“ศุภชัย” ตรวจความพร้อมห้องประชุมพระจันทรา รัฐสภาใหม่ ยัน ต้องมุ่งหน้าหารือแก้ปัญหาให้ประชาชน เชื่อทุกคนคิดได้ว่าต้องทำอะไรก่อน ไม่ใช่เปิดประชุมแล้วมุ่งแก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียว
นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันทดสอบความพร้อมห้องประชุมพระจันทรา ภายในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งจะใช้เป็นที่ประชุม ส.ส., ส.ว. และประชุมร่วมรัฐสภา โดยวันนี้จะเป็นการทดสอบทั้งระบบการรักษาความปลอดภัย ระบบเสียง ระบบภาพ และระบบการลงคะแนนที่เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมเสมือนจริงก่อนจะเริ่มใช้สำหรับการประชุมในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ทดแทนการใช้รัฐสภาชั่วคราว ที่หอประชุมบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งหลังจากนี้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เตรียมรับมอบพื้นที่จาก บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 40% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อมาใช้งานตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ห้องประชุมพระจันทรา ถูกออกแบบมาสำหรับการประชุม ส.ว. ซึ่งมีที่นั่งรองรับไม่เกิน 350 ที่นั่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมเสริมเก้าอี้อีก 150 ที่นั่ง เพื่อให้เพียงพอกับจำนวน ส.ส. 500 คน ส่วนกรณีที่มีการประชุมร่วมรัฐสภา ในส่วนของ ส.ว. ก็จะไปใช้เก้าอี้รับรองผู้มาเยี่ยมชมการประชุมที่สามารถรองรับคนได้ 250 คนต่อไป ขณะที่การลงมติของสมาชิก สมาชิกที่นั่งเก้าอี้เสริมจะแยกลงมติอีกชุดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้หลังห้องประชุม แต่ยังคงใช้เครื่องลงคะแนนเช่นเดียวกับสมาชิกที่นั่งเก้าอี้หลัก ส่วนการอภิปรายของสมาชิกที่นั่งเก้าอี้เสริม ก็จะใช้ไมโครโฟนร่วมกันกับสมาชิกที่นั่งเก้าอี้หลักเช่นเดียวกัน
สำหรับการทดสอบเป็นไปอย่างราบรื่น กระทั่ง นายศุภชัย ขอให้สมาชิกทดสอบการเสียบบัตรรายงานตัวและทดสอบระบบการลงคะแนน ซึ่งขณะที่นายศุภชัยที่ทำหน้าที่ประธานสภาเอื้อมมือไปเสียบบัตรลงคะแนนก็เกือบที่ถูกไมโครโฟนกระแทกเข้าที่ปาก จึงระบุว่า การทดสอบระบบวันนี้ดีทุกอย่าง ยกเว้นไมโครโฟนของประธานที่สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บ โดยไมโครโฟนภายในห้องประชุมมีความยาวกว่า 70 เซนติเมตร และถูกออกแบบมาให้สมาชิกลุกขึ้นยืนอภิปราย ทำให้ความยาวไม่เหมาะสมสำหรับประธานสภาที่จะนั่งทำหน้าที่ตลอดทั้งวัน เบื้องต้นสั่งการให้มีการปรับปรุงแก้ไขในส่วนนี้แล้ว ส่วนห้องประชุมนี้มีความพร้อมแล้ว 99% เชื่อว่าจะสามารถใช้รองรับการประชุมในสัปดาห์หน้าได้ ส่วนการลงมติในที่ประชุมจะมีการหารืออีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากที่ลงคะแนนมีเพียง 350 เครื่อง อย่างไรก็ตาม นายศุภชัยเชื่อว่าทุกอย่างจะเสร็จทันการประชุมในวันที่ 7 ส.ค.
...
เมื่อถามความเห็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายศุภชัย ระบุว่า ตนเองต้องเป็นกลาง ไม่สามารถแสดงความเห็นได้เพราะจะกลายเป็นการชี้นำ แต่ก็ต้องฟังเสียงสะท้อนของสมาชิกว่ามีความเห็นอย่างไร แต่เชื่อว่าการแก้รัฐธรรมนูญสามารถพูดคุยแสดงความเห็นเพื่อให้ตกผลึก โดยอาจตั้งวงหารือเชิงวิชาการ แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้ คือ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน ไม่ใช่เปิดสภามาไม่กี่วันก็จะบุกเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม นายศุภชัยยังเชื่อว่าสมาชิกทุกคนมีสมองสามารถคิดได้ว่าจะทำอย่างไร.