ทันทีที่รัฐบาลประยุทธ์ 2 โยกเกียร์ห้าเดินหน้าเต็มสตีม
บรรดานโยบาย แจกแหลก แจกกระจาย แจกกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์ ที่พรรคพลังประชารัฐตีปี๊บหาเสียงไว้มากมายมโหฬารก็กลายเป็น “ห่วงผูกคอ” รัฐบาลต้องเร่งทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้กับประชาชน
ลืมไม่ได้ เลิกไม่ได้ ลดไม่ได้ เบี้ยวไม่ได้ทุกกรณี!!
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า นายกฯลุงตู่ จะทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้อย่างแน่นอน
แต่เมื่อเม็ดเงินในกระเป๋ามีจำกัด รัฐบาลจึงไม่สามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ครบถ้วนพร้อมกันทันที
บางนโยบายจำเป็นต้องเลื่อน... ไปก่อนชั่วคราว
นโยบายแรกที่เจอโรคเลื่อนแน่นอน คือ “โครงการมารดาประชารัฐ” แจกเงินสวัสดิการฟรีๆเดือนละ 3,000 บาท ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงกำหนดคลอดเป็นเวลา 9 เดือน
แถมรัฐบาลสัญญาจะแจกเงินอัดฉีดช่วยค่าทำคลอดอีก 10,000 บาทต่อราย
จากนั้นจะแจกเงินอุดหนุนค่าเลี้ยงลูกแบบนันสต็อปอีก 2,000 บาทต่อเดือนจนอายุครบ 6 ปี
รวมเป็นเงินแจกฟรีโครงการมารดาประชารัฐ “1.8 แสนบาท” ต่อเด็กเกิดใหม่ 1 คน
ล่าสุด ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.กระทรวงอุดมศึกษาฯ ยอมรับสารภาพว่าโครงการมารดาประชารัฐที่หาเสียงไว้ยังไม่พร้อมดำเนินการทันที
จะเริ่มรูดปื๊ดๆตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
โดยในขั้นแรก รัฐบาลจะแจกเงินอัดฉีดโครงการมารดาประชารัฐ เฉพาะผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.5 ล้านคน
ส่วนคุณแม่ที่ไม่มีฐานะยากจน ไม่ได้ลงทะเบียนคนจน และไม่ได้ถือบัตรเครดิตคนจน
จะไม่มีสิทธิรับโปรโมชันแจกฟรีๆ 1.8 แสนบาทจากรัฐบาล
อ้าว...เป็นงั้นไป?
“แม่ลูกจันทร์” ตรวจสอบข้อมูลสถิติประชากรไทย ล่าสุดประเทศไทยมีประชากรเด็กเกิดใหม่เฉลี่ยปีละ 700,000 คน
...
หากรัฐบาลทำใจปํ้าแจกค่าเลี้ยงดูเด็กเกิดใหม่ปีละ 7 แสนคน
รัฐบาลคงต้องแบกรายจ่ายโครงการมารดาประชารัฐริดสีดวงบานเป็นกลีบมะไฟแน่นอน
นี่คือเหตุผลที่รัฐบาลต้องจำกัดสิทธิแจกฟรี เฉพาะมารดาที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกลุ่มเดียว
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่านโยบายมารดาประชารัฐของรัฐบาลประยุทธ์ 2 เป็น “นโยบายดาบสองคม”
ข้อดี คือ ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จำเป็นต้องเร่งอัตราการเกิดเด็กเกิดใหม่ เพื่อทดแทนประชากรวัยชรา
แต่ข้อเสีย คือ โครงการมารดาประชารัฐจะสร้างปัญหาสังคมในระยะยาว
เพราะเป็นนโยบายจูงใจผู้มีรายได้น้อยให้มีลูกเยอะๆ เพื่อรับเงินแจกฟรีจากรัฐบาล
จะเกิดปัญหาการตั้งท้องวัยรุ่น วัยเรียน ปัญหาพ่อแม่อายุน้อย ไม่มีความพร้อมเลี้ยงดูลูกๆให้เจริญเติบโตเป็นประชากรคุณภาพอย่างที่ฉายหนังโฆษณา
แทนที่เด็กๆเหล่านี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศไทย
อาจกลายเป็นภาระฉุดรั้งให้สังคมไทยถดถอยยิ่งกว่าเดิม
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แลแฮ.
“แม่ลูกจันทร์”