจากเราอยู่ภายใต้วัฒนธรรมสังคมการเมืองแบบอำนาจนิยมและระบบอุปถัมภ์ ที่ผ่านมาไม่ว่ารัฐบาลใดจนถึงรัฐบาลนี้ มักจะมีสิ่งที่เรียกว่า “โจรการเมือง” เข้ามาปะปนอยู่ด้วย แม้บางรัฐบาลไม่ได้มาจากหลักการประชาธิปไตย แต่การบริหารงานก็มีความซื่อสัตย์สุจริต และเห็นว่าจุดอ่อนของสังคม คือ ความล้มเหลวของระบบศีลธรรมในสังคมไทย ไม่มีใครกล้าพูดความจริงกับประชาชน ดังนั้น เวลาเราเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องเขียนเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนอยู่ในศีลธรรมด้วย
“ผมเป็นคนหนึ่งที่คัดค้านกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผมได้คัดค้านตั้งแต่เป็น สปท. โดยคัดค้านกรณีการให้พรรคการเมืองเสนอชื่อบุคคล 3 รายชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ผมรับไม่ได้ที่จะให้มีข้าราชการทหาร ผู้นำเหล่าทัพ เข้ามามีตำแหน่งทางการเมืองในสภา ไม่มีประชาธิปไตยที่ไหนในโลกที่ให้ข้าราชการประจำมีตำแหน่งทางการเมือง”
...
ขณะที่ นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัญหาที่เรามีขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาเชิงเศรษฐกิจ แต่เป็นปัญหาการเมือง เมื่อเราต้องการพัฒนาการเมือง ก็ต้องหาวิธีการใหม่ หาฉันทามติใหม่ว่าเราจะก้าวข้ามการเมืองที่มีความขัดแย้งอย่างไร เราจะหาจุดที่สามารถพูดคุยกันได้อย่างไร ที่ผ่านมา การตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นตามที่ประชาชนเลือก ไปหาเสียงขายนโยบาย แต่กลุ่มอำมาตย์และผู้มีลาภยศไม่เอาด้วยกับประชาชนถึง 2 ครั้ง เลยเกิดนวัตกรรมใหม่เป็นรัฐธรรมนูญ 2560 โดยผู้แสดงปาฏิหาริย์ทางกฎหมายครั้งแล้วครั้งเล่า รัฐธรรมนูญต้องมีความเป็นธรรม ต้องมีความงดงามทั้งในตอนเริ่มต้น ตอนกลาง และตอนปลาย ทั้งนี้ อยากเห็นอำนาจรัฐมาจากมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือพระผู้เป็นเจ้า
ส่วน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง ระบุว่า ทุกฝ่ายมีส่วนในการสร้างความขัดแย้งด้วยกันทั้งสิ้น และจาก 30 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเราหยุดอยู่กับที่ จมอยู่ในปลัก ยังไม่เห็นอนาคตในการเปลี่ยนแปลงต่างๆ การแก้ไขรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหา และเห็นว่าภายใต้ระบบการเมืองที่เป็นอยู่ไม่ได้แก้ปัญหาอย่างแท้จริง เพราะรัฐธรรมนูญคือการออกแบบให้ได้มาซึ่งฝ่ายการเมืองที่มีความสามารถเพื่อมาแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ รัฐธรรมนูญต้องสร้างกลไกการบริหารบ้านเมืองที่มีเสถียรภาพ สร้างความมั่นคงทางการเมือง และเดินไปอย่างมั่นคง.