โฆษก กอ.รมน. เผย การประชุม นขต.กอ.รมน. ทางพื้นที่ภาคใต้ ส่ง ทหาร-ตำรวจ-เจ้าหน้าที่ 3,873 นาย เสริมกำลังลงทะเบียนซิมการ์ด พร้อมขอความร่วมมือ ยันเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกันพร้อมเร่งทำลาย สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ก.ย.นี้ กว่า 10 ล้านชิ้น... 

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.62 ที่สวนรื่นฤดี กอ.รมน. พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. เปิดเผยว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้จัดการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ครั้งที่ 7/2562 เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนที่ผ่านมา มี พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก และเลขาธิการ กอ.รมน. เป็นประธาน และมีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงของ กอ.รมน. (ส่วนกลาง) และผู้แทนของ กอ.รมน.ภาค 1-4 เข้าร่วมประชุมฯ

พล.ต.ธนาธิป กล่าวว่า ที่ประชุมมีการพิจารณา เรื่องการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันการติดตามความคืบหน้า การลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นมาตรการที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์โดยแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 สนับสนุนเจ้าหน้าที่รับลงทะเบียน มีจำนวน ยอดทั้งสิ้น 3,873นาย แบ่งออกเป็นทหาร (กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า) จำนวน 1,332 นาย, ตำรวจ (กกล.ตร.จชต.) จำนวน 669 นาย และเจ้าหน้าที่ ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ จำนวน 1,872 นาย ในส่วนของ กสทช. จัดทำแอปพลิเคชันการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ระบบ “สองแชะ อัตลักษณ์”

ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิและการลงทะเบียนระบบ "สองแชะ อัตลักษณ์" เป็นการบันทึกหมายเลขประจำตัวบัตรประชาชนและภาพใบหน้าของเจ้าของซิมการ์ดโทรศัพท์ สรุปมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มาลงทะเบียนแล้ว จำนวน 148,796 คน จากการดำเนินการดังกล่าว สามารถทำให้ป้องกันผู้แอบอ้างการใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งเพื่อสร้างความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ กอ.รมน.

...

จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา ได้ร่วมกันลงทะเบียนซิมการ์ดได้จนถึงวันที่ 31 ต.ค.62 ณ ศูนย์บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกระบบที่ให้บริการอยู่ในพื้นที่ฯ

โฆษก กอ.รมน.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณา เรื่องการทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กอ.รมน.ได้จัดการประชุมคณะทำงานทำลายของกลาง คดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ในครั้งที่ 1/2562 โดยมี ผู้อำนวยการศูนย์การปฏิบัติที่ 3 (ศปป.3) เป็น ประธานคณะทำงานทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นประธานการประชุม และมี กรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นเลขาฯการประชุมโดยที่ประชุมฯได้มีมติกำหนดจัดพิธีทำลายของกลางในช่วงเดือนสิงหาคม หรือประมาณ ต้นเดือนกันยายน นึ้ด้วยวิธีเผาและการบดทำลายด้วย รถบดหรือเครื่องบด รวมทั้งวิธีการใช้เครื่องตัดเพื่อให้ของกลางเสื่อมสภาพและไม่สามารถ นำกลับมาใช้ได้อีก โดยที่ไม่เป็นมลภาวะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม

พล.ต.ธนาธิป กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องการจัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กับ วัดแสงอรุณหรือวัดป่าดานวิเวก และมูลนิธิพุทธะสมุนไพรคู่แผ่นดินไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กอ.รมน.ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง กอ.รมน.กับวัดแสงอรุณ หรือวัดป่าดานวิเวก และมูลนิธิพุทธะสมุนไพรคู่แผ่นดินไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีเจตนารมณ์ร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ในการคุ้มครองป้องกันอนุรักษ์พัฒนาและการใช้ทรัพยากรในโครงการอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อเป็นไปตามพระธรรมวินัยกฎหมาย ว่าด้วยการป่าไม้ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 เป็นผู้แทนของ กอ.รมน.ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือกับเจ้าอาวาสวัดแสงอรุณฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ

สำหรับการลงนามฯดังกล่าว เป็นไปตามภารกิจหลักในการเสริมสร้างความมั่นคง ด้านทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน อาหารและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันดูแลรักษาป่า ระหว่างวัดที่อยู่ในพื้นที่ของกรมป่าไม้และพื้นที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จำนวน 3 พันไร่ ซึ่งการลงนามในครั้งนี้จะทำให้การดูแลผืนป่าแห่งนี้มีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์และก่อให้เกิดประโยชน์กับชุมชน และประเทศชาติโดยรวมต่อไป.